ถ้าพูดถึงฤดูทั้งสี่ของประเทศญี่ปุ่น แต่ละคนก็อาจจะมีฤดูที่ชอบหรือรสนิยมที่แตกต่างกันไป แต่สำหรับผู้เขียนแล้ว ฤดูใบไม้ร่วงถือเป็นฤดูที่สวยที่สุด เพราะทิวทัศน์ของสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเปลี่ยนสีไปตามใบไม้เป็นสีเหลือง ส้ม หรือแดงนั้น ทำให้ได้ความรู้สึกที่แตกต่างและไม่ซ้ำกันเลยแม้จะมาหลายครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็มีแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แถมแต่ละปีก็อาจจะไม่ตรงกัน และหลายๆ คนก็อาจจะลางานได้ไม่ตรงช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี แต่ความจริงแล้ว หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะมีระยะเวลาใบไม้เปลี่ยนสีที่ไม่เหมือนกันในแต่ละพื้นที่ ดังนั้นในครั้งนี้ เราจะมาแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่แรกของประเทศญี่ปุ่นซึ่งจะเปลี่ยนสีตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน สถานที่แห่งนั้นก็คือ Daisetsuzan National Park นั้นเอง
ระยะเวลาใบไม้เปลี่ยนสีของประเทศญี่ปุ่น
อันดับแรก เรามาคุยเกี่ยวกับระยะเวลาใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงของประเทศญีุ่่ปุ่นกันดีกว่า เนื่องจากใบไม้เปลี่ยนสีนั้นเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นกับต้นไม้เพื่อปรับตัวเองให้เข้าได้กับอากาศเย็นของฤดูหนาว ใบไม้เปลี่ยนสีจึงจะไล่ขึ้นมาจากทิศเหนือสู่ทิศใต้ ซึ่งถ้าอ้างอิงจากปี 2025 แล้ว ลำดับใบ้ไม้เปลี่ยนสีจะเป็นไปตามด้านล่างนี้
ฮอกไกโด : กลางเดือนกันยายน – ปลายเดือนตุลาคม
โทโฮคุ (อาโอโมริ เป็นต้น) : ต้นเดือนตุลาคม – กลางเดือนพฤศจิกายน
คันโต (โตเกียว เป็นต้น) : ต้นเดือนตุลาคม – ต้นเดือนธันวาคม
คันไซ (โอซาก้า เป็นต้น) : ปลายเดือนตุลาคม – กลางเดือนธันวาคม
ชิโคคุ (เอฮิเมะ เป็นต้น) : ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนธันวาคม
คิวชู (ฟุกุโอกะ เป็นต้น) : ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนธันวาคม
จะสังเกตได้ว่าฮอกไกโดเป็นภูมิประเทศแรกที่มีใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น เห็นตารางตรงนี้แล้ว ใครอยากมาดูใบไม้เปลี่ยนสีก็เตรียมกาปฏิทินกันดีๆ ล่ะ
ทำความรู้จักกับ Daisetsuzan National Park

ลำดับถัดมา เรามาทำความรู้จักกับที่แห่งนี้กันดีกว่า Daisetsuzan National Park หรือ อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง เป็นอุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเกาะฮอกไกโด มีพื้นที่มากถึง 2,267 ตร.กม. ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่บริเวณเมืองอาซาฮิคาวะ เมืองคามิคาวะ เมืองบิเอะ และเมืองฟูราโนะ ทำให้ที่นี่ถือเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ในอุทยานมีทั้งภูเขาและพื้นที่ธรรมชาติสวยๆ มากมาย โดยมียอดเขาที่สูงที่สุดชื่อ Asahidake ซึ่งมีความสูงถึง 2,291 เมตรเป็นมงกุฎของอุทยาน
ความพิเศษของที่นี่คือเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและอยู่บริเวณบนสุดของประเทศ ที่นี่จึงเป็นสถานที่แรก ๆ ที่มีหิมะตกและใบไม้เปลี่ยนสี มีธรรมชาติที่สวยงามขึ้นชื่อสามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดู จึงไม่แปลกเลยที่ที่นี่จะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงจนได้ฉายาว่า “สนามเด็กเล่นของพระเจ้า”
ไฮไลท์ของ อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง
อยากที่เราบอกไปเบื้องต้นว่าที่นี่เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น จึงไม่แปลกเลยว่าทำไมด้านในถึงมีสถานที่สวยๆ ที่น่าสนใจเต็มไปหมด แต่เนื่องจากด้านในกว้างใหญ่มาก เดินทั้งวันก็ไม่หมด ทำให้ในครั้งนี้ เราก็ได้คัดสถานที่ไฮไลท์เด่นๆ สวยๆ มาให้ทุกคนทำความรู้จัก จะมีที่ไหนบ้าง เรามาดูพร้อมกันเลยดีกว่า
Asahidake

สำหรับไฮไลท์แรกที่เราจะมาแนะนำ แน่นอนว่าก็ต้องเป็นภูเขาที่สูงที่สุดของที่นี่ ความพิเศษของที่นี่ก็คือมีกระเช้าลอยฟ้าที่จะให้คณไปจุดชมวิวซึ่งมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,600 เมตร ซึ่งนอกจากวิวบนภูเขาที่สวยจนหยุดหายใจแล้ว รอบข้างยังเต็มไปด้วยดอกไม้ป่าหรือใบไม้เปลี่ยนสีต่างๆ ที่สวยสุดๆ ไม่ว่าจะวางสายตาไปที่ไหน หรือถ้าเป็นสายเดินเขา เราก็สามารถเดินชมวิวธรรมชาติต่อไปจนถึงยอดเขาได้อีกด้วย
และนอกจากฤดูใบไม้ผลิซึ่งเราแนะนำแล้ว ที่นี่ยังสามารถได้ในฤดูหนาวที่ภูเขาขาวโพลนไปด้วยหิมะ หรือหน้าร้อนที่เขียวชอุ่มเต็มไปด้วยดอกไม้ หรือที่พิเศษกว่านั้น ที่นี่ยังมีออนเซ็นอยู่บริเวณเชิงเขาให้เราใช้บริการอีกด้วย ครบครันสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะ
Daisetsu Kogen Onsen

ลำดับถัดมาที่เราอยากจะแนะนำก็คือ Daisetsu Kogen Onsen สำหรับที่นี่ ถือเป็นเส้นทางเดินเขาสุดสวยงาม ซึ่งมีออนเซ็นอันขึ้นชื่อแห่งนี้เป็นแลนด์มาร์ก โดยออนเซ็น Daisetsu Kogen แห่งนี้ตั้งอยู่ 1260 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และไฮไลท์พิเศษของที่นี่ ก็เป็นคอร์สเส้นทางพิเศษเป็นวงกลม ซึ่งใช้เวลาเดินประมาณ 4 ชั่วโมง ที่จะมีภาพสวยๆ วิวใบไม้เปลี่ยนสีสุดตระการตาตลอดทาง แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากที่นี่ถือเป็นจุดเป็นยังคงเป็นป่าและธรรมชาติอยู่มาก อีกทั้งยังเป็นจุดที่พบหมีสีน้ำตาลอยู่เยอะ ทำให้ก่อนเดินทาง เราจึงต้องเข้าฟังการบรรยายที่ศูนย์ข้อมูลหมีสีน้ำตาล เพื่อให้ทราบถึงข้อควรระวังและวิธีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าหากต้องเจอกับน้องหมีในช่วงการเดินป่าก่อนเข้าชม
Sounkyo

สำหรับ Sounkyo หรือที่หลายๆ คนเรียกกันว่า Sounkyo Onsen ถือเป็นจุดแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งในอุทยานแห่งนี้ โดยที่นี่จะเป็นหมู่บ้านออนเซ็นสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีที่พัก หรือน้ำพุร้อนอยู่หลายแห่งสำหรับนักท่องเที่ยว รอบๆ ตัวเมืองก็เต็มไปด้วยแหล่งขึ้นชื่อมากมายไม่ว่าจะเป็นน้ำตก Ginga no Taki หรือน้ำตก Ryusei no Taki นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ที่นี่เป็นจุดสตาร์ทเพื่อขึ้นกระเช้าไปชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ Kurodake ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กที่ครบครัน ถ้าใครกำลังวางแผนจะมาเที่ยวแบบพักหนึ่งคิน มาพักที่ Sounkyo แห่งนี้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยล่ะ
Ginsendai

แม้ภายในอุทยานแห่งชาติแห่งนี้จะมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ อีกหลายที่ แต่ถ้าจะให้คัดที่ที่ห้ามพลาดจริงๆ อีกหนึ่งแห่งมาแนะนำ เราก็ต้องแนะนำ Ginsendai แห่งนี้แหละ เพราะที่นี่ถือเป็นเส้นทางเดินเขาและจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดจุดหนึ่งของอุทยานแห่งนี้เลย สำหรับเส้นทางเดินเขา Ginsendai แห่งนี้ ถือเป็นเส้นทางที่ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ชั่วโมงในการเดิน และตั้งอยู่ในความสูง 1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เนื่องจากเส้นทางเดินเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างลาดชัน ทำให้อาจทำให้เหนื่อยและต้องเตรียมความพร้อมกันมาสักหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มที่จะเหนื่อยแน่นอน
การเดินทาง
สำหรับการเดินทางมาที่นี่ สามารถแบ่งออกเป็นหัวข้อย่อยๆ ได้สองหัวข้อคือ การเดินทางมายัง Daisetsuzan National Park และการเดินทางข้างในอุทยาน สำหรับการเดินทางมาที่นี่ วิธีที่สะดวกที่สุดคือการนั่งเครื่องบินมาลงที่ Asahikawa Airport จากนั้นสามารถนั่งรถบัสประมาณ 30 นาทีมาเพื่อลงที่ Asahikawa Station ที่นี่จะเป็นคล้ายๆ จุดต่อรถที่สามารถนั่งรถเข้าไปยังอุทยานได้
และเนื่องจากอุทยานแห่งนี้มีขนาดกว้างใหญ่ สายรถที่นำเที่ยวจึงแบ่งเป็น 2 ฝั่งหลักๆ ได้แก่ Asahidake และ Sounkyo ซึ่งใช้เวลานั่งรถบัสจาก Asahikawa Station แห่งละประมาณสองชั่วโมง ซึ่งอาจจะต้องเลือกเดินทางตามแพลนการเดินทางของเราว่าสถานที่ที่เราอยากไปนั้นใกล้ที่ไหน เช่น Ginsendai จะอยู่ใกล้ฝั่ง Sounkyo มากกว่าเล็กน้อย ส่วน Daisetsu Kogen Onsen จะอยู่ห่างกับทั้งสองฝั่งแต่ก็มีรถบัสพาไปจากทั้งสองฝั่ง สำหรับการเดินทางด้านในอุทยาน จะมีรถบัสให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ตามจุดท่องเที่ยวหลักๆ และมีรอบรถประจำวันของแต่ละเส้นทาง แต่อย่างไรก็ตาม การเดินทางภายในอุทยาน กูรูทุกสำนักแนะนำว่าควรจะเช่ารถขับจะดีที่สุด เพราะสามารถดื่มด่ำกับทัศนียภาพและความสวยงามของที่นี่ได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งไม่ต้องพะวักพะวนเรื่องตกรถ
พิกัด
อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง : https://maps.app.goo.gl/LrTjZ4wrVUSaiKUQA
Asahidake : https://maps.app.goo.gl/xkpHxpKm1Q8HeqDs7
Daisetsu Kogen Onsen : https://maps.app.goo.gl/goqYkBLBkasBNkQs5















