ถ้าคุณเป็นแฟนแอนิเมชันของประเทศญี่ปุ่น หรือเป็นคนที่หลงใหลในการ์ตูนของสตูดิโอ “จิบลิ” ละก็ มั่นใจว่าคุณจะต้องรู้จักการ์ตูนเรื่อง Spirited Away หรือชื่อภาษาไทยว่า มิติวิญญาณมหัศจรรย์ อย่างแน่นอน เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของเด็กสาวคนหนึ่ง ที่ต้องไปทำงานในโรงอาบน้ำของเหล่าภูตผีปีศาจโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ว่าหลายคนอาจจะไม่รู้ ว่าความจริงแล้ว โรงอาบน้ำในเรื่องนั้นมีที่มาและแรงบันดาลใจมาจากโรงอาบน้ำที่มีอยู่จริงๆ ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งโรงอาบน้ำนั้นก็คือ Dogo Onsen ออนเซ็นที่เก่าแก่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเราจะมาแนะนำให้ทุกคนรู้จักและได้ไป ตามรอย Spirited Away กันในครั้งนี้นี่เอง

ทำความรู้จักกับ Dogo Onsen

Dogo Onsen เป็นหนึ่งในออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่จังหวัดเอฮิเมะ โดยออนเซ็นแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 3,000 ปี โดยเป็นหนึ่งในสถานที่ไม่กี่แห่งที่เคยถูกกล่าวถึงใน Nihon Shoki หรือบันทึกประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นซึ่งบันทึกมาตั้งแต่ปี 720 และยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
เนื่องจากเป็นออนเซ็นที่มีประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ ทำให้ที่ Dogo Onsen แห่งนี้ได้รับเลือกให้เป็น สมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นในปี 1994 และถูกพูดถึงในสื่อสมัยใหม่มากมาย ยกตัวอย่างเช่นในเรื่อง “บตจัง” ของนัตสึเมะ โซเซกิ นักเขียนญี่ปุ่นผู้โด่งดัง และที่พิเศษไปกว่านั้น แม้กระทั่งจักรพรรดิเมจิก็ยังเคยมาพักที่ออนเซ็นแห่งนี้ และมีการเก็บรักษาเก้าอี้ที่องค์จักรพรรดิเคยนั่ง และห้องที่พระองค์ที่เคยพัก ก็ถูกดูแลบูรณะไว้อย่างดีเพื่อให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม
โดยที่ Dogo Onsen จะแบ่งโรงอาบน้ำออกมาเป็น 3 โรงหลักๆ ได้แก่ Dogo Onsen Honkan, Asuka-no-Yu และ Tsubaki-no-Yu โดยแต่ละที่ก็มีจุดเด่นและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน โดยแต่ละแห่งจะต่างกันอย่างไร มีอะไรพิเศษกันบ้าง เรามาเริ่มดูกันเลยดีกว่า
Dogo Onsen Honkan

Dogo Onsen Honkan แห่งนี้คืออาคารหลักของ Dogo Onsen ตัวอาคารเป็นอาคารไม้เก่าแก่ซึ่งสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1894 และเป็นอาคารซึ่งได้รับเลือกให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตัวอาคารหลักแห่งนี้เองที่เป็นแรงบันดาลใจและที่มาของโรงอาบน้ำของแอนิเมชันชื่อดังของสตูดิโอจิบลิ อย่าง “Spirited Away” อันโด่งดัง
ภายใน จะเป็นการตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นคลาสสิกโบราณ ซึ่งโดดเด่นคู่กับสถาปัตยกรรมไม้อันเป็นเอกลักษณ์สมฐานะสมบัติทางวัฒนธรรม ออนเซ็นในอาคารหลักแห่งนี้จะแบ่งเป็นสองห้องหลักๆ ได้แก่ Kami-no-Yu ห้องอาบน้ำหลักสุดคลาสสิกที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคยเคียงคู่กับคนท้องถิ่น และห้องอาบน้ำ Tama-no-Yu ห้องอาบน้ำที่แม้จะมีขนาดเล็กกว่า แต่ก็ปูตัวพื้นด้วยหินแกรนิตอย่างดี และผนังหินอ่อน ให้ความรู้สึกที่หรูหราไม่ซ้ำใคร

และบนชั้นสองของอาคารหลักแห่งนี้ ก็มีห้องพิเศษสำหรับจักรพรรดิที่ชื่อว่า Yushinden อันเป็นห้องพิเศษที่มีไว้รับรองจักรพรรดิของประเทศญี่ปุ่นสำหรับมาพักโดยเฉพาะ ซึ่งภายในก็ยังมีการเก็บรักษาโต๊ะ เก้าอี้ ข้าวของเครื่องใช้ที่จักรพรรดิเคยใช้เอาไว้เป็นอย่างดี เพื่อให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ มาถ่ายรูปและเยี่ยมชม
และอย่างสุดที่ท้ายที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยหากพูดถึงออนเซ็นก็คือน้ำแร่ของที่นี่นั้นเอง น้ำแร่ของ Dogo Onsen แห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องคุณสมบัติอันเป็นฤทธิ์ด่างซึ่งมีความอ่อนโยนต่อผิว ทำให้เหมาะสำหรับทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ และคนทุกเพศทุกวัย โดยว่ากันว่าน้ำแร่ของ Dogo Onsen แห่งนี้มีสรรพคุณช่วยฟื้นฟูความเหนื่อยล้า ผ่อนคลายความเครียด อีกทั้งยังช่วยรักษาโรคเส้นประสาทใบหน้า และโรคระบบไหลเวียนเลือดไม่ดีซึ่งทำให้หนาวสั่นง่ายอีกด้วย
Asuka-no-Yu

นอกจากอาคารหลักสุดคลาสสิกแล้ว ที่ Dogo Onsen แห่งนี้ยังมีอีกหนึ่งอาคารใหม่ที่พึ่งถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปี 2017 นี่เอง อาคาร Asuka-no-Yu นี้ ถูกออกแบบมาโดยได้รับแรงบันดาลใจจาก ยุคอาสุกะ อันเป็นยุคโบราณยุคหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น สถาปัตยกรรมของที่นี่จึงมีหน้าตาและลักษณะคล้ายคลึงกับศิลปะญี่ปุ่นโบราณ แต่ทั้งหมดก็ถูกขัดเกลาและดีไซน์ออกมาให้ดูโมเดิร์นและสมัยใหม่ ดูกว้าง สีสันสดใสและสะอาดตา

มาพูดถึงในส่วนของห้องอาบน้ำกันบ้าง ห้องอาบน้ำของที่นี่ใช้น้ำแร่สายเดียวกับอาคารหลัก Dogo Onsen Honkan ห้องอาบน้ำจะเป็นห้องขนาดใหญ่ที่โอ่โถง สวยงาม บนผนังแต่ละห้องก็มีการประดับศิลปะอย่างจิตรกรรมฝาผนังเป็นรูปวิวทิวทัศน์ต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่นซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากบทกวีซึ่งเกี่ยวข้องกับ Dogo Onsen ซึ่งภาพจะแตกต่างกันทั้งห้องชายและห้องหญิง
ซึ่งความพิเศษของอาคาร Asuka-no-Yu แห่งนี้ ก็คือที่นี่มีบ่ออาบน้ำกลางแจ้งให้ใช้บริการด้วย โดยบ่อกลางแจ้งนี้จะเป็นส่วนเสริมพิเศษที่สามารถเดินเชื่อมมาได้เลยจากห้องอาบน้ำหลัก โดยบ่อกลางแจ้งนี้ก็ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ด้วยจิตรกรรมฝาผนังที่ทำจากไม้ฮิเมะฮิโนกิซึ่งมีถิ่นกำเนิดจากจังหวัดเอฮิเมะเอง
นอกจากห้องอาบน้ำที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ที่อาคาร Asuka-no-Yu แห่งนี้ยังมีห้องอาบน้ำส่วนตัวสำหรับครอบครัวอีกด้วย ซึ่งห้องอาบน้ำส่วนตัวนี้ก็ไม่ธรรมดา เพราะตัวห้องถูกออกแบบโดยมีแรงบันดาลใจมาจากห้อง Yushinden ซึ่งเป็นห้องพิเศษสำหรับจักรพรรดิในอาคารหลัก ทำให้คุณสามารถอาบน้ำได้อย่างเป็นส่วนตัว และในขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงความหรูหราคลาสสิกราวกับเป็นราชวงศ์ของญี่ปุ่น
Tsubaki-no-Yu

และสุดท้าย สำหรับอาคาร Tsubaki-no-Yu อาคารแห่งนี้จะตั้งอยู่ห่างจากอาคารหลักเล็กน้อย โดยที่นี่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1953 ใจกลางย่านการค้า Dogo shopping arcade ทำให้ที่นี่จะให้ความรู้สึกของความเป็นท้องถิ่นและความเป็นชุมชนมากกว่าอาคารหลักและอาคาร Asuka-no-Yu แต่อย่างไรก็ตาม ที่นี่ก็ยังคงเสน่ห์ของความเป็น Dogo Onsen ไว้อย่างเต็มเปี่ยม สังเกตได้จากที่ปล่อยน้ำซึ่งสร้างออกมาในลักษณะเดียวกับอาคารหลัก

มาพูดถึงในส่วนของน้ำแร่ที่ใช้ใน Tsubaki-no-Yu กันบ้าง น้ำแร่ที่ใช้ในโรงอาบน้ำที่นี่เป็นน้ำแร่ 100% ที่ไม่ผ่านการผสมน้ำหรือผ่านการให้ความร้อนซ้ำเลย ทำให้น้ำแร่ของที่นี่เรียกว่าธรรมชาติและบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปาก แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะดีขนาดนี้ แต่ด้วยความเป็นโรงอาบน้ำที่ตั้งอยู่ในใจกลางย่านการค้าและเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของคนในเมืองนี้ ทำให้ค่าเข้าของอาคารนี้ถูกกว่าที่อื่น จนเราอยากแนะนำให้ลองมากันดู
ค่าเข้าชมและการเดินทาง
แนะนำกันมาขนาดนี้ มั่นใจได้เลยว่าทุกคนคงจะเริ่มสนใจกันขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหมล่ะ ในส่วนของการเดินทาง เนื่องจากที่นี่ตั้งอยู่ที่จังหวัดเอฮิเมะ ทำให้หากเริ่มเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้า อาจจะจำเป็นต้องนั่งรถไฟชินคันเซ็นหรือนั่งเครื่องบินมาลง แต่สำหรับคนที่อยากเดินทางมาด้วยรถไฟ สามารถเดินทางมาได้ง่ายๆ ด้วยการลงที่สถาทีรถไฟ Dogo Onsen Station
ในส่วนของค่าเข้าชม เนื่องจาก Dogo Onsen นั้นประกอบไปด้วยโรงอาบน้ำ 3 หลังหลัก ทำให้แต่ละที่มีราคาค่าเข้า และเวลาเปิดปิดที่ไม่เท่ากัน ซึ่งทุกท่านสามารถดูได้ ตามรายละเอียดด้านล่างนี้เลย
Dogo Onsen Honkan (เปิด 6:00 a.m. to 11:00 p.m.)
ผู้ใหญ่ | เด็ก | |
ห้องอาบน้ำ Kami-no-Yu | 700 เยน | 350 เยน |
ห้องอาบน้ำ Tama-no-Yu หรือ Kami-no-Yu & รับชม Yushinden | 2,000 เยน | 1,000 เยน |
รับชม Yushinden (พร้อมไกด์) | 500 เยน | 250 เยน |
Asuka-no-Yu (เปิด 6:00 a.m. to 11:00 p.m.)
ผู้ใหญ่ | เด็ก | |
ค่าเข้า | 610 เยน | 300 เยน |
ห้องครอบครัว | 1,690 เยน | 8300 เยน ( + ค่าเปิดห้อง 2,040 เยน) |
Tsubaki-no-Yu (เปิด 6:30 a.m. to 11:00 p.m.)
ผู้ใหญ่ | เด็ก | |
ค่าเข้า | 450 เยน | 150 เยน |
นอกจากรายละเอียดที่เรากล่าวไปด้านต้น ที่ Dogo Onsen แห่งนี้ยังมีบริการต่างๆ อีกมากมายเช่นให้เช่ากิโมโน ห้องส่วนตัว หรือของหวานสำหรับทานเล่น ถ้าใครสนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ของออนเซ็นด้านล่างนี้ได้เลย
Dogo Onsen
ที่อยู่ : 19-22 Dōgo yuno machi, Matsuyama City, Ehime 〒790-0842
เบอร์โทร :
Dogo Onsen Honkan :089-921-5141
Asuka no Yu Onsen :089-932-1126
Tsubaki no Yu Onsen :089-935-6586
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) [Official Website] Dōgo Onsen
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/AumZfnRCt44Ss2YZ8
สำหรับแฟนคลับจิบลิคนไหนที่อยากไป ตามรอย Spirited Away หรือเป็นคนที่หลงใหลในการแช่ออนเช็นญี่ปุ่น บอกเลยว่าไม่ควรพลาดเด็ดขาด