รวม 80 ร้านอาหารโตเกียว ร้านเด็ด ร้านดัง ร้านอร่อย พร้อมเมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาด บรรยากาศ ร้านอาหารญี่ปุ่น แท้ๆ ในเมืองโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่นที่ไม่เคยหลับใหล มีร้านอาหารมากมายที่ไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมจากชาวญี่ปุ่น แต่ยังเป็นที่รู้จักในระดับโลก ทั้งร้านอาหารแบบดั้งเดิมไม่ว่าจะเป็น ซูชิ ราเมง อุด้ง ที่ทำด้วยวัตถุดิบสดใหม่ ไปจนถึงร้านอาหารสมัยใหม่ที่นำเสนอเมนูในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฟิวชั่น หรืออาหารคาวหวานในสไตล์ตะวันตก แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นเอาไว้ โตเกียวเป็นอีกเมืองที่มีร้านอาหารหลากหลายสไตล์ให้เลือก นอกจากนี้ยังมีร้านที่มีกระแสมาแรงในแต่ละช่วงเวลาที่เหล่านักชิมต้องไปลองสักครั้ง ทุกๆ ร้านในโตเกียว ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และรสชาติที่ทำให้คุณหลงรักไม่รู้ลืม ใครมีแพลนไป เที่ยวโตเกียว เซฟลิสต์นี้ไว้เลย ไม่พลาดความอร่อยแน่นอน! จากย่านยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็น อาซากุสะ ชินจูกุ ชิบูย่า กินซ่า นิฮงมาชิ ไปจนถึงตลาดปลาซึกิจิ
รวม 80 ร้านอาหารโตเกียว ร้านดัง ร้านอร่อย พร้อมเมนูแนะนำ ห้ามพลาด 2025
— ย่านอาซากุสะ Asakusa —
1. Asakusa Gyukatsu | ย่าน Asakusa

ร้าน Asakusa Gyukatsu เป็นร้านกิวคัตสึ ชื่อดังของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ (Asakusa) เมืองโตเกียว ใกล้ทางเข้าวัดเซนโซจิ เพียงไม่กี่นาทีจากสถานี Asakusa เป็นร้านขนาดกะทัดรัดตกแต่งเรียบง่ายในสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มีที่นั่งไม่มากจึงมักมีคิวรอ โดยเฉพาะช่วงเที่ยงและเย็น ร้านนี้ทุ่มเทให้เมนูเดียวคือกิวคัตสึ ซึ่งทำให้รสชาติและประสบการณ์โดดเด่นกว่าร้านทั่วไป
จุดเด่นของร้าน Asakusa Gyukatsu คือ “กิวคัตสึ” (gyukatsu) เมนูเนื้อวัวชุบแป้งทอด ซึ่งที่ร้านจะมีเมนูเดียวของร้าน แต่ลูกค้าสามารถเลือกขนาดเนื้อได้ เช่น 100 กรัม 130 กรัม และ 260 กรัม โดยร้านจะทอดแค่พอสุกด้านนอกและคงความนุ่มฉ่ำด้านในเอาไว้ เสิร์ฟมาพร้อมเตาหินร้อนเพื่อให้ลูกค้าย่างต่อเองบนโต๊ะ ตามระดับความสุกที่ต้องการ ภายในเซ็ตจะประกอบไปด้วย ข้าวญี่ปุ่น ซุปมิโสะ กะหล่ำซอย สลัดมันฝรั่ง สามารถเลือกทานคู่กับ วาซาบิ เกลือ หรือซอสสูตรเฉพาะของร้าน ทำเลที่ตั้งใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญและบรรยากาศเป็นกันเอง ทำให้ Asakusa Gyukatsu กลายเป็นหนึ่งในร้านยอดนิยมของผู้ที่ต้องการสัมผัสรสชาติ “กรอบนอก นุ่มใน” ของกิวคัตสึแท้ ๆ ในโตเกียว
วิธีการทานให้อร่อยตามคำแนะนำของร้าน
1. ย่างเนื้อบนเตาหินร้อน จากนั้นกินแบบไม่ต้องปรุงอะไร
2. อิ่มอร่อยกับ 3 รสชาติ ทานคู่กับ วาซาบิ+โชยุ / วาซาบิ+ซอสทงคัตซึ / วาซาบิ+เกลือ
3. ราดมันเทศญี่ปุ่นลงบนข้าวผสมกับเมนไทโกะ
เมนูแนะนำของร้าน Asakusa Gyukatsu
1. Beef Cutlet Set Meal  130g
2. Beef Cutlet Set Meal  195g
3. Beef Cutlet Set Meal  260g
ที่ร้านมีเมนูเดียว เสิร์ฟทุกอย่างเหมือนกันหมดแตกต่างกันตรงปริมาณของเนื้อที่ต้องการรับประทาน
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 23:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000 เยน (430 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/dJm9Vaj2tBcCG8MH6
2. Tempura Asakusa SAKURA | ย่าน Asakusa

ร้าน Tempura Asakusa SAKURA เป็นร้านเทมปุระ ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ ใกล้สถานี Asakusa เดินเพียง 1 นาที ร้านตกแต่งสวยงามในสไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัย พร้อมที่นั่งเคาน์เตอร์ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ชมเชฟทอดเทมปุระสด ๆ ต่อหน้าต่อตา บรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นในบรรยากาศที่ทันสมัย
จุดเด่นของร้าน Tempura Asakusa SAKURA คือ การนำเสนอเทมปุระที่ปราศจากกลูเตน (Gluten-Free) ทั้งหมด โดยที่ร้านจะใช้เป็นแป้งข้าวเจ้า ทำให้เทมปุระมีความกรอบและเบาเป็นพิเศษ และใช้น้ำมันงาขาวผสมกับน้ำมันคาโนลา ซึ่งช่วยลดการดูดซึมน้ำมันลงถึง 40% ทำให้เทมปุระมีความกรอบนอก นุ่มใน และมีแคลอรีต่ำ เมนูที่แนะนำเซ็ต “Wagyu Sirloin Luxurious Tempura Bowl” ที่ใช้เนื้อวากิวคุณภาพสูง และเซ็ตรวมเทมปุระกุ้งและผักสด ๆ เสิร์ฟพร้อมข้าวญี่ปุ่นและน้ำซุปดาชิ นอกจากนี้ยังมีแบบ “Omakase” ซึ่งเสิร์ฟเทมปุระจากวัตถุดิบชั้นเลิศตามฤดูกาล ทั้งผัก อาหารทะเล รวมถึงยังมีคอร์สอาหารมังสวิรัติ (Vegetarian Course) ไว้บริการด้วย ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดด้านอาหารที่หลากหลาย และที่พิเศษคือ เทมปุระเนื้อวากิวฮาลาล (Halal Wagyu Beef Tempura) ที่หาได้ยากตามร้านเทมปุระทั่วไป
เมนูแนะนำของร้าน Tempura Asakusa SAKURA
1. Wagyu Sirloin Luxurious Tempura Bowl
2. Seared Meat Sushi (2pieces)
3. SAKURA Tempura Bowl
4. Omakase – SAKURA Seafood & Vegetables
5. Omakase – Vegetable 10 kinds of Vegetables
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 12:00 น. ถึง 20:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 เยน (215 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/7Rpf8A5SX95qhqh6A
3. Asakusa Unana | ย่าน Asakusa

ร้าน Asakusa Unana เป็นร้านข้าวหน้าปลาไหลย่าง เป็นร้านยอดนิยมในย่านอาซากุสะ (Asakusa) ที่เชี่ยวชาญด้านเมนูปลาไหลญี่ปุ่นย่าง (Unagi) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานี Asakusa บรรยากาศร้านเรียบง่ายและเป็นกันเอง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลิ้มรสปลาไหลคุณภาพสูงในรูปแบบที่สะดวกและรวดเร็ว เปิดให้บริการตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น และมักมีลูกค้าแวะเวียนมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะช่วงวันหยุด
จุดเด่นของร้าน Asakusa Unana คือ เมนู “ข้าวปั้นหน้าปลาไหล” เป็นข้าวปั้นย่างที่วางท็อปด้วยปลาไหลย่างราดซอสสูตรเฉพาะของร้าน เสิร์ฟในกระดาษห่อแบบดั้งเดิม ราคาย่อมเยา นอกจากนี้ยังมีเมนูปลาไหลย่างเสิร์ฟบนข้าวในกล่องไม้ที่ได้รับความนิยมสูง รวมถึงเมนูเสริมอย่าง ตับปลาไหลย่างและซุปตับปลาไหลที่รสชาติเข้มข้น ร้านนี้จึงเหมาะสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นที่ชื่นชอบปลาไหลญี่ปุ่นคุณภาพดีในบรรยากาศง่าย ๆ และบริการรวดเร็ว
เมนูแนะนำของร้าน Asakusa Unana
1. Eel Grilled Rice Balls = ข้าวปั้นหน้าปลาไหลย่าง 630 เยน
2. Una Shigematsu =  ข้าวหน้าปลาไหลย่าง 300 กรัม 2,790 เยน
3. Unajutake = ข้าวหน้าปลาไหลย่าง 200 กรัม 2,230 เยน
4. Kabayaki Matsu = ปลาไหลย่าง 300 กรัม 2,540 เยน
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 9:30 น. ถึง 17:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 630 เยน (135 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/UkkYTg3gymKy6ir1A
4. Asakusa Ramen Yoroiya | ย่าน Asakusa

ร้าน Asakusa Ramen Yoroiya เป็นร้านราเมง ยอดนิยมในย่านอาซากุสะ โตเกียว เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1991 ด้วยความโดดเด่นของราเมงสไตล์โชยุที่มีรสชาติกลมกล่อมและหอมกรุ่น ซุปทำจากการเคี่ยวกระดูกหมูและไก่รวมกับสาหร่ายคอมบุและปลาแห้งหลากชนิด เส้นราเมงของร้านเป็นเส้นบางและหยักเล็กน้อย ซึ่งช่วยให้ซึมซับน้ำซุปได้ดี ร้านตั้งอยู่ห่างจากสถานี Asakusa เพียงประมาณ 5 นาที เดินทางสะดวกและบรรยากาศเรียบง่ายเป็นกันเอง
จุดเด่นของร้าน Asakusa Ramen Yoroiya คือ อยู่ที่ซุปโชยุที่เข้มข้นกลมกล่อมและเส้นราเมงที่มีความเหนียวนุ่มอย่างลงตัว เมนูแนะนำได้แก่ Egg Shoyu Ramen ที่มาพร้อมไข่ต้มรสชาติเยี่ยม และ Salted Plum Ramen ที่เติมลูกพลัมอุเมะเพิ่มความเปรี้ยวสดชื่น นอกจากนี้ยังมีเกี๊ยวซ่าที่กรอบนอกนุ่มในซึ่งได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างมาก ร้านนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่อยากลิ้มรสราเมงสูตรดั้งเดิมในบรรยากาศสบาย ๆ ใจกลางอาซากุสะ
เมนูแนะนำของร้าน Asakusa Ramen Yoroiya
1. Special Ramen (Yuzu Ramen) = ยูซุราเมง 1,450 เยน
2. Special BBQ Pork Ramen = ราเมงหมูบาร์บีคิว 1,350 เยน
3. Tamagoyaki Ramen = ราเมงไข่ม้วนญี่ปุ่น 1,150 เยน
4. Salted Plum Ramen = ราเมงบ๊วยเค็ม 1,100 เยน
5. Handmade Large Fried Dumplings (3 pieces) = เกี๊ยวซ่าแฮนด์เมด 3 ชิ้น 450 เยน
6. Special Tsukemen = ราเมงแบบจุ่ม 1,450 เยน
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 8:30 น. ถึง 10:00 น. และ 11:00 น. ถึง 20:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 เยน (215 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/ck3gLC64Ze3zsEhv5
5. TORASUZU (寅鈴) | ย่าน Asakusa

ร้าน TORASUZU (寅鈴) เป็นร้านอิซากายะ สไตล์ญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงในกรุงโตเกียว โดยมีสาขาหลักตั้งอยู่ในย่าน อาซากุสะ (Asakusa) และยังมีสาขาอื่นที่ คันดะ (Kanda) ร้านนี้เชี่ยวชาญในการเสิร์ฟเมนู ยากิโทริ (Yakitori) ไก่ย่างเสียบไม้ที่มีรสชาติอร่อย และอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะอีกมากมาย เช่น ซาชิมิ (Sashimi), เทมปุระ (Tempura), และ อาหารทะเลสดใหม่ รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลากหลายชนิด เช่น สาเก พรีเมียม
จุดเด่นของร้าน TORASUZU คือ การคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูง เช่น ไก่ที่มีความสดใหม่ และเนื้อแน่น รวมถึงการใช้เทคนิคการย่างที่มีความพิถีพิถันเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด เมนูยากิโทริของร้านมีความหลากหลายทั้งแบบเนื้อไก่และส่วนต่างๆ ของไก่ ทำให้ทุกคำมีรสชาติอันหลากหลายและอร่อย การบริการของร้านนั้นเป็นแบบ โอมากาเสะ (Omakase) คือเชฟจะเสิร์ฟเมนูให้ตามความเหมาะสมของวัน ทำให้ประสบการณ์การทานอาหารที่ TORASUZU มีความพิเศษและไม่ซ้ำกันในทุกๆ ครั้งที่ไป
เมนูแนะนำของร้าน TORASUZU (寅鈴)
1. Assorted Skewers (11 pcs) = 2,980 เยน
2. Assorted Skewers (6 pcs) = 1,860 เยน
3. Long-Sushi = ซูชิยาว 40 เซนติเมตร
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันอังคาร – อาทิตย์ 11:30 น. ถึง 23:00 น.
วันหยุด: วันจันทร์ 
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 500 เยน (110 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/oawETM9UomrzUrbQ8
6. Asakusa Menchi (浅草メンチ) | ย่าน Asakusa

ร้าน Asakusa Menchi (浅草メンチ) เป็นร้านหมูชุบแป้งทอด ตั้งอยู่ในย่าน อาซากุสะ (Asakusa) ของกรุงโตเกียว โดยมีความเชี่ยวชาญในการทำ เมนชิ คัตสึ (Mechi Katsu) คือ เนื้อบดชุบเกล็ดขนมปังทอด แบบญี่ปุ่น เรียกง่ายๆ ว่า “หมูทอดชุบแป้ง” ที่มีรสชาติอร่อยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ร้านนี้ถือเป็นหนึ่งในร้านยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเมนูหมูทอดในแบบญี่ปุ่น มีความกรอบนอกนุ่มใน ร้านนี้ใช้เนื้อหมูคุณภาพดีที่ถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถัน โดยมีสูตรการทอดที่ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่พอดี ทุกคำที่กัดจะสัมผัสได้ถึงรสชาติที่ลงตัวและความกรอบอร่อย ร้านนี้ตั้งอยู่ใกล้กับ วัดเซนโซจิ (Senso-ji Temple) ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญในย่านนี้
จุดเด่นของร้าน Asakusa Menchi คือ การใช้เนื้อหมูคุณภาพดีที่ผ่านการปรุงรสอย่างพิถีพิถันและทอดจนกรอบนอกนุ่มใน โดยเสิร์ฟเป็นชิ้นขนาดพอดีคำที่มีรสชาติหวานมันจากเนื้อหมูและแป้งทอดที่บางกรอบ นอกจากเมนชิแล้ว ร้านยังมีเมนูอื่น ๆ เช่น ข้าวหน้าหมูทอดและเมนูทานเล่นที่อร่อยไม่แพ้กัน เป็นเมนูของว่างญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมในย่านอาซากุสะ
เมนูแนะนำของร้าน Asakusa Menchi (浅草メンチ)
1. Asakusa Menchi = 350 เยน
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 10:00 น. ถึง 19:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 350 เยน (75 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/b24PkvRqKrVDCP7N8
7. LaVASARA CAFE&GRILL | ย่าน Asakusa

ร้าน LaVASARA CAFE & GRILL เป็นร้านอาหารอิตาเลียน ที่ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ (Asakusa) เมืองโตเกียว เป็นร้านอาหารที่ผสมผสานระหว่างอาหารตะวันตกและวัตถุดิบญี่ปุ่นตามฤดูกาลได้อย่างลงตัว โดยมีเมนูที่หลากหลายทั้งเครื่องดื่มและอาหารจานย่างที่ปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่และมีคุณภาพ เช่น Grilled Seasonal Vegetables Cartoccio Style เมนูผักย่างตามฤดูกาล ซึ่งได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น ร้านนี้ยังมีเมนูของหวานและเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีคอร์สอาหารต่างๆ ยอดนิยม ให้เลือกประจำวันอีกด้วย เช่น Full Satisfaction Course 6 dishes
จุดเด่นของร้าน LaVASARA CAFE&GRILL คือ สเต็กเนื้อวากิว A5 ที่ใช้เนื้อวากิวคุณภาพดี มีพาสต้าโฮมเมด พิซซ่า และของหวาน โดยใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลของญี่ปุ่น ส่วนเครื่องดื่มก็มีทั้งค็อกเทล ไวน์ และเครื่องดื่มแบบคาเฟ่ ให้เลือกตามความชอบ นอกจากนี้ยังมีเมนูขนมหวานที่ทำเองภายในร้าน เช่น เค้กและพายผลไม้ ที่เข้ากันได้ดีกับกาแฟหอม ๆ การผสมผสานของรสชาติที่หลากหลายและการบริการที่อบอุ่นทำให้ร้านนี้กลายเป็นสถานที่ยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวและชาวท้องถิ่นที่มองหาความผ่อนคลายและอร่อยในบรรยากาศที่เป็นกันเอง
เมนูแนะนำของร้าน LaVASARA CAFE&GRILL
1. Yonezawa ground beef truffle bolonese = พาสต้าเนื้อบดโยเนซาวะทรัฟเฟิลโบโลเนส
2. Grilled Seasonal Vegetables Cartoccio Style = ผักย่างตามฤดูกาลสไตล์คาร์โตชิโอ
3.  Pizza Margherita = พิซซ่ามาร์การิต้า
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:30 น. ถึง 23:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 เยน (215 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/e9mhT8U4DU4wQyxg7
8. HALAL AND VEGAN RAMEN DATTEBAYO Asakusa | ย่าน Asakusa

ร้าน HALAL AND VEGAN RAMEN DATTEBAYO เป็นร้านราเมง แบบฮาลาลที่ตอบโจทย์ทั้งคนที่ทานมังสวิรัติ และผู้ที่ต้องการอาหารฮาลาล ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ (Asakusa) ของเมืองโตเกียว โดยร้านนี้จะนำเสนอราเมงที่มีรสชาติกลมกล่อมและส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด ตั้งแต่เส้นราเมงทำจากแป้งเกรดพรีเมียมจนถึงน้ำซุปที่เข้มข้นและมีกลิ่นหอม ราเมงที่นี่เหมาะสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดทางอาหารหรือผู้ที่ต้องการประสบการณ์การทานอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์และส่วนผสมจากสัตว์ ร้านยังให้บริการน้ำซุปที่ปราศจากสารพิษและน้ำมันจากสัตว์ เช่น น้ำซุปมิโสะซอสแบบญี่ปุ่นที่มีรสชาติเปรี้ยวหวานเข้มข้น
จุดเด่นของร้าน HALAL AND VEGAN RAMEN DATTEBAYO คือ การนำเสนอเมนูราเมงที่เหมาะสำหรับผู้ที่ทานอาหารฮาลาลและมังสวิรัติ โดยยังคงรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของราเมงญี่ปุ่นไว้ได้อย่างครบถ้วน ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด คือ ราเมงซุปข้นสไตล์มิโสะ และราเมงซุปไก่ (ใช้เห็ดและเต้าหู้) ที่ได้รับความนิยมสูง โดยเชฟจะคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพจากผู้ผลิตที่ใส่ใจในความบริสุทธิ์และแหล่งที่มา นอกจากนี้ยังมีการให้บริการที่อบอุ่นและเป็นมิตร พร้อมทั้งการตกแต่งร้านที่ทันสมัยและสะอาด ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายที่ได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาตัวเลือกอาหารที่เข้ากับวิถีชีวิตของพวกเขาในโตเกียว
เมนูแนะนำของร้าน HALAL AND VEGAN RAMEN DATTEBAYO Asakusa
1. Spicy Special Chicken Soup Ramen = 2,100 เยน
2. A5 Wagyu Special Ramen 50g / 100g / 150g = 2,400 เยน / 3,700 เยน / 4,900 เยน
3. Special Chicken Soup Ramen with Wagyu Sukiyaki Rice Bowl
4. Vegan Ramen
Ramen Spicy Levels สามารถเพิ่มความเผ็ดได้
Spicy Level 1 + 100 เยน
Spicy Level 2 + 150 เยน
Spicy Level 3 + 200 เยน
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ -พฤหัสบดี และวันเสาร์ อาทิตย์ 10:00 น. ถึง 22:00 น.
เปิดวันศุกร์ 14:00 น. ถึง 22:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 เยน (215 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/SJnGWtqfgAkX8oDL7
9. Sukiyaki Chinya Asakusa | ย่าน Asakusa

ร้าน Sukiyaki Chinya Asakusa เป็นร้านสุกียากี้และชาบูชาบู ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของคุณภาพเนื้อและการบริการที่ยอดเยี่ยม ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ (Asakusa) ของเมืองโตเกียว โดยมีประสบการณ์ในการเสิร์ฟสุกียากี้ที่เข้มข้นและอร่อยยาวนาน ร้านนี้เน้นการใช้เนื้อวัวเกรดพรีเมียม ซึ่งทำให้เมนูสุกียากี้ที่เสิร์ฟออกมามีรสชาติที่เนียนนุ่มและเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของซอสที่ปรุงเองอย่างพิถีพิถัน นอกจากสุกียากี้แล้ว ร้านยังมีเมนูชาบูชาบูและเซ็ตอาหารญี่ปุ่นที่หลากหลาย ซึ่งทุกเมนูได้รับการคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การทานอาหารญี่ปุ่นที่ดีที่สุด
จุดเด่นของร้าน Sukiyaki Chinya Asakusa คือ การคัดสรรเนื้อวัวที่มีคุณภาพสูงจากแหล่งที่เชื่อถือได้ รวมถึงการปรุงน้ำซุปและซอสสุกียากี้ที่มีรสชาติกลมกล่อมและเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ไฮไลต์ของร้านคือการเสิร์ฟสุกียากี้ที่ใช้เนื้อวัวชั้นดี ซึ่งมักจะเสิร์ฟแบบ Omakase โดยเชฟจะเตรียมส่วนผสมและปรุงให้เสร็จตรงหน้า โดยมีการใช้ซอสสูตรลับที่ทำให้รสชาติของสุกียากี้มีความกลมกล่อมและอร่อยมากขึ้น ร้านนี้ยังมีบรรยากาศที่อบอุ่นและมีการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้การรับประทานอาหารที่นี่เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและคุ้มค่ากับการมาเยือน
เมนูแนะนำของร้าน Sukiyaki Chinya Asakusa
1. Sukiyaki Lunch Meal
2. Shabu-shabu Lunch Meal
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – ศุกร์ 11:00 น. ถึง 15:00 น. และ 16:30 น. ถึง 21:30 น.
วันเสาร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 21:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000 เยน (430 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/6rxKAnvRLqjLV8Mu8
10. Mo-Mo-Paradise Asakusa Kaminarimon | ย่าน Asakusa

ร้าน Mo-Mo-Paradise Asakusa Kaminarimon ร้านชาบูชาบู ตั้งอยู่ในทำเลที่ยอดเยี่ยมใกล้ประตูคามินาริมอน (Kaminarimon) ในย่านอาซากุสะ (Asakusa) มีหลายสาขา ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านเมนูชาบูชาบูที่อร่อยและสดใหม่ ร้านนี้มีความโดดเด่นในเรื่องการเสิร์ฟอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ โดยลูกค้าสามารถเลือกเนื้อและผักสดตามชอบ เพื่อจุ่มลงในน้ำซุปที่ร้อนและหอม ซึ่งมีให้เลือกหลายรสชาติ ทั้งน้ำซุปสุกี้ยากี้ น้ำซุปมิโสะ และน้ำซุปใสแบบญี่ปุ่น ทุกจานถูกเตรียมอย่างพิถีพิถันในแบบที่คงความสดใหม่และรสชาติที่กลมกล่อม ร้าน Mo-Mo-Paradise ยังให้บริการเนื้อหมูและเนื้อวัวเกรดพรีเมียม รวมถึงผักสดจากฟาร์มท้องถิ่นและน้ำจิ้มสูตรพิเศษที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์
จุดเด่นของร้าน Mo-Mo-Paradise Asakusa Kaminarimon คือ ความหลากหลายของเมนูบุฟเฟ่ต์ที่ไม่เพียงแต่ให้คุณเลือกเนื้อสัตว์และผักที่หลากหลาย แต่ยังมีน้ำซุปที่อร่อยและหลากหลายรสชาติให้เลือกตามความชอบ ไฮไลต์ของร้านคือการให้บริการเนื้อวัวและเนื้อหมูเกรดพรีเมียมที่มีความนุ่มและรสชาติอร่อย รวมถึงเมนูที่เน้นคุณภาพและความสดใหม่ของวัตถุดิบ เช่น ผักสดใหม่ และการบริการที่เป็นกันเองและบรรยากาศของร้านที่อบอุ่นทำให้ Mo-Mo-Paradise Asakusa Kaminarimon กลายเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบชาบูชาบูในโตเกียว
เมนูแนะนำของร้าน Mo-Mo-Paradise Asakusa Kaminarimon
1. Mo-Mo-Course
2. Japanese Beef Course
3. Premium Course = Wagyu Rib Eye & Beef Tongue / Wagyu Rib Eye
All-you-can-eat 100 min.
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:30 น. ถึง 15:00 น. และ 17:00 น. ถึง 22:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 3,300 เยน (710 บาท)
พิกัด: Mo-Mo-Paradise Asakusa https://maps.app.goo.gl/oyKtnbaK5jBvut1Z6
MO-MO-PARADISE Shibuya Center-gai https://maps.app.goo.gl/K8xy8osoiFbHhc6r9
11. Unatoto Asakusa | ย่าน Asakusa

ร้าน Unatoto Asakusa เป็นร้านข้าวหน้าปลาไหล ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ (Asakusa) เมืองโตเกียว ที่ตั้งอยู่ใกล้สถานี Asakusa เดินเพียงไม่กี่นาทีก็ถึง ทำให้สะดวกมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมวัดเซ็นโซจิ หรือเดินเล่นย่านอาซากุสะ ร้านนี้มีบรรยากาศเรียบง่าย ไม่หรูหราแต่สะอาดและเป็นกันเอง รองรับลูกค้าได้ทั้งแบบนั่งเคาน์เตอร์และโต๊ะเล็กๆ เหมาะสำหรับทั้งคนที่อยากทานมื้อด่วนหรือจะนั่งสบายๆ ก็ได้ ที่สำคัญคือเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ ถือเป็นร้านยอดนิยมสำหรับทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่อยากลิ้มลองปลาไหลญี่ปุ่นในราคาประหยัด
จุดเด่นของร้าน Unatoto Asakusa คือ เมนูข้าวหน้าปลาไหลคุณภาพดีในราคาที่คุ้มค่ามาก เช่น “Unadon Double” ที่เสิร์ฟปลาไหลย่าง 2 ชิ้นใหญ่เต็มชาม ราดด้วยซอสสูตรเฉพาะที่หอมหวานเค็มกำลังดีและให้กลิ่นไหม้จากการย่างถ่านแบบดั้งเดิม ปลาไหลของที่นี่นุ่ม ละลายในปาก เสิร์ฟพร้อมข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ ที่สามารถขอเพิ่มได้ในบางเมนู ร้านใช้ระบบสั่งอาหารผ่านเครื่องอัตโนมัติ ทำให้รวดเร็วและไม่ต้องรอนาน ถือเป็นร้านอูนางิที่ให้ความรู้สึกเข้าถึงง่าย อร่อย และคุ้มค่า เหมาะมากสำหรับใครที่อยากลองข้าวหน้าปลาไหลแบบญี่ปุ่นแท้ๆ โดยไม่ต้องจ่ายแพง
เมนูแนะนำของร้าน Unatoto Asakusa
1. Unadon Double / Eel Bowl Double = ข้าวหน้าปลาไหล 2 ชิ้น นิยมอันดับ 1
2. ไข่ม้วนใส่ปลาไหล
3. ตับปลาไหลย่าง
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 10:00 น. ถึง 21:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 640 เยน (135 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/7XhE3XjTWyiYTzfs6
12. Asakusa Monja Zenya | ย่าน Asakusa

ร้าน Asakusa Monja Zenya เป็นมอนจายากิ (Monjayaki) และโอโคโนมิยากิ (Okonomiyaki) เป็นหนึ่งในร้านอาหารยอดนิยมในย่านอาซากุสะ (Asakusa) เมืองโตเกียว เป็นอาหารท้องถิ่นสไตล์แพนเค้กญี่ปุ่นที่ปรุงบนเตาเหล็ก (teppan) ร้านนี้เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นว่าเป็นหนึ่งในร้านดังที่เสิร์ฟมอนจายากิที่อร่อยและมีเอกลักษณ์ ร้านตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบาย ใกล้สถานีอาซากุสะ โดยเดินเพียงประมาณ 2 นาที
จุดเด่นของร้าน Asakusa Monja Zenya คือ มีเมนูมอนจายากิที่หลากหลาย โดยเฉพาะเมนูที่ผสมผสานวัตถุดิบคุณภาพดีและสดใหม่ เช่น เมนูยอดนิยมที่มีส่วนผสมของ เมนไทโกะ (Mentaiko) ใบชิโสะ (Shiso leaves) โมจิ (Mochi) และ ชีส ซึ่งให้รสชาติที่เข้มข้นและกลมกล่อมไม่เหมือนใคร นอกจากมอนจายากิแล้ว ทางร้านยังมีเมนูโอโคโนมิยากิ และอาหารสไตล์อิซากายะ (Izakaya) ให้เลือกสั่งอีกด้วย
เมนูแนะนำของร้าน Asakusa Monja Zenya
1. Mentaiko Mochi Monjayaki 
2. Squid Ink Monjayaki
3. Seafood Monjayaki
4. Okonomiyaki
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 10:30 น. ถึง 23:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 780 เยน (170 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/bwpiyrpzFJnk8Dvm9
— ย่านชินจูกุ Shinjuku —
13. Gyukatsu Motomura Tokyo | ย่าน Shinjuku, Shibuya, Akihabara, Harajuku, Ueno, Nishi-Shinjuku

ร้าน Gyukatsu Motomura Tokyo เป็นร้านกิวคัตสึ ชื่อดังของญี่ปุ่น มีชื่อเสียงในเรื่อง “เนื้อวัวชุบแป้งทอด” ตั้งอยู่ในย่านชินจูกู (Shinjuku) เมืองโตเกียว เป็นสาขาหลักสาขาแรก เรียกได้ว่าเป็นร้านต้นกำเนิด กิวคัตสึ (Gyukatsu) หรือเนื้อวัวชุบเกล็ดขนมปังทอด ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น ปัจจุบันขยายสาขาไปทั่วญี่ปุ่นและต่างประเทศ ร้านกิวคัตสึ โมโตมูระ จะโดดเด่นในเรื่องของการเสิร์ฟกิวคัตสึที่คัดสรรเนื้อวัวคุณภาพดี โดยเฉพาะส่วนที่เหมาะกับการทอดเพื่อให้ได้เนื้อที่ทั้งนุ่มและมีความฉ่ำ ในแต่ละเซ็ตจะเสิร์ฟพร้อมข้าวญี่ปุ่นหอมกรุ่น ซุปมิโสะ และเครื่องเคียงต่างๆ รวมถึงซอสและเครื่องปรุงหลากหลายชนิด เช่น ดาชิโชยุที่มีรสชาติกลมกล่อม เกลือพริกไทยซันโซที่เพิ่มความหอม และกิวคัตสึซอสสูตรพิเศษของทางร้านที่มีรสหวานเค็มตัดเปรี้ยวนิดหน่อย
จุดเด่นของร้าน Gyukatsu Motomura Tokyo คือ การเสิร์ฟ กิวคัตสึระดับพรีเมียม ที่เน้นคุณภาพของวัตถุดิบ โดยเฉพาะเนื้อวัวที่ทางร้านคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน เฉพาะส่วนที่เหมาะสำหรับการทอด เพื่อให้ได้เนื้อที่นุ่ม ฉ่ำ และหอมอร่อยในทุกคำ อีกหนึ่งเอกลักษณ์คือ การเสิร์ฟกิวคัตสึแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ โดยเนื้อจะถูกทอดมาเพียงประมาณ 60 วินาทีจนแป้งกรอบ แต่เนื้อด้านในยังคงความฉ่ำระดับ Medium Rare เอาไว้ เสิร์ฟพร้อมกับ”เตาหินร้อน“ที่เอาไว้ให้ลูกค้าสามารถนำเนื้อไปย่างด้วยตัวเอง ตามระดับความสุกที่ชอบหรือต้องการ ถือเป็นเพิ่มประสบการณ์ที่สนุกและไม่เหมือนกับที่ไหน
เมนูแนะนำของร้าน Gyukatsu Motomura Tokyo
1. Beef Cutlet Set Meal  130g = 1,930 เยน
2. Beef Cutlet Set Meal  195g = 2,600 เยน
3. Beef Cutlet Set Meal  260g = 3,060 เยน
เสิร์ฟทุกอย่างเหมือนกันหมดแตกต่างกันตรงปริมาณของเนื้อที่ต้องการรับประทาน
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 22:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000 เยน (430 บาท)
พิกัด: Gyukatsu Motomura Shinjuku Main Store https://maps.app.goo.gl/S3YuC3U3DxDxUHEg7
Gyukatsu Motomura Shinjuku South Exit https://maps.app.goo.gl/gm57Tgd3tqfzAVoU6
Gyukatsu Motomura Shinjuku Alta Back Street https://maps.app.goo.gl/dzothoS4oRCNymq3A
Gyukatsu Motomura Shibuya Branch https://maps.app.goo.gl/PLQXKbFrmNVDsdpG6
Gyukatsu Motomura Shibuya Sub-branch https://maps.app.goo.gl/bjQ45uvvEZv4tNm38
Gyukatsu Motomura Akihabara https://maps.app.goo.gl/Y8WZMReCABwzJKsp7
Gyukatsu Motomura Harajuku https://maps.app.goo.gl/97tGQdjLWi37pojN6
Gyukatsu Motomura Ueno https://maps.app.goo.gl/18RH8JzaTnfF8vwx9
Gyukatsu Motomura Nishi-Shinjuku https://maps.app.goo.gl/ffTTe5ApRb4iesot6
14. Rokkasen Otakibashi Street store | ย่าน Shinjuku

ร้าน Rokkasen Otakibashi Street store เป็นร้านยากินิกุ ระดับพรีเมียมที่ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ (Shinjuku) กรุงโตเกียว เปิดดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 1986 โดยเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในร้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว บรรยากาศภายในร้านตกแต่งอย่างหรูหราแต่ยังคงความอบอุ่น มีบริการห้องส่วนตัวและโต๊ะนั่งหลากหลายรูปแบบ พร้อมพนักงานในชุดกิโมโนที่ให้บริการอย่างมืออาชีพ ทำให้ที่นี่เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารในโอกาสพิเศษ เช่น มื้อค่ำกับครอบครัว การฉลอง หรือแม้แต่การต้อนรับแขกเพื่อคุยธุรกิจ
จุดเด่นของร้าน Rokkasen Otakibashi Street store คือ การคัดสรรเนื้อวากิวคุณภาพสูงจากทั่วประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นเนื้อมัตสึซากะ เนื้อโกเบ หรือเนื้อวัวพันธุ์พิเศษอื่น ๆ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มและรสชาติเข้มข้น นอกจากนี้ ร้านยังมีบริการในรูปแบบบุฟเฟ่ต์แบบ “All-You-Can-Eat” ที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ทั้งยากินิกุ ชาบูชาบู หรือสุกี้ยากี้ รวมถึงเมนูซีฟู้ดอย่างกุ้งลอบสเตอร์ ปู และหอยเชลล์ ที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่คุณภาพเยี่ยม ใครต่างที่เคยมาใช้บริการก็พูดว่า “คุ้มค่าที่สุด” เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์วากิวระดับพรีเมียมในโตเกียว
เมนูแนะนำของร้าน Rokkasen Otakibashi Street store
1. HOTARU – ชุดโฮตารุ 9,800 เยน / ท่าน
2. HATSUNE – ชุดฮัตสึเนะ 13,800 เยน / ท่าน
3. TAMAKAZURA (Kobe Beef Course) – ชุดทามาคาซึระ 24,800 เยน / ท่าน
All-you-can-eat BBQ / 120 minutes
1. YUKI course – คอร์สบุฟเฟ่ต์ยอดนิยมอันดับ 1 คุ้มค่าที่สุดเป็นพิเศษ (ประมาณ 12,100 เยน / ท่าน)
2. TSUKI course – คอร์สบุฟเฟ่ต์สุดพิเศษ รวมกุ้งล็อบสเตอร์และปูลวกแบบไม่อั้น (ประมาณ 17,600 เยน / ท่าน)
3. MATSUZAKA course – คอร์สบุฟเฟ่ต์สุดหรู พร้อมเนื้อสันนอกมัตสึซากะแบบไม่อั้น (ประมาณ 36,300 เยน / ท่าน)
4. KOBE course – คอร์สพรีเมียมสุดพิเศษ เสิร์ฟเนื้อริบอายโกเบคุณภาพเยี่ยมแบบไม่อั้น (ประมาณ 48,400 เยน / ท่าน)
All-you-can-eat Shabu-shabu/ 120 minutes
1. All-you-can-eat special Japanese beef course – บุฟเฟ่ต์ชาบูชาบูเนื้อวากิวคัดพิเศษทานได้ไม่อั้น (ประมาณ 12,100 เยน / ท่าน)
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 23:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 10,000 เยน (2,160 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/4Yb9iJXHmoufNyaNA
15. Soushi Menya Musashi | ย่าน Shinjuku

ร้าน Soushi Menya Musashi เป็นร้านราเมง ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของรสชาติที่เข้มข้นและหลากหลายสไตล์ ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ (Shinjuku) เมืองโตเกียว โดยเฉพาะเมนูราเมงซอสที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของทางร้านที่ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากรุ่นสู่รุ่น ร้านนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของเส้นราเมงที่เหนียวนุ่มและน้ำซุปที่รสชาติกลมกล่อม โดยเฉพาะน้ำซุปทงคตสึ (น้ำซุปกระดูกหมู) ที่อร่อยเข้มข้นและมีความหอม นอกจากนี้ยังมีเมนูที่ใช้เนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น เนื้อวัวและหมูที่เสิร์ฟร่วมกับราเมง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบราเมงที่มีรสชาติที่เข้มข้นและซับซ้อน
จุดเด่นของร้าน Soushi Menya Musashi คือ การนำเสนอราเมงที่เน้นคุณภาพของน้ำซุป และเส้นที่ถูกทำขึ้นด้วยมือเอง (Handmade) ทุกวัน โดยเฉพาะเมนู Tsukemen (ราเมงจุ่มซุป) ที่เป็นอีกหนึ่งในไฮไลต์ของร้าน ซึ่งน้ำซุปจะมีความเข้มข้น และรสชาติที่กลมกล่อมเข้ากับเส้นราเมงได้อย่างลงตัว และอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดคือ Musashi Ramen ที่มาพร้อมกับท็อปปิ้งหลากหลายและน้ำซุปที่มีรสชาติซับซ้อนและลึกซึ้ง ร้านนี้ยังมีบริการที่รวดเร็วและเป็นมิตร ทำให้ Soushi Menya Musashi กลายเป็นหนึ่งในร้านราเมงที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่คนรักราเมงในโตเกียว
เมนูแนะนำของร้าน Soushi Menya Musashi
1. Musashi Ramen (Staff Recommended)
2. Miso Musashi Ramen
3. Rich Musashi Tsukemen (Popular)
4. Garlic Musashi Tsukemen
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 22:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 เยน (215 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/sRSKdHmSLUC8Hots6
16. Toraji Shinjuku Takashimaya Times Square | ย่าน Shinjuku

ร้าน Toraji Shinjuku Takashimaya Times Square เป็นร้านยากินิกุ ชื่อดังที่ตั้งอยู่บนชั้น 14 ของอาคาร Takashimaya Times Square ใกล้สถานี Shinjuku เดินเพียงไม่กี่นาที จึงสะดวกสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นที่มองหามื้อพิเศษใจกลางเมือง โต๊ะปิ้งย่างภายในร้านตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น เรียบหรูแต่ยังอบอุ่น มีทั้งโซนที่นั่งธรรมดาและห้องส่วนตัว รองรับได้ทั้งลูกค้าที่มากันเป็นกลุ่มเล็กหรือครอบครัวขนาดใหญ่ ไฮไลต์ของร้านคือการใช้เนื้อคุณภาพสูง เช่น ลิ้นวัวแบบหนาหั่นชิ้นใหญ่ เนื้อวากิวส่วนต่าง ๆ ที่ผ่านการหมักรสละมุน และการปิ้งเองที่โต๊ะซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ยากินิกุอย่างเต็มที่
จุดเด่นของร้าน Toraji Shinjuku Takashimaya Times Square คือ เซ็ตเนื้อรวม “Toraji Assortment” ที่จะคัดเนื้อส่วนต่าง ๆ มารวมกันไว้ เหมาะสำหรับคนที่อยากลองหลายรสชาติในมื้อเดียว นอกจากนี้ยังมีเมนูข้างเคียงที่ไม่ควรพลาด เช่น ซุปเนื้อรสเผ็ด (Yukkejang) และกิมจิโฮมเมดที่ช่วยตัดเลี่ยนได้ดี ทำให้มื้ออาหารสมบูรณ์ยิ่งขึ้น พนักงานให้บริการอย่างใส่ใจ พร้อมแนะนำวิธีการย่างที่ดีที่สุดให้ตามแต่ละชนิดของเนื้อ ร้านนี้เหมาะกับทั้งมื้อเย็นที่ผ่อนคลายหลังช้อปปิ้ง หรือโอกาสพิเศษที่ต้องการบรรยากาศดีพร้อมอาหารคุณภาพเยี่ยมในย่านชินจูกุ
เมนูแนะนำของร้าน Toraji Shinjuku Takashimaya Times Square
1. Toraji Lunch Set
2. Yakiniku Lunch Set
3. Premium Toranji Yakiniku Lunch Set
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 23:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,500 เยน (540 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/BqFLMVseXHtnikJ37
17. Gyu Tongue Lemon Shinjuku | ย่าน Shinjuku

ร้าน Gyu Tongue Lemon Shinjuku หรือ Shinjuku Yakiniku Gyutan no Remon ร้านยากินิกุ ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ (Shinjuku) ของโตเกียว เป็นร้านที่มีชื่อเสียงในการเสิร์ฟเมนูเนื้อวัวลิ้นย่าง (Gyu Tongue) “ร้านลิ้นวัวย่างสไตล์ญี่ปุ่น” ที่มีรสชาติอร่อยและคุณภาพสูง ร้านนี้โดดเด่นด้วยการย่างเนื้อวัวลิ้นให้มีความนุ่มและรสชาติที่เข้มข้น โดยใช้เทคนิคการย่างที่พิถีพิถันจนได้ความกรอบนอกนุ่มใน พร้อมกับน้ำจิ้มสูตรพิเศษที่เข้ากับเนื้อได้อย่างลงตัว นอกจากเมนูเนื้อวัวลิ้นแล้ว ยังมีเมนูเนื้อชิ้นอื่นๆ ที่เสิร์ฟพร้อมข้าวและน้ำซุปที่รสชาติกลมกล่อม เพื่อให้ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับอาหารที่หลากหลายและรสชาติที่ดีได้อย่างครบถ้วน
จุดเด่นของร้าน Gyu Tongue Lemon Shinjuku คือ การเน้นที่คุณภาพของ “ลิ้นวัว” ซึ่งเป็นส่วนที่หายากและมีรสชาติอร่อยเมื่อนำมาย่างอย่างดี ไฮไลต์ของร้านคือเมนู Gyu Tongue Yaki (เนื้อวัวลิ้นย่าง) ที่ถูกย่างมาอย่างพอดีจนได้เนื้อที่กรอบนอกนุ่มใน และยังมีน้ำจิ้มสูตรพิเศษที่รสชาติเปรี้ยวหวานและเผ็ดเล็กน้อย ช่วยเสริมรสชาติของเนื้อได้อย่างลงตัว
เมนูแนะนำของร้าน Gyu Tongue Lemon Shinjuku
1. Thick-Sliced Grilled Beef Tongue Set Meal = ชุดเนื้อวัวย่างหั่นหนา
2. Two Types of Set Meal: Grilled Thick-Sliced Beef Tongue and Grilled A5 Japanese Black Beef = ชุดเนื้อวัวย่างหั่นหนาพิเศษ “คิวามิ” และเนื้อซี่โครงวัวดำ คุโรเกะวากิว A5
3. Salmon Roe and Raw Egg Bowl = ข้าวหน้าไข่ปลาแซลมอนและไข่ดิบ
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:30 น. ถึง 15:00 น. และ 17:00 น. ถึง 22:00 น.
ยกเว้นวันศุกร์-เสาร์ 11:30 น. ถึง 15:00 น. และ 17:00 น. ถึง 22:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,500 เยน (540 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/KV4vgxcU4dHFaWVT7
18. Menshou Taketora Main Branch | ย่าน Shinjuku

ร้าน Mensho Taketora Shinjuku เป็นร้านราเมง ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของน้ำซุปที่เข้มข้นและเส้นราเมงที่เหนียวนุ่ม ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ (Shinjuku) ของเมืองโตเกียว ร้านนี้เป็นหนึ่งในร้านราเมงที่ได้รับความนิยมสูงในหมู่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว โดยมีเมนูหลัก คือ “ราเมง” ที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง ซึ่งจะเสิร์ฟในน้ำซุปที่มีรสชาติกลมกล่อม ผสมผสานระหว่างรสชาติของทงคตสึ (น้ำซุปกระดูกหมู) และโชยุ (ซอสถั่วเหลือง) จนได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีเส้นราเมงที่ทำขึ้นเองในร้านซึ่งมีความเหนียวและอร่อย พิเศษด้วยท็อปปิ้งต่างๆ เช่น เนื้อหมูชาชู และไข่ลวก
จุดเด่นของร้าน Mensho Taketora Shinjuku คือ การผสมผสานน้ำซุปที่มีรสชาติกลมกล่อมจากทงคตสึและโชยุได้อย่างลงตัว ทำให้ราเมงของที่นี่มีรสชาติที่ซับซ้อนและอร่อยไม่เหมือนใคร ไฮไลต์ของร้านคือ Gyokai Tonkotsu Ramen Noodles (ราเมงที่ผสมซุปกระดูกหมูและซุปปลา) ซึ่งมีน้ำซุปเข้มข้นและเส้นที่เหนียวนุ่ม อีกหนึ่งจุดเด่นคือการใช้ท็อปปิ้งเนื้อหมูชาชูที่นุ่มและมีรสชาติหวานอ่อนๆ นอกจากนี้ยังมีเมนู เกี๊ยวซ่า ปีกไก่ทอด และขัาวหมูย่างสไลด์
เมนูแนะนำของร้าน Mensho Taketora Shinjyuku
1. Gyokai Tonkotsu Ramen / Gyokai Tonkotsu Tsukemen
2. Ura Taketora Ramen / Ura Taketora Tsukemen
3. Ebi No Nokou Gyokai Ramen / Ebi No Nokou Gyokai Tsukemen
4. Sio-no Konbusui Ramen
5. Oroshi Shoga-no Miso Buta Tsukemen
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันอังคาร – อาทิตย์ 00:00 น. ถึง 8:30 น. และ 11:00 น. ถึง 24:00 น. (เที่ยงคืน)
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 เยน (215 บาท)
พิกัด: Menshou Taketora Main Branch https://maps.app.goo.gl/A3JYq8SC87s797Vd9
Mensho Taketora Shinjyuku https://maps.app.goo.gl/n8HsUDtN9Z94x4nF9
19. Sushi&Robata Sushiyama Shinjuku Kibori | ย่าน Shinjuku

ร้าน Sushi&Robata Sushiyama Shinjuku Kibori ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ (Shinjuku) ของโตเกียว เป็นร้านซูชิที่มีชื่อเสียงในด้านคุณภาพของวัตถุดิบและการบริการที่ยอดเยี่ยม ร้านนี้มุ่งมั่นที่จะเสิร์ฟซูชิที่สดใหม่และเต็มไปด้วยรสชาติที่เข้มข้น โดยใช้ปลาทะเลสดที่คัดสรรมาอย่างดีจากตลาดปลาและแหล่งที่มีชื่อเสียง การทำซูชิที่นี่มีความพิถีพิถันทั้งในเรื่องของการหุงข้าวซูชิให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมและการเตรียมปลาที่มีความละเอียดอ่อน ซึ่งทำให้ลูกค้าทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์การทานซูชิที่สดและอร่อยในทุกคำ
จุดเด่นของร้าน Sushi&Robata Sushiyama Shinjuku Kibori คือ ความพิถีพิถันในการเลือกวัตถุดิบและการทำซูชิที่มีคุณภาพสูง ไฮไลต์ของร้านคือ Omakase (ซูชิแบบเลือกเมนูตามใจเชฟ) ซึ่งจะมีการเสิร์ฟซูชิที่คัดสรรโดยเชฟในแต่ละมื้อ ที่จะให้ลูกค้าลิ้มลองซูชิที่หลากหลายและมีความสดใหม่ รวมถึงท็อปปิ้งที่เสริมความอร่อยให้กับซูชิ นอกจากนี้ ร้านยังมีบรรยากาศที่อบอุ่นและการบริการที่เป็นกันเอง ซึ่งทำให้ Sushi&Robata Sushiyama Shinjuku Kibori เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นชื่นชอบสำหรับการรับประทานซูชิในชินจูกุ
เมนูแนะนำของร้าน Sushi&Robata Sushiyama Shinjuku Kibori
1. Sushi Course UNKAI = คอร์สซูชิพิเศษที่เน้นของหายากและวัตถุดิบตามฤดูกาล
2. Seasonal Special SANGA = คอร์สพิเศษที่เน้นวัตถุดิบตามฤดูกาล
3. OMAKASE Course IRODORI = คอร์สที่เชฟเลือกให้ เน้นความหลากหลาย
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:30 น. ถึง 15:00 น. และ 17:00 น. ถึง 23:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 เยน (215 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/PCCZgJV5Eqh7fkYJA
20. Haidilao Shinjuku Branch | ย่าน Shinjuku

ร้าน Haidilao Shinjuku Branch ร้านชาบูชื่อดังจากจีนที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหลายประเทศ ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ (Shinjuku) ของโตเกียว รวมถึงญี่ปุ่น Haidilao โดดเด่นด้วยการเสิร์ฟชาบูในแบบบุฟเฟ่ต์ที่ลูกค้าสามารถเลือกน้ำซุปและท็อปปิ้งต่างๆ ได้ตามความชอบ โดยร้านมีน้ำซุปหลายรสชาติให้เลือก เช่น น้ำซุปมิโสะ น้ำซุปสุกี้ยากี้ และน้ำซุปหม่าล่า ซึ่งสามารถจุ่มเนื้อหมู เนื้อวัว และผักสดใหม่ที่เลือกมาได้ตามใจ นอกจากนี้ยังมีการบริการที่มีเอกลักษณ์ เช่น การเสิร์ฟผักสดและของทานเล่นอย่างเป็ดย่าง ขนมปัง และน้ำจิ้มหลากหลายรสชาติให้ลูกค้าได้ลอง
จุดเด่นของร้าน Haidilao Shinjuku Branch คือ การบริการที่รวดเร็วและเอาใจใส่ลูกค้าอย่างดี พร้อมกับบรรยากาศที่ทันสมัยและสะอาด ไฮไลต์ของร้านคือการเลือกน้ำซุปที่หลากหลายให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งรสชาติได้ตามต้องการ รวมถึงคุณภาพของเนื้อและผักที่คัดสรรอย่างดี ซึ่งทำให้ทุกจานมีรสชาติที่สดใหม่และอร่อย พิเศษไปกว่านั้นร้านยังมีบริการเสิร์ฟน้ำจิ้มสูตรพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับการทานชาบู ทำให้ Haidilao เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทานชาบู
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 00:00 น. ถึง 7:00 น. (เจ็ดโมงเช้า) และ 11:00 น. ถึง 00:00 น. (เที่ยงคืน)
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 เยน (215 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/vuk5GxG1JkR78YDY8
21. Yakiniku Dondon | ย่าน Shinjuku

ร้าน Yakiniku Dondon เป็นร้านยากินิกุ (ปิ้งย่าง) ที่ได้รับความนิยมจากทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ร้านนี้ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ (Shinjuku) เมืองโตเกียว ภายในร้านมีบรรยากาศที่อบอุ่นและทันสมัย ตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัย ทำให้เหมาะสำหรับทั้งการรับประทานแบบด่วนหรือจะนั่งทานสบายๆ กับเพื่อนและครอบครัว ร้านนี้มีทั้งที่นั่งเคาน์เตอร์และโต๊ะ ที่ลูกค้าสามารถเลือกนั่งได้ตามสะดวก พร้อมบริการที่รวดเร็วและเป็นกันเอง
จุดเด่นของร้าน Yakiniku Dondon Shinjuku คือ เมนูเนื้อย่างคุณภาพสูง ที่รวมถึงเนื้อวัวที่มีการหมักและย่างอย่างพิถีพิถัน เช่น เนื้อวากิวที่นุ่มละลายในปาก และหมูสามชั้นที่ย่างจนกรอบกำลังดี นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องเคียงที่หลากหลาย เช่น ข้าวสวยร้อนๆ และผักสด ที่ช่วยเสริมรสชาติของเนื้อย่างได้เป็นอย่างดี อีกหนึ่งจุดเด่นคือการใช้ซอสสูตรพิเศษของทางร้านที่มีรสชาติหวานเค็มลงตัว ช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับเมนูต่างๆ ทำให้ Yakiniku Dondon เป็นหนึ่งในร้านยากินิกุที่ได้รับความนิยมสูงในย่านชินจูกุ
เมนูแนะนำของร้าน Yakiniku Dondon
1. Premium Miyazaki Beef = เนื้อมิยาซากิแบบพรีเมี่ยม
2. Assorted Grilled Beef = เนื้อย่างนานาชนิด
3. Ox Tongue with Spring Onion = ลิ้นวัวกับต้นหอม
4. Chump Chop ox Tongue = ลิ้นวัวหั่นหนา 
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันเสาร์ อาทิตย์ จันทร์ 00:00 น. ถึง 7:00 น. (เที่ยงคืน-เจ็ดโมงเช้า) และ 17:00 น. ถึง 00:00 น. (ห้าโมงเย็น-เที่ยงคืน)
วันอังคาร – พุธ 00:00 น. ถึง 5:00 น. (เที่ยงคืน-ตีห้า) และ 17:00 น. ถึง 00:00 น. (ห้าโมงเย็น-เที่ยงคืน)
วันพฤหัสบดี 00:00 น. ถึง 5:00 น. (เที่ยงคืน-ตีห้า)
วันศุกร์ 17:00 น. ถึง 00:00 น. (ห้าโมงเย็น-เที่ยงคืน)
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 680 เยน (145 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/8Z1BR914XSnLvPEq8
22. Genki Taisho Wagyu – Halal | ย่าน Shinjuku

ร้าน Genki Taisho Wagyu – Halal เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ (Shinjuku) ของโตเกียว ที่เน้นเสิร์ฟเนื้อวัวเกรดพรีเมียม Wagyu ที่ผ่านการรับรองฮาลาลเพื่อให้เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการทานอาหารฮาลาล โดยใช้เนื้อวัว Wagyu ที่มีความนุ่มและรสชาติอร่อย ซึ่งได้รับการคัดสรรอย่างดีจากฟาร์มที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ ร้านยังมีเมนูอาหารญี่ปุ่นสไตล์ชาบูชาบูและย่าง ซึ่งใช้เนื้อ Wagyu ที่สามารถทานร่วมกับผักสดและน้ำซุปที่รสชาติกลมกล่อมที่ได้รับการปรุงอย่างพิถีพิถัน ทำให้ได้สัมผัสรสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ในรูปแบบฮาลาลที่มีความคุ้มค่าและอร่อย
จุดเด่นของร้าน Genki Taisho Wagyu – Halal คือ การนำเสนอเนื้อ Wagyu ในแบบฮาลาลที่ไม่ต้องกังวลเรื่องส่วนผสมที่ไม่เหมาะสม ไฮไลต์ของร้านคือเมนูชาบูชาบูเนื้อวากิว ที่เนื้อมีความนุ่มละมุนและรสชาติอร่อยเมื่อจุ่มลงในน้ำซุปที่หอมและเข้มข้น รวมถึงเมนูเนื้อย่างวากิว ที่ใช้การย่างแบบญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มความหอมและความอร่อยให้กับเนื้อวากิว
เมนูแนะนำของร้าน Genki Taisho Wagyu – Halal
1. Premium Halal Wagyu
2. Special Halal Wagyu
3. Wagyu & Chicken
4. Bibimbap (Miyazaki Beef)
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:30 น. ถึง 23:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,900 เยน (410 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/sxrdKgR1YYwkKJ878
23. Sugoi Niboshi Rāmen Nagi Shinjuku Golden Gai | ย่าน Shinjuku

ร้าน Sugoi Niboshi Rāmen Nagi เป็นร้านราเมง ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ โกลเด้นกาย (Shinjuku Golden Gai) ซึ่งเป็นย่านที่มีชื่อเสียงในเรื่องของบาร์และร้านอาหารที่มีเอกลักษณ์ ร้านนี้เชี่ยวชาญในการเสิร์ฟราเมงที่มีรสชาติเฉพาะตัว โดยเน้นการใช้ Niboshi หรือปลาหมึกแห้งเป็นส่วนประกอบหลักในน้ำซุป ซึ่งทำให้ราเมงที่นี่มีรสชาติกลมกล่อมและลึกซึ้งอย่างที่ไม่เหมือนใคร น้ำซุปที่ใช้จะมีรสชาติที่เข้มข้นและมีกลิ่นหอมของปลาหมึกแห้ง ซึ่งเป็นสไตล์การทำราเมงที่มีเอกลักษณ์และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีเส้นราเมงที่เหนียวนุ่มและสามารถเลือกท็อปปิ้งต่างๆ ได้ตามใจชอบ
จุดเด่นของร้าน Sugoi Niboshi Rāmen Nagi คือ การใช้ปลาหมึกแห้ง (Niboshi) ในการทำน้ำซุป ทำให้ราเมงมีรสชาติที่ลึกและซับซ้อน ซึ่งทำให้ร้านนี้เป็นที่รู้จักในวงการราเมงในโตเกียว ไฮไลต์ของร้านคือ Niboshi Ramen ที่มีน้ำซุปเข้มข้นและมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ที่เป็นจุดขายของร้าน อีกทั้งยังมีเมนูที่หลากหลายเช่น Chashu Ramen (ราเมงชาชู) ซึ่งมีหมูชาชูที่นุ่มและรสชาติกลมกล่อมเพิ่มมิติให้กับราเมง ในบรรยากาศที่ค่อนข้างคับแคบแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของย่านโกลเด้นกาย ทำให้ร้าน Sugoi Niboshi Rāmen Nagi เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบราเมงในโตเกียว
เมนูแนะนำของร้าน Sugoi Niboshi Rāmen Nagi Shinjuku Golden Gai
1. Special Ramen (All Include) = ราเมงพิเศษรวมทุกอย่าง ขายดีอันดับ 1
2. Niboshi Ramen = ราเมงที่น้ำซุปแห้ง
3. Wide Noodle in Dipping Style (Cold Noodle) = ราเมงเย็น “บะหมี่เย็น”
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ ตลอด 24 ชั่วโมง
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,350 เยน (290 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/rRA4Q7QYCdCpXTZn7
— ย่านชิบุย่า Shibuya —
24. Uobei Shibuya Dogenzaka Store | ย่าน Shibuya

ร้าน Uobei Shibuya Dogenzaka Store เป็นร้านซูชิสายพาน ตั้งอยู่ในย่านชิบูย่า (Shibuya) ของโตเกียว ลูกค้าสามารถเลือกซูชิได้ตามต้องการจากเมนูที่ถูกจัดวางบนสายพานหรือสามารถสั่งผ่านหน้าจอสัมผัสที่มีอยู่ทุกโต๊ะ เมนูของร้านประกอบด้วยซูชิที่ใช้ปลาสดจากแหล่งที่มีชื่อเสียง เช่น ซาชิมิทูน่า ซาชิมิแซลมอน และปู รวมถึงเมนูพิเศษที่ทำสดใหม่ทันทีที่ลูกค้าสั่ง เช่น ซูชิเนื้อ และซูชิท็อปปิ้งจากวัตถุดิบระดับพรีเมียม แถมราคาไม่แพง
จุดเด่นของร้าน Uobei Shibuya Dogenzaka Store คือ ระบบการเสิร์ฟซูชิที่รวดเร็วและทันสมัย ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกซูชิได้อย่างสะดวกและสนุกสนาน ไฮไลต์ของร้านคือการเสิร์ฟซูชิที่มีความสดใหม่และอร่อยจากสายพานที่หมุนไปตามโต๊ะ พร้อมทั้งสามารถสั่งซูชิที่ต้องการโดยตรงจากหน้าจอสัมผัสในร้าน หากใครกำลังมองหาร้านซูชิสายพาน Uobei Shibuya Dogenzaka Store ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ
เมนูแนะนำของร้าน Uobei Shibuya Dogenzaka Store
1. Seasonal Menu
2. ซูชิปลาแซลมอน
3. ซูชิปลาทูน่า
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:30 น. ถึง 23:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 150 เยน (30 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/inASKyQj4oX7edALA
25. TAMAGO-KEN SHIBUYA | ย่าน Shibuya

ร้าน TAMAGO-KEN Shibuya เป็นร้านที่เน้นเสิร์ฟเมนูไข่ ตั้งอยู่ในย่านชิบูย่า (Shibuya) ของโตเกียว ร้านนี้มีชื่อเสียงในเรื่องเมนูไข่ (Tamago) โดยเฉพาะการทำ Tamagoyaki (ไข่ม้วนญี่ปุ่น) ที่ทำด้วยความพิถีพิถันทำให้เนื้อไข่นุ่มละมุน และมีรสชาติหวานกลมกล่อม ซึ่งทำให้ร้านนี้กลายเป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ลูกค้าสามารถเลือกทานไข่ม้วนในรูปแบบต่างๆ ได้ เช่น ไข่ม้วนธรรมดา หรือไข่ม้วนที่เสิร์ฟพร้อมกับข้าว หรือเมนูอื่นๆ ที่มีไข่เป็นส่วนประกอบหลัก
จุดเด่นของร้าน TAMAGO-KEN Shibuya คือ ความเชี่ยวชาญในการทำ Tamagoyaki ที่มีรสชาติหวานนุ่มและเนื้อไข่ที่ละมุน ไฮไลต์ของร้านคือเมนู Tamagoyaki Set ที่ประกอบด้วยไข่ม้วนสดๆ ที่ทำใหม่ทุกคำ พร้อมข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ และท็อปปิ้งที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีเมนูข้าวหน้าท้องไข่ (Tamago Don) และไข่เจียวที่ทำจากไข่สดใหม่เสิร์ฟพร้อมกับข้าวญี่ปุ่นที่รสชาติอร่อยลงตัว ทำให้ TAMAGO-KEN กลายเป็นที่นิยมในหมู่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นที่มีรสชาติอร่อยและสดใหม่ในย่านชิบูย่า
เมนูแนะนำของร้าน TAMAGO-KEN SHIBUYA
1. Wagyu Hamburger Steak Omurice = ข้าวห่อไขแฮมเบอร์เกอร์วากิว
2. Wagyu Cutlet Omurice = ข้าวห่อไข่วากิว
3. Grilled Wagyu Loin & Salmon Roe = ข้าวห่อไข่เนื้อวากิวและไข่ปลาแซลมอน
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:30 น. ถึง 22:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,090 เยน (230 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/dw6bRpkVaVZh84FJ8
26. Tamatebako Shibuya | ย่าน Shibuya


ร้าน Tamatebako Shibuya เป็นร้านบุฟเฟ่ต์อาหารทะเล และบาร์บีคิว ตั้งอยู่ในย่านชิบูย่า (Shibuya) ของเมืองโตเกียว โดยใช้วัตถุดิบทะเลสดใหม่จากแหล่งผลิตที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น ร้านนี้ให้บริการอาหารทะเลที่หลากหลาย เช่น ปลาทูน่าครีบน้ำเงินสด ปูอลาสก้า ปูขน ปูดอกไม้ ปูหิมะ กุ้งมังกรอิเสะ กุ้งมังกร ล็อบสเตอร์ หอยนางรมสด ไข่ปลาแซลมอน เม่นทะเล หอยเชลล์ หอยเป๋าฮื้อ และอาหารทะเลสดๆ กว่า 70 ชนิด สามารถนำไปย่างบนเตาบาร์บีคิว หรือทานในรูปแบบดิบๆ เป็นซาชิมิก็ได้ตามความชอบ นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆ เช่น ข้าวหน้าอาหารทะเล และซุปทะเลที่สามารถรับประทานได้แบบไม่จำกัด
จุดเด่นของร้าน Tamatebako Shibuya คือ เป็นร้านบุฟเฟ่ต์อาหารทะเล พร้อมเครื่องดื่มไม่อั้น ที่ทุกท่านเลือกได้ตามใจชอบ ทานได้ไม่อั้น 90 นาที เสิร์ฟอาหารทะเลสดใหม่ได้ไม่อั้น ลูกค้าสามารถเลือกอาหารทะเลได้ตามต้องการ เหมาะกับคนที่ชอบทานอาหารทะเลที่หลากหลาย
เมนูแนะนำของร้าน Tamatebako Shibuya
1. Red Snow Crab
2. Raw Bluefin Tuna
3. Raw Oyster
4. Scallop butter
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 22:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 7,120 เยน (1,500 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/5pHr1qzgQ1mjSQMp6
27. Gyumon Halal Wagyu Ramen Shibuya | ย่าน Shibuya

ร้าน Gyumon Halal Wagyu Ramen เป็นร้านราเมง ที่เน้นเสิร์ฟเมนูราเมงที่ทำจากเนื้อวากิว ตั้งอยู่ในย่านชิบูย่า (Shibuya) ของเมืองโตเกียว โดยร้านนี้จะเน้นวากิวเกรดพรีเมียม ที่ผ่านการรับรองฮาลาล ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทานอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบฮาลาล ที่ร้านนี้ใช้เนื้อวากิว ที่มีรสชาตินุ่มละมุนและมีไขมันแทรกในเนื้อที่อุดมไปด้วยรสชาติ ผสมผสานระหว่างการทำราเมงแบบดั้งเดิมที่ใช้วัตถุดิบระดับสูง เมนูหลักของร้านคือราเมงที่มีน้ำซุปที่เข้มข้นและเส้นราเมงที่เหนียวนุ่ม เมื่อนำมารวมกับเนื้อวากิวทำให้ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และแตกต่างจากราเมงทั่วไป
จุดเด่นของร้าน Gyumon Halal Wagyu Ramen คือ การเสิร์ฟราเมงที่ใช้เนื้อวากิวคุณภาพสูง เกรดพรีเมียม พร้อมน้ำซุปที่มีรสชาติกลมกล่อมของทางร้าน ที่ถูกปรุงขึ้นอย่างพิถีพิถัน ลูกค้าสามารถเลือกซุปได้มีหลายรสชาติ เช่น โชยุ หรือมิโสะ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นซุปแบบไหนก็เข้ากันได้ดีกับความนุ่มของเนื้อวากิวได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ร้านยังมีเมนูเกี๊ยวซ่าเนื้อวากิว ข้าวหน้าเนื้อวากิว และเมนูอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมาย
เมนูแนะนำของร้าน Gyumon Halal Wagyu Ramen Shibuya
1. Wagyu Ramen & Gyukatsu Set (Gyumon Signature)
2. Wagyu Spicy Broth (Special Ramen)
3. Wagyu White Broth (Special Ramen)
4. Gyukatsu A5 Wagyu Set
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 12:00 น. ถึง 23:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000 เยน (430 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/jvady3qKFDCgRV456
28. Halal Wagyu Yakiniku Gyumon Shibuya | ย่าน Shibuya

ร้าน Halal Wagyu Yakiniku Gyumon Shibuya เป็นร้านยากินิกุที่เน้นเสิร์ฟเนื้อวากิว เกรดพรีเมียมที่ผ่านการรับรองฮาลาล ตั้งอยู่ในย่านชิบูย่า (Shibuya) ของเมืองโตเกียว ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทานเนื้อย่างญี่ปุ่นในรูปแบบฮาลาลที่มีคุณภาพสูง ร้านนี้ขึ้นชื่อในการใช้เนื้อวากิว ซึ่งเป็นเนื้อวัวที่มีลักษณะของไขมันแทรกในเนื้ออย่างลงตัว จึงทำให้เนื้อมีความนุ่มละมุนและรสชาติอร่อยมาก โดยร้านจะเสิร์ฟเนื้อย่างแบบสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ พร้อมกับน้ำจิ้มยากินิกุที่มีรสชาติกลมกล่อมและสามารถปรับความเผ็ดได้ตามต้องการ
จุดเด่นของร้าน Halal Wagyu Yakiniku Gyumon Shibuya คือ การใช้เนื้อวากิวคุณภาพสูงที่ได้รับการรับรองฮาลาล พร้อมการย่างที่พิถีพิถันจนได้รสชาติที่อร่อยและนุ่ม ซึ่งเนื้อวากิวของทางร้านจะถูกย่างบนเตาถ่านจนมีความหอมและสีสวย เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มยากินิกุที่ทำให้เนื้อมีรสชาติกลมกล่อม นอกจากนี้ยังมีเมนู ข้าวหน้าเนื้อวากิว และสเต็กวากิว สามารถเลือกระดับความสุกได้ตามชอบ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นที่ชื่นชอบการทานเนื้อย่างญี่ปุ่นในรูปแบบฮาลาล
เมนูแนะนำของร้าน Halal Wagyu Yakiniku Gyumon Shibuya
1. Premium Halal A5 Wagyu Set
2. Special Halal A5 Wagyu Set
3. Standard A5 Wagyu Set
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 12:00 น. ถึง 23:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 3,000 เยน (650 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/VfAaEsusWNpQ5iq66
29. Kushiyaki Bistro Fukumimi | ย่าน Shibuya

ร้าน Kushiyaki Bistro Fukumimi เป็นร้านอาหารปิ้งย่างเสียบไม้สไตล์ญี่ปุ่น ที่เรียกว่า คุชิยากิ (Kushiyaki) ที่ตั้งอยู่ในย่าน Shibuya โตเกียว ซึ่งถือเป็นร้านที่มีความเป็นเอกลักษณ์และได้รับความนิยมจากทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ร้านนี้เน้นการเสิร์ฟอาหารที่ปรุงสดใหม่และย่างด้วยไม้เสียบอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์หรือผักต่างๆ ที่ได้รับการเลือกสรรมาอย่างดี ทุกๆ ไม้ที่เสิร์ฟจะมีรสชาติกลมกล่อม และซอสสูตรพิเศษของร้านจะยิ่งช่วยเพิ่มความอร่อยได้เป็นอย่างดี การตกแต่งภายในร้านมีความเรียบง่ายแต่ดูอบอุ่น ทำให้เหมาะแก่การมานั่งรับประทานอาหารในบรรยากาศสบายๆ พร้อมการบริการที่รวดเร็วและเป็นมิตร
จุดเด่นของร้าน Kushiyaki Bistro Fukumimi คือ การใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงสำหรับคุชิยากิ โดยเฉพาะเนื้อหมู และเนื้อวัวที่มีความนุ่มและรสชาติเต็มเปี่ยม อีกทั้งยังมีเมนูคุชิยากิที่หลากหลาย เช่น หมูสามชั้น ไก่ และผักต่างๆ ที่ย่างจนได้กลิ่นหอมจากการย่างด้วยถ่านไม้ ที่ร้านยังมีการเสิร์ฟแบบเซ็ตรวม ทำให้ลูกค้าสามารถลิ้มลองหลายรสชาติในครั้งเดียว อีกทั้งร้านยังมีความโดดเด่นในการให้บริการที่รวดเร็วและใส่ใจทุกรายละเอียด ทำให้เป็นที่ชื่นชอบสำหรับทั้งลูกค้าประจำและนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสรสชาติของคุชิยากิแบบดั้งเดิมในโตเกียว
เมนูแนะนำของร้าน Kushiyaki Bistro Fukumimi
1. Fukumimi Signature Dishes
2. Yakitori Don Special
3. Potato Salad with Smoked Egg
4. Noko Purin / Rich Egg Custard Pudding
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 16:00 น. ถึง 23:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 270 เยน (60 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/Wy9ERT3yM5sEuZdJ7
30. We Are The Farm Shibuya| ย่าน Shibuya

ร้าน We Are The Farm Shibuya เป็นร้านอาหารออร์แกนิก ที่ตั้งอยู่ในย่านชิบูย่า (Shibuya) ของโตเกียว เป็นร้านจะเน้นการเสิร์ฟอาหารเพื่อสุขภาพจากวัตถุดิบออร์แกนิก โดยเฉพาะเป็นผักสดจากฟาร์มของร้านเอง ซึ่งเน้นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลง ร้านนี้โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์การเสิร์ฟเมนูอาหารที่มีส่วนผสมจากผักและผลไม้ตามฤดูกาล ทั้งยังมีเมนูสลัดและข้าวที่ประกอบไปด้วยวัตถุดิบจากฟาร์มที่รับประกันความสดและคุณภาพ อีกทั้งยังมีเมนูแบบ Vegan และ Vegetarian ที่เหมาะสำหรับผู้ที่เลือกรับประทานอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
จุดเด่นของร้าน We Are The Farm Shibuya คือ การใช้วัตถุดิบออร์แกนิกที่คัดสรรจากฟาร์มของที่ร้านเอง ทำให้การทานอาหารที่นี่เป็นประสบการณ์ที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ ผักสดๆ จากฟาร์มนำมาประกอบเป็นสลัดที่มีรสชาติกรอบและสดชื่น พร้อมทั้งน้ำสลัดที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีเมนูข้าวผัดและข้าวหน้าเนื้อที่ใช้เนื้อออร์แกนิกและผลิตภัณฑ์จากฟาร์มที่มีคุณภาพ โดยบรรยากาศในร้านที่อบอุ่นและเรียบง่ายทำให้ผู้ที่มาเยือนรู้สึกผ่อนคลายและสามารถเพลิดเพลินกับมื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพได้อย่างเต็มที่ ที่ร้านมีทั้งแบบอะลาคาร์ท แบบคอร์ส และแบบบุฟเฟ่ต์กลางวันให้บริการ
เมนูแนะนำของร้าน We Are The Farm Shibuya
1. Farm Course
2. Bagna Cauda Course
3. Teppanyaki Bagna Cauda
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 14:30 น. และ 17:00 น. ถึง 23:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 เยน (215 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/BBxYJNx3TxokcYc18
31. Ikura Shibuya | ย่าน Shibuya

ร้าน Ikura Shibuya เป็นร้าน Hamburger & Omelette Rice ตั้งอยู่ในย่านชิบูย่า (Shibuya) ของโตเกียว เป็นร้านที่เน้นเสิร์ฟเมนูที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่นอย่าง แฮมเบิร์ก และข้าวห่อไข่สไตล์ญี่ปุ่น (Omurice) โดยที่ร้านมีการใช้วัตถุดิบคุณภาพในการทำอาหารทั้งสองเมนูเพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมและมีความเป็นเอกลักษณ์ เมนูแฮมเบิร์กของร้านจะเสิร์ฟพร้อมกับซอสที่ทำขึ้นเองซึ่งช่วยเพิ่มมิติของรสชาติ ขณะที่โอมุไรซ์ของร้านจะทำจากข้าวผัดไก่ที่ห่อด้วยไข่เนื้อนุ่ม พร้อมราดด้วยซอสสูตรพิเศษ มีให้เลือกหลายซอส เช่น Demi glace, Hakata Mentaiko Cream Sauce, Black Curry และ Ketchup Sauce
จุดเด่นของร้าน Ikura Shibuya คือ ความเชี่ยวชาญในการทำ แฮมเบิร์ก และข้าวห่อไข่ ที่มีรสชาติอร่อยและลงตัว โดยไฮไลต์ของร้านคือเมนู Hamburger (แฮมเบอร์เกอร์) ที่ทำจากเนื้อวัวคุณภาพสูง ซึ่งย่างจนได้ความนุ่มและรสชาติอันยอดเยี่ยม และยังมีซอสสูตรพิเศษที่ทำให้แฮมเบิร์กมีรสชาติกลมกล่อมและเป็นเอกลักษณ์ ส่วน Omurice ก็โดดเด่นด้วยข้าวผัดที่มีรสชาติกลมกล่อมและไข่เจียวที่นุ่มละมุนเมื่อทานคู่กันกับซอสสูตรพิเศษของร้าน ทำให้ที่ร้าน Ikura เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นสไตล์ฟิวชั่นและรสชาติที่อร่อยแบบคลาสสิค
เมนูแนะนำของร้าน Ikura Shibuya
1. Premium Omburger
2. Premium Hamburger Omelette Rice
3. Omelette Rice
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 15:00 น. และ 17:00 น. ถึง 22:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,600 เยน (350 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/eo6o1PQXjbVJBEzTA
32. Sushi no Midori Shibuya | ย่าน Shibuya

ร้าน Sushi no Midori เป็นร้านซูชิ ที่มีชื่อเสียงในย่านชิบูย่า (Shibuya) และกินซ่า (Ginza) ของโตเกียว โดยเฉพาะร้าน Sushi no Midori สาขาหลักกินซ่า ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ร้านนี้มีจุดเด่นในเรื่องของการเสิร์ฟซูชิที่มีคุณภาพสูงในราคาที่สมเหตุสมผล ด้วยการใช้วัตถุดิบสดใหม่ที่คัดสรรมาอย่างดี เช่น ปลาทูน่าสด แซลมอน ปลาไหล และอาหารทะเลต่างๆ ที่มาเป็นส่วนประกอบของซูชิที่เสิร์ฟ โดยเฉพาะการทำซูชิแบบ Omakase (เมนูคัดสรรจากเชฟ) ที่เชฟจะเลือกปลาสดใหม่จากตลาดปลาและเสิร์ฟในรูปแบบที่หลากหลาย
จุดเด่นของร้าน Sushi no Midori คือ การคัดสรรวัตถุดิบที่สดใหม่และการเตรียมซูชิด้วยความพิถีพิถัน ซูชิที่ร้านนี้เสิร์ฟนั้นมีรสชาติกลมกล่อมและรสสัมผัสที่สดใหม่ อีกทั้งยังมีเมนู Omakase Sushi ที่เชฟจะเตรียมซูชิให้ลูกค้าตามฤดูกาลหรือความชอบส่วนตัว ไฮไลต์ของร้านคือ Nigiri Sushi ซึ่งเป็นซูชิที่มีปลาสดคุณภาพสูงบนข้าวที่ราดน้ำส้มสายชูสูตรพิเศษ มีรสชาติที่ลงตัวและสัมผัสได้ถึงความสดใหม่จากวัตถุดิบ การบริการที่รวดเร็วและบรรยากาศที่อบอุ่นทำให้ Sushi no Midori เป็นร้านซูชิที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ซูชิคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ในย่านโตเกียว
เมนูแนะนำของร้าน Sushi no Midori Shibuya
1. Chirasi (Unrolled sushi served in a bowl)
2. Premium nigiri
3. Comes with Special nigiri
4. Original Conger Eel
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – ศุกร์ 11:00 น. ถึง 15:00 น. และ 17:00 น. ถึง 21:00 น. 
วันเสาร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 21:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 150 เยน (35 บาท)
พิกัด: Sushi no Midori Shibuya https://maps.app.goo.gl/QqtMVx4J6eXHtMAR6
Sushi no Midori Ginza https://maps.app.goo.gl/wY8qBHyR1ENp6f836
33. EDW yellow Shibuya | ย่าน Shibuya

ร้าน EDW yellow Shibuya (Espresso D’ Works Yellow) เป็นคาเฟ่และร้านอาหารยอดนิยมที่ตั้งอยู่ในย่านชิบูย่าของกรุงโตเกียว ใกล้กับสถานีชิบูย่าและตึก SHIBUYA109 เป็นร้านที่ผสมผสานสไตล์ คาเฟ่ย้อนยุค เข้ากับ ความทันสมัย ร้านนี้เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการลิ้มลองเมนูอาหารสไตล์คอมฟอร์ตฟู้ด (Comfort Food) ที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกและญี่ปุ่นเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว จุดเด่นของร้านนี้คือการนำเสนอเมนูซิกเนเจอร์อย่างข้าวห่อไข่ (Omurice) ที่มีหลากหลายแบบ และแพนเค้กซูเฟล่ (Soufflé Pancake) เนื้อนุ่มฟู ซึ่งเป็นไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด
จุดเด่นของร้าน EDW yellow Shibuya คือ เมนูข้าวห่อไข่ที่โด่งดัง โดยเฉพาะเมนู “Double Cheese Hamburg Omelette Rice” ที่มีไข่เนื้อนุ่มละมุนละไมห่อหุ้มข้าวปรุงรสอย่างดี และสอดไส้ชีสเยิ้มๆ พร้อมแฮมเบิร์กเนื้อฉ่ำๆ นอกจากนี้ทางร้านยังใช้ไข่ไก่คุณภาพสูงอย่าง “Maximum Koitamago” เพื่อให้ได้ไข่ห่อที่มีสีสันสดใสและรสชาติเข้มข้นยิ่งขึ้น อีกเมนูที่ขึ้นชื่อคือแพนเค้กซูเฟล่ที่มีความนุ่มฟูและไม่หวานจนเกินไป เสิร์ฟพร้อมท็อปปิ้งหลากหลายตามฤดูกาล และซอสราดมีให้เลือกหลายแบบไม่ว่าจะเป็น ซอสครีมหอยลาย (Clam Chowder) ซอสครีมเห็ด (Mushroom Carbonara) ซอสครีมกุ้งมะเขือเทศ (Shrimp Tomato Cream) ซอสเดมิกลาซ (Demiglace) ซอสขาว (White Sauce) และซอสแกงกะหรี่ (Curry)
เมนูแนะนำของร้าน EDW yellow Shibuya
1. Double Cheese Hamburg Omelette Rice
2. Crab Cream Croquette Omelet Rice
3. Wagyu Hamburger Omelet Rice
4. Beef Tongue Stew Omelet Rice
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 21:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,080 เยน (230 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/pGQfthXb6VbJebN98
34. Hikiniku to Come (Shibuya) | ย่าน Shibuya

ร้าน Hikiniku to Come (挽肉と米) สาขาชิบูย่า เป็นร้านแฮมเบิร์กสเต็กสไตล์ญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในย่านชิบูย่า (Shibuya) เมืองโตเกียว ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง จนกลายเป็นกระแสโด่งดังในหมู่นักกิน โดยมีปรัชญาการเสิร์ฟอาหารที่เน้นความสดใหม่ในทุกขั้นตอน หรือที่เรียกว่า “Just ground, Just grilled, Just cooked” (挽きたて、焼きたて、炊きたて) ซึ่งหมายถึงการบดเนื้อใหม่ทุกเช้า ย่างด้วยเตาถ่านต่อหน้าลูกค้า และการหุงข้าวใหม่ในหม้อฮากามะแบบดั้งเดิม การตกแต่งร้านเป็นสไตล์อินดัสเทรียลที่ดูทันสมัย มีที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ล้อมรอบครัวเปิด ทำให้ลูกค้าสามารถรับชมการทำอาหารของเชฟได้อย่างใกล้ชิด
จุดเด่นของร้าน Hikiniku to Come คือ “Hikiniku to Come Set Meal” ซึ่งเป็นเมนูหลักเพียงอย่างเดียวของร้าน โดยในชุดจะประกอบด้วยแฮมเบิร์กสเต็กชิ้นเล็ก 3 ชิ้น (ชิ้นละ 90 กรัม) ทำจากเนื้อวัวญี่ปุ่น 100% ย่างด้วยเตาถ่านให้มีกลิ่นหอมกรุ่น เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยหุงใหม่ที่สามารถเติมได้ไม่จำกัด ซุปมิโสะ และไข่ไก่สดสำหรับรับประทานกับข้าว นอกจากนี้ ทางร้านจะเสิร์ฟแฮมเบิร์กทีละชิ้นตามลำดับ เพื่อให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินกับความร้อนและความสดใหม่ของเนื้อในแต่ละคำ
วิธีการรับประทาน 3 ขั้นตอน
1. เริ่มจากทานแบบธรรมดา
2. ตามด้วยการเพิ่มหัวไชเท้าขูดกับซอสพอนสึเพื่อรสชาติที่สดชื่น
3. ปิดท้ายด้วยการจิ้มกับไข่ดิบเพื่อความนุ่มนวลและเข้มข้น
เมนูแนะนำของร้าน Hikiniku to Come (Shibuya)
1. Hikiniku to Come Set = เซ็ตแฮมเบิร์ก 3 ชิ้น (เสิร์ฟทีละชิ้น) เสิร์ฟพร้อมข้าวที่หุงจากหม้อฮากามะ (เติมฟรีไม่อั้น) ซุปมิโสะ และไข่ไก่สด
**** ที่ร้านจะขายแค่เมนูเดียว ****
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์, อังคาร, พฤหัสบดี, ศุกร์ รอบแรก 11.00 น. – 14.15 น. รอบสอง 17.00 น. – 20.20 น. (เปิด 2 รอบ)
วันเสาร์ – อาทิตย์ รอบแรก 8.00 น. – 10.00 น. รอบสอง 11.00 น. – 14.15 น. รอบสาม 17.00 น. – 20.20 น. (เปิด 3 รอบ)
วันหยุด: ปิดทุกวันพุธ
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,800 เยน (400 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/W5KeNidgrXgYwygcA
— ย่านกินซ่า Ginza —
35. Tempura Abe Honten | ย่าน Ginza

ร้าน Tempura Abe Honten เป็นร้านเทมปุระ ที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นในปี 1888 ซึ่งมีสาขาหลักตั้งอยู่ที่ย่านกินซ่า (Ginza) เมืองโตเกียว ร้านนี้ถือเป็นหนึ่งในร้านเทมปุระที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น เป็นร้านเทมปุระที่มีประวัติยาวนาน และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการอาหารญี่ปุ่น ด้วยความใส่ใจในรายละเอียดและการใช้เทคนิคการทอดที่พิถีพิถัน ทำให้ร้านนี้ได้รับการยอมรับจากทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว การดำเนินงานของร้านตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันยังคงรักษาคุณภาพและมาตรฐานที่สูงเสมอ นอกจากนี้ ร้านยังมีการบริการที่อบอุ่นและมีเอกลักษณ์ โดยเชฟจะทอดเทมปุระตรงหน้าแขก เพิ่มความพิเศษให้กับประสบการณ์การรับประทานอาหาร
จุดเด่นของร้าน Tempura Abe Honten คือ การคัดสรรวัตถุดิบที่สดใหม่และมีคุณภาพสูง เช่น กุ้งสด ปลาฮามาจิ และผักตามฤดูกาล ซึ่งทำให้เทมปุระที่เสิร์ฟออกมามีรสชาติที่ยอดเยี่ยม ที่ร้านยังมีการปรุงน้ำซุป และใช้ซอสสูตรพิเศษที่เสิร์ฟคู่กับเทมปุระ ช่วยเพิ่มมิติของรสชาติได้อย่างลงตัว และยังมีเมนู Tempura Omakase ที่เป็นหนึ่งในไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด เชฟจะคัดสรรและเสิร์ฟเทมปุระที่มีเอกลักษณ์ในแต่ละมื้อ ด้วยการบริการที่ละเอียดและสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ Tempura Abe Honten จึงถือเป็นหนึ่งในร้านเทมปุระที่ดีที่สุดในโตเกียว
เมนูแนะนำของร้าน Tempura Abe Honten
1. Tempura Set = 3,850 เยน
2. Tempura “Matsu” = 5,500 เยน
3. Tempura “Bamboo” = 8,800 เยน
4. Lunch Kakiage Bowl (Weekday) = 909 เยน
5. Big Shrimp (Weekday) = 909 เยน
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – ศุกร์ 11:30 น. ถึง 14:00 น. และ 17:00 น. ถึง 21:00 น.
วันเสาร์ – อาทิตย์ 11:30 น. ถึง 15:00 น. และ 17:00 น. ถึง 21:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 เยน (220 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/WgfZ4bVv9dWrrVB28
36. Ningyocho Imahan Ginza | ย่าน Ginza

ร้าน Ningyocho Imahan Ginza เป็นร้านสุกียากี้ และชาบูชาบู ระดับพรีเมี่ยม เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ในย่านกินซ่า (Ginza) เมืองโตเกียว โดยเป็นหนึ่งในสาขาของ “Ningyocho Imahan” แบรนด์เนื้อวากิวชื่อดังที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี 1895 รสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ๆ บรรยากาศภายในร้านตกแต่งอย่างประณีตในสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม มีทั้งที่นั่งแบบโต๊ะและห้องส่วนตัวบนพื้นทาทามิ พร้อมพนักงานในชุดกิโมโนที่ให้บริการอย่างใส่ใจและสุภาพ
จุดเด่นของร้าน Ningyocho Imahan Ginza คือ การคัดสรรเนื้อวัวและวัตถุดิบคุณภาพสูง ที่สืบทอดมายาวนานกว่าร้อนปี ร้านนี้ขึ้นชื่อว่าเป็น “ต้นตำรับสุกียากี้สไตล์โตเกียว” ที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับความดั้งเดิมได้อย่างลงตัว และที่ร้านเลือกใช้เนื้อวากิวสายพันธุ์ Kuroge Wagyu คุณภาพสูง ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มงวดจากฟาร์มชั้นนำทั่วญี่ปุ่น ทำให้ได้รสชาติเนื้อนุ่มละลายในปากและกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์
เมนูแนะนำของร้าน Ningyocho Imahan Ginza
1. Beef Lover’s Course
2. Amiyaki Steak
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:30 น. ถึง 22:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 15,000 เยน (3,275 บาท)
พิกัด: Ningyocho Imahan Ginza https://maps.app.goo.gl/as4JKubBCZjiYhjM6
Ningyocho Imahan https://maps.app.goo.gl/tBL1GF34uhCXH21G9
37. Kaiten Sushi Ginza Onodera | ย่าน Ginza

ร้าน Kaiten Sushi Ginza Onodera เป็นร้านซูชิสายพาน ระดับพรีเมียม ที่ต่อยอดมาจากแบรนด์ซูชิชื่อดัง “Ginza Onodera” ที่ได้รับมิชลินสตาร์หลายปีซ้อน ร้านนี้ตั้งอยู่ในย่าน Omotesando-Ginza ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความทันสมัยและหรูหรา ที่ร้านจะใช้เทคนิคการทำซูชิแบบ “เอโดะมาเอะ” มาผสมผสานกับรูปแบบสายพานสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ทำให้ลูกค้าสามารถลิ้มรสซูชิคุณภาพสูงระดับโอมากาเสะได้ในราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า บรรยากาศภายในร้านตกแต่งอย่างเรียบหรู มีเคาน์เตอร์ไม้และสายพานซูชิที่ให้เชฟปรุงและเสิร์ฟตรงหน้า เพิ่มเสน่ห์และความใกล้ชิดระหว่างเชฟกับลูกค้า
จุดเด่นของร้าน Kaiten Sushi Ginza Onodera คือ การใช้วัตถุดิบชั้นเลิศระดับเดียวกับร้านโอมากาเสะ เช่น เนื้อปลาทูน่าชูโทโร่และโอโทโร่ ข้าวอากะชาริ (ข้าวซูชิที่หมักด้วยน้ำส้มแดง) และเทคนิคการบ่มปลาแบบดั้งเดิมของเอโดะมาเอะ แม้จะเป็นร้านซูชิสายพาน แต่ยังคงรักษามาตรฐานความประณีตทุกขั้นตอน ทั้งรสชาติ การจัดเสิร์ฟ และการบริการอย่างใส่ใจ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสรสชาติซูชิคุณภาพระดับสูง ไม่ต้องจองล่วงหน้านาน หรือเสียค่าใช้จ่ายเท่าร้านโอมากาเสะระดับมิชลิน
เมนูแนะนำของร้าน Kaiten Sushi Ginza Onodera
1. Akami / Churoto / Otoro
2. Sea urchin / Salmon roe / Gunkan
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 10:30 น. ถึง 22:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 580 เยน (120 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/Tx6AzLy2mMqGjZD37
38. Tonkatsu Aoki Ginza 8-chome branch | ย่าน Ginza

ร้าน Tonkatsu Aoki Ginza 8-chome branch เป็นร้านทงคัตสึ ที่ตั้งอยู่ในย่านกินซ่า (Ginza) เมืองโตเกียว ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องทงคัตสึเนื้อนุ่มกรอบ และน้ำมันทอดที่ไม่อมน้ำมันจนเกินไป ร้านนี้โดดเด่นด้วยการใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง โดยเฉพาะเนื้อหมูคุณภาพดีที่ผ่านการหมักและเตรียมอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้ความกรอบนอกนุ่มใน รสชาติกลมกล่อมและไม่เลี่ยน บรรยากาศของร้านดูเรียบหรูแต่สบาย เหมาะสำหรับทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ โดยลูกค้าสามารถเลือกเมนูทงคัตสึหลากหลายแบบ ทั้งทงคัตสึหมูธรรมดา และทงคัตสึสันนอกที่ได้รับความนิยมมาก
จุดเด่นของร้าน Tonkatsu Aoki Ginza 8-chome branch คือ การทอดทงคัตสึในอุณหภูมิและระยะเวลาที่เหมาะสม ทำให้ได้ความกรอบและน้ำหนักสัมผัสที่พอดี อีกทั้งยังเสิร์ฟคู่กับซอสทงคัตสึสูตรพิเศษที่มีรสชาติเข้มข้นและไม่หวานเกินไป ช่วยเติมเต็มรสชาติของเนื้อหมูได้อย่างลงตัว เมนูแนะนำได้แก่ “ทงคัตสึสันนอก” ที่เนื้อหนา ชุ่มฉ่ำ และ “ทงคัตสึเซ็ต” ที่มาพร้อมข้าว ซุป และเครื่องเคียง ทำให้มื้ออาหารครบครันและอิ่มอร่อย เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบทงคัตสึแบบดั้งเดิมในบรรยากาศร้านที่มีคุณภาพสูงในย่านกินซ่า
เมนูแนะนำของร้าน Tonkatsu Aoki Ginza 8-chome branch
1. Half and Half Cutlet Set Meal 250g = 2,200 เยน
2. Top loin Cutlet Set Meal 200g = 1,700 เยน
3. Special loin Cutlet Set Meal 300g = 2,200 เยน
4. Shoulder loin Cutlet (Medium) Set Meal 200g = 1,800 เยน
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันอังคาร – เสาร์  11:00 น. ถึง 15:00 น. และ 17:00 น. ถึง 21:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 เยน (220 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/RfBtRGAsE3PxwHot7
39. Ushigoro Ginza Namiki St. | ย่าน Ginza

ร้าน Ushigoro Ginza Namiki St. เป็นร้านยากินิกุ ระดับพรีเมียม ที่ตั้งอยู่ในย่านกินซ่า (Ginza) กรุงโตเกียว ขึ้นชื่อเรื่องการใช้เนื้อวากิวสายพันธุ์คุโระเกะเกรด A5 ซึ่งเป็นเกรดสูงสุดที่มีความนุ่มละมุนและรสชาติกลมกล่อม ร้านนี้มีบรรยากาศหรูหราและตกแต่งอย่างมีสไตล์ เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารกับเพื่อน ครอบครัว หรือการออกเดต เมนูของร้านมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลจะมีเมนูพิเศษ อย่างเช่น ซุปคอนซอมเม่เห็ดมัตสึทาเกะและเนื้อวากิว ซูชิแฮนด์โรลเนื้อวากิว และเห็ดมัตสึทาเกะ ซูกิยากิเนื้อซาบูตง ลิ้นดำย่างหนา สเต๊กฮารามิหั่นหนา ข้าวผัดกระเทียมเนื้อวากิวบนหินร้อน และขนมหวานสุดพิเศษ
จุดเด่นของร้าน Ushigoro Ginza Namiki St. คือ การคัดสรรเนื้อวากิวดำญี่ปุ่นเกรด A5 คุณภาพสูงสุดเท่านั้นมาปรุงอาหาร ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าจะได้รับประทานเนื้อที่มีรสชาติและไขมันแทรกที่ดีที่สุด พร้อมกับการบริการแบบ Full-Service Premium โดยจะมีพนักงานผู้เชี่ยวชาญมาคอยย่างเนื้อบนเตาให้ ทำให้มั่นใจได้ว่าเนื้อวากิวดำญี่ปุ่นเกรด A5 ที่คัดสรรมาอย่างดีที่สุดนั้นจะถูกปรุงให้สุกด้วยวิธีที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดอย่างสมบูรณ์แบบตามลักษณะของเนื้อแต่ละส่วน
เมนูแนะนำของร้าน Ushigoro Ginza Namiki St.
1. Seasonal TAKUMI Course
2. Beef Tenderloin Cutlet Sandwich
3. Shredded Tripe
4. Beef Tartar with Salmon Roe
5. Matsutake and Mushroom Beef Rice in Roasted Stone
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – ศุกร์ 17:00 น. ถึง 23:30 น.
วันเสาร์ – อาทิตย์ 11:30 น. ถึง 23:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000 เยน (430 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/UrKWc22fAjsCVKZ67
40. Ginza Kagari | ย่าน Ginza

ร้าน Ginza Kagari เป็นร้านราเมง ที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ตั้งอยู่ในย่านกินซ่า (Ginza) กรุงโตเกียว ร้านนี้จะเน้นเสิร์ฟราเมงซุปข้นสไตล์โชยุ (Shoyu) ที่มีรสชาติกลมกล่อม โดยเฉพาะ “Tori Paitan Ramen” ซึ่งเป็นราเมงซุปไก่ที่ข้นและเนียน มีรสชาติที่อุดมไปด้วยรสชาติของน้ำซุปจากไก่ที่ต้มจนเข้าเนื้อ 
จุดเด่นของร้าน Ginza Kagari คือ ราเมงซุปไก่ข้น Tori Paitan ที่เป็นเอกลักษณ์ ซุปมีความเข้มข้นและอุดมไปด้วยรสชาติของเนื้อไก่ นอกจากนี้ยังมีเมนู Tori Paitan Tsukemen ราเมงจุ่มซุปไก่ข้นๆ ที่อร่อยไม่แพ้กัน การตกแต่งร้านที่เรียบง่ายแต่ทันสมัย พร้อมบริการที่รวดเร็วและเป็นกันเอง ทำให้ลูกค้ารู้สึกสะดวกสบายทั้งการทานที่ร้านหรือซื้อกลับ จุดเด่นอีกอย่างคือ การเข้าถึงที่สะดวก เนื่องจากร้านตั้งอยู่ใกล้สถานี Ginza Station จึงสามารถเดินทางไปได้ง่ายและสะดวก
เมนูแนะนำของร้าน Ginza Kagari
1. Tori Paitan Ramen = ราเมงซุปไก่ข้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในร้าน
2. Tori Paitan Tsukemen = ราเมงจุ่มที่เสิร์ฟกับน้ำซุปไก่ข้นๆ (แบบจุ่ม)
3. Limited Special Ramen
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – ศุกร์ 11:00 น. ถึง 22:00 น.
วันเสาร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 21:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000 เยน (430 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/RqYVW4jNEmnPtyEUA
41. Godaime Wagyu Tokyo | ย่าน Ginza

ร้าน Godaime Wagyu Tokyo เป็นร้านสเต็ก ที่เชี่ยวชาญด้านเนื้อวากิวฮาลาล 100% ตั้งอยู่ในย่านกินซ่า (Ginza) กรุงโตเกียว ร้านนี้ก่อตั้งโดยครอบครัวพ่อค้าขายเนื้อรุ่นที่ 5 ซึ่งเริ่มต้นธุรกิจเนื้อวากิวในปี 1962 ร้านมีความโดดเด่นในเรื่องการคัดสรรเนื้อวากิวคุณภาพสูงและการปรุงอาหารที่พิถีพิถัน ซึ่งเป็นเนื้อระดับพรีเมียม ร้านนี้มีคอนเซ็ปต์การเสิร์ฟเนื้อวากิวที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของเนื้อ และประสบการณ์การทานที่หรูหรา โดยเฉพาะเนื้อวากิวที่คัดสรรจากแหล่งผลิตที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งมีความนุ่มละมุนและรสชาติที่ยอดเยี่ยม ร้านยังมีเมนูที่หลากหลาย เช่น Wagyu Steak, Wagyu Sukiyaki, และ Wagyu Shabu-Shabu ซึ่งสามารถเลือกได้ตามความชอบ พร้อมกับน้ำซุปและซอสที่ปรุงขึ้นเองเพื่อเพิ่มรสชาติของเนื้อให้ยิ่งอร่อย
จุดเด่นของร้าน Godaime Wagyu Tokyo คือ การคัดสรรเนื้อวากิว คุณภาพสูงจากแหล่งที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น โดยให้ลูกค้าได้สัมผัสกับรสชาติเนื้อที่มีความนุ่มและหอมหวานเป็นเอกลักษณ์ ไฮไลต์ของร้านคือเมนู Wagyu Steak ที่เสิร์ฟเนื้อวากิวที่ย่างจนได้ความกรอบนอกและนุ่มใน พร้อมซอสที่เพิ่มรสชาติให้เนื้อได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมีเมนูสุกียากี้ ชาบูชาบูวากิว และ สเต็กเบอร์เกอร์วากิว เบอร์เกอร์ชีสวากิว และราเมงเนื้อวากิวฮาลาล ที่ให้ประสบการณ์การทานเนื้อวากิวในรูปแบบที่แตกต่าง ทำให้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่น
เมนูแนะนำของร้าน Godaime Wagyu Tokyo
1. 100% Japanese Wagyu Steak Rice Bowl
2. 100% Japanese Wagyu Steak Burger Platinum
3. 100% Japanese Wagyu Sukiyaki Platinum
4. 100% Japanese Wagyu Sushi
5. 100% Japanese Wagyu Ramen Platinum
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 22:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 เยน (215 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/8M3oDG4Ke8DvcGVbA
42. Shabusen Ginza Ten | ย่าน Ginza

ร้าน Shabusen Ginza Ten เป็นร้านชาบูชาบู ตั้งอยู่ในย่านกินซ่า (Ginza) ของเมืองโตเกียว เป็นร้านที่เชี่ยวชาญในเมนู Shabu-Shabu (ชาบูชาบู) ซึ่งเป็นการทานเนื้อหรือผักในน้ำซุปที่กำลังเดือด โดยมีเนื้อวัวคุณภาพสูงและผักสดใหม่เป็นส่วนประกอบหลัก ร้านนี้มีความโดดเด่นในการเสิร์ฟเนื้อวากิว เกรดพรีเมียมที่มีรสชาติอร่อยและเนื้อนุ่มละมุน พร้อมกับน้ำซุปที่ปรุงรสอย่างพิถีพิถัน ลูกค้าสามารถเลือกทานเนื้อวากิว เนื้อหมู หรือผักสดในน้ำซุปที่มีรสชาติกลมกล่อม และยังสามารถปรุงรสตามความชอบได้จากน้ำจิ้มที่ทางร้านเตรียมไว้
จุดเด่นของร้าน Shabusen Ginza Ten คือ การใช้เนื้อวากิวคุณภาพสูง ที่คัดสรรมาอย่างดีในการทำชาบู ทำให้ได้เนื้อที่นุ่มละมุนและมีรสชาติที่เต็มไปด้วยความหวานของมันจากเนื้อวัว นอกจากนี้ น้ำซุปของร้านก็ได้รับการปรุงรสอย่างพิถีพิถันเพื่อเสริมรสชาติให้กับเนื้อและผักที่ใช้ในการทำชาบู ไฮไลต์ของร้านคือ Wagyu Shabu-Shabu ซึ่งเสิร์ฟเนื้อวากิวที่มีความนุ่มมากที่สุดเมื่อจุ่มลงในน้ำซุปเดือดและทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรพิเศษของร้าน นอกจากชาบูชาบูที่ร้านยังมีสุกี้ยากี้ให้บริการอีกด้วย
เมนูแนะนำของร้าน Shabusen Ginza Ten
1. Beef Platter Set
2. Shabu-Shabu Set Course
3. Sukiyaki Set Course
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – ศุกร์ 11:00 น. ถึง 15:30 น. และ 17:00 น. ถึง 21:00 น. 
วันเสาร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 21:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000 เยน (430 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/ZVebdovSX4ukoSbv6
43. Godaime Hanayama Udon | ย่าน Ginza

ร้าน Godaime Hanayama Udon เป็นร้านอุด้ง ตั้งอยู่ในย่านกินซ่า (Ginza) เมืองโตเกียว เป็นร้านที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอุด้ง (Udon) ซึ่งเป็นเส้นบะหมี่ญี่ปุ่นที่มีขนาดใหญ่และเหนียวนุ่ม ร้านนี้เน้นเสิร์ฟอุด้งที่ทำจากแป้งคุณภาพสูง ซึ่งเส้นอุด้งจะมีความเหนียวและนุ่มกำลังดี ผสมผสานกับน้ำซุปที่หอมและรสชาติกลมกล่อมจากการเคี่ยววัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน เมนูที่ได้รับความนิยมของร้านคือ Kake Udon (อุด้งน้ำซุปร้อน) และ Zaru Udon (อุด้งเย็น) ที่เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มซอสถั่วเหลืองสูตรพิเศษ
จุดเด่นของร้าน Godaime Hanayama Udon คือ การคัดสรรแป้งและวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงในการทำเส้นอุด้ง เพื่อให้ได้เส้นที่เหนียวนุ่มและมีรสสัมผัสที่ดี ไฮไลต์ของร้านคือ Kake Udon ที่เสิร์ฟในน้ำซุปที่ปรุงขึ้นจากการเคี่ยวกระดูกและสาหร่ายคอมบุจนได้รสชาติกลมกล่อมและหอมหวาน ส่วน Zaru Udon ก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน โดยเสิร์ฟเส้นอุด้งเย็นพร้อมกับซอสที่มีรสชาติเค็มหวานพอดี การใช้วัตถุดิบสดใหม่และบริการที่อบอุ่นทำให้ Godaime Hanayama Udon เป็นจุดหมายสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอุด้งในแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมและรสชาติที่หอมอร่อยในย่านโตเกียว
เมนูแนะนำของร้าน Godaime Hanayama Udon
1. Hanayama Set (Oni-Himokawa / Udon)
2. Oni-Set
3. Ginza Set
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – ศุกร์ 11:00 น. ถึง 15:30 น. และ 17:30 น. ถึง 21:30 น. 
วันเสาร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 16:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,200 เยน (250 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/GpAvAz8aTnfb1K2e6
44. Chukasoba Ginza Hachigou | ย่าน Ginza

ร้าน Chukasoba Ginza Hachigou เป็นร้านราเมง ตั้งอยู่ในย่านกินซ่า (Ginza) ของเมืองโตเกียว ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของ Chukasoba (ชูกะโซบะ) ซึ่งเป็นราเมงสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมที่มีรสชาติกลมกล่อมและน้ำซุปที่เข้มข้น ร้านนี้ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงในการทำซุป ซึ่งมักจะใช้กระดูกหมูและไก่ในการเคี่ยว เพื่อให้ได้น้ำซุปที่มีรสชาติหวานลึกและกลมกล่อม โดยเฉพาะซุปที่มีรสชาติเข้มข้นแต่ไม่มันเยิ้มจนเกินไป เนื้อเส้นราเมงของร้านจะมีความเหนียวนุ่มเหมาะสมกับน้ำซุป ทำให้รสชาติของทุกคำที่ทานนั้นอร่อยลงตัว
จุดเด่นของร้าน Chukasoba Ginza Hachigou คือ การเสิร์ฟราเมงที่มีน้ำซุปเข้มข้นและเส้นราเมงที่เหนียวนุ่ม รสชาติของซุปมีความลึกซึ้งและไม่เลี่ยน โดยร้านยังมีเมนู Shoyu Chukasoba (ราเมงโชยุ) ที่เป็นซุปโชยุ (ซอสถั่วเหลือง) ที่หอมและเค็มพอดี อีกทั้งยังมีเมนู Shio Chukasoba (ราเมงเกลือ) ที่มีรสชาติสดชื่นและไม่หนักเกินไป การบริการที่รวดเร็วและบรรยากาศที่เรียบง่ายทำให้ Chukasoba Ginza Hachigou เป็นที่นิยมในหมู่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่ต้องการลิ้มลองราเมงแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมในย่านกินซ่า
เมนูแนะนำของร้าน Chukasoba Ginza Hachigou
1. Ravioli Gourmadise Chuka Soba 
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันอังคาร – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 16:00 น.
วันหยุด: วันจันทร์
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,200 เยน (470 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/YuiLdvicLjFLv9tZ6
45. Tonkatsu Marushichi Ginza | ย่าน Ginza

ร้าน Tonkatsu Marushichi Ginza เป็นร้านทงคัตสึ หรือ หมูชุบแป้งทอด ตั้งอยู่ในย่านกินซ่า (Ginza) ของโตเกียว ร้านนี้เน้นการเสิร์ฟทงคัตสึที่ทำจากเนื้อหมูคุณภาพสูง โดยเฉพาะ Kurobuta Pork (หมูดำ) ซึ่งมีความนุ่มและมีมันแทรกทำให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น หมูจะถูกชุบแป้งและเกล็ดขนมปังสูตรพิเศษก่อนนำไปทอดในน้ำมันที่อุณหภูมิพอเหมาะจนได้ความกรอบที่สมบูรณ์แบบ การทานกับซอสทงคัตสึที่รสชาติหวาน-เค็ม ทำให้จานนี้เป็นที่นิยมในหมู่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว
จุดเด่นของร้าน Tonkatsu Marushichi Ginza คือ การใช้เนื้อหมู Kurobuta (หมูดำ) คุณภาพสูงที่มีความนุ่มและรสชาติกลมกล่อม พร้อมการทอดที่กรอบนอกนุ่มใน ทำให้ได้ทงคัตสึที่มีรสชาติยอดเยี่ยม ไฮไลต์ของร้านคือเมนู Kurobuta Tonkatsu ที่เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และกะหล่ำปลีหั่นฝอยที่สดใหม่ นอกจากนี้ยังมีซอสทงคัตสึสูตรพิเศษที่เพิ่มรสชาติให้กับเมนูที่เสิร์ฟ บรรยากาศร้านมีความหรูหราและการบริการที่เป็นมิตร ทำให้ Tonkatsu Marushichi Ginza เป็นหนึ่งในร้านทงคัตสึที่น่าลองในย่านกินซ่า สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทานทงคัตสึคุณภาพสูงในบรรยากาศพิเศษ
เมนูแนะนำของร้าน Tonkatsu Marushichi Ginza
1. Yaki-Katsudon (Pork Cutlet Bowl) – Regular Loin 150g
2. Yaki-Katsudon (Pork Cutlet Bowl) – Deluxe Loin 300g
3. Yaki-Katsudon (Pork Cutlet Bowl) – Premium Rib eye 300g
4. Yaki-Katsudon (Pork Cutlet Bowl) – Extra Rib eye 600g
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 15:00 น. และ 17:00 น. ถึง 20:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,500 เยน (325 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/dVLhthGxn7v9YtfH8
— ย่านอุเอโนะ Ueno —
46. Bou-ya Uenorokuchometen | ย่าน Ueno

ร้าน Bou-ya Uenorokuchometen เป็นร้านยากินิคุ เนื้อย่างชื่อดังที่ตั้งอยู่ในย่านอุเอโนะ (Ueno) ของเมืองโตเกียว ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบการทานเนื้อ ร้านนี้ขึ้นชื่อในเรื่องการเสิร์ฟเนื้อวัวญี่ปุ่นคุณภาพดี โดยเฉพาะเนื้อวากิวระดับ A5 ที่เป็นไฮไลต์เด่นที่สุดของร้าน ด้วยลายหินอ่อนที่สวยงามและไขมันที่แทรกซึมทั่วชิ้นเนื้อ ทำให้เนื้อมีความนุ่มมาก ละลายในปาก แทบจะไม่ต้องเคี้ยว ย่างด้วยไฟเบา ๆ บนเตาถ่านก็ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนชวนรับประทาน
จุดเด่นของร้าน Bou-ya Uenorokuchometen คือ เนื้อย่างคุณภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย เมื่อเทียบกับร้านเนื้อย่างระดับเดียวกันในโตเกียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชุดอาหารกลางวัน (Lunch Set) ที่มีราคาสบายกระเป๋าเป็นพิเศษ นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูที่น่าสนใจอื่นๆ อย่างเช่น ลิ้นวัว ที่หลายคนแนะนำว่าอร่อยมาก และเมนูชุดรวม (Assortment) เป็นเซ็ตที่จะลองเนื้อหลายๆ ส่วนในราคาสุดคุ้ม ร้านตั้งอยู่ใกล้กับสถานี Ueno หรือ Naka-Okachimachi ทำให้เดินทางสะดวก แต่เนื่องจากเป็นร้านที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากแนะนำให้ทำการ จองคิวล่วงหน้า ก่อนการเดินทางไปใช้บริการ พนักงานที่ร้านส่วนใหญ่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ทำให้การสั่งอาหารสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นไปอย่างราบรื่น สามารถสั่งอาหารผ่าน QR Code ได้เลย
เมนูแนะนำของร้าน Bou-ya Uenorokuchometen
1. Bouya Basic Wagyu Beef Assort = ชุดเนื้อวากิวรวมมิตร (Recommended)
2. Bouya Zettai Beef Assort = ชุดเนื้อวากิว 4 ชนิด (Recommended)
3. Seared Lean Wagyu Beef Sashimi = ซาชิมิเนื้อวากิว
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – ศุกร์ 12:00 น. ถึง 14:30 น. และ 17:00 น. ถึง 23:15 น. 
วันเสาร์ – อาทิตย์ 12:00 น. ถึง 23:15 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 500 เยน (110 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/DzCpdN6cnNvB8tSLA
47. Ramen Kamo to Negi Ueno Okachimachi Main Store | ย่าน Ueno

ร้าน Ramen Kamo to Negi Ueno Okachimachi Main Store เป็นร้านราเมง เป็ด ชื่อดังที่ตั้งอยู่ในย่านอุเอโนะ และโอคาจิมาจิ (Ueno/Okachimachi) ในกรุงโตเกียว และเป็นที่รู้จักในฐานะร้านที่เสิร์ฟเมนูราเมงที่ใช้วัตถุดิบหลักคือ “เป็ด” (Kamo) และ “ต้นหอมญี่ปุ่น” (Negi) ถือเป็นราเมงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างจากราเมงแบบดั้งเดิมที่มักใช้ซุปกระดูกหมู หรือซุปไก่ โดยร้านนี้จะเสิร์ฟพร้อมกับเส้นราเมงที่เหนียวนุ่ม กับต้นหอมสดๆ และชิ้นเนื้อเป็ดย่างอย่างพิถีพิถัน
จุดเด่นของร้าน Ramen Kamo to Negi Ueno Okachimachi Main Store คือ น้ำซุปเป็ด ที่ผ่านการเคี่ยวอย่างพิถีพิถันจากเพียงแค่ เนื้อเป็ด ต้นหอม และน้ำ เท่านั้น ทำให้ได้น้ำซุปใสที่มีรสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นเป็ด และมีรสอูมามิที่ลึกซึ้งโดยไม่ต้องพึ่งส่วนผสมปรุงแต่งอื่นๆ นอกจากนี้ พระเอกอีกอย่างคือ เนื้อเป็ด ที่นำมาทำเป็น เป็ดกงฟีต์ (Duck Confit) ซึ่งมีความนุ่มละมุนลิ้น และมีมันแทรกกำลังดี และอีกทีเด็ดสำคัญมีต้นหอมให้เลือก 2 ชนิด จากตัวเลือกที่มีตามฤดูกาล เพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาติที่หลากหลายให้กับชามราเมงของตัวเอง ซึ่งต้นหอมก็เป็นส่วนประกอบที่สำคัญไม่แพ้เนื้อเป็ดเลย การสั่งอาหารจะทำผ่านตู้กดอัตโนมัติมีเมนูภาษาอังกฤษสำหรับชาวต่างชาติ
เมนูแนะนำของร้าน Ramen Kamo to Negi Ueno Okachimachi Main Store
1. Special Duck Ramen = ราเมงเป็ดพิเศษ
2. Special Dick Sauce Tsukesoba = โซบะกับซุปเป็ด
3. Oyakodon = ข้าวหน้าเป็ด
ตัวอย่าง ต้นหอมที่มีให้เลือก
1. Japanese Grilled Green Onion = ต้นหอมย่างญี่ปุ่น
2. Japanese Leek with Sesame Paste = ต้นกระเทียมญี่ปุ่นกับซอสงา
3. Japanese Kujo Green Onion = ต้นหอมคุโจ
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,080 เยน (230 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/gNeviEvFWiqjq8MT8
48. Hakata Furyu Ueno | ย่าน Ueno

ร้าน Hakata Furyu Ueno เป็นร้านราเมง ชื่อดังในย่านอุเอโนะ (Ueno) เมืองโตเกียว เป็นร้านที่เชี่ยวชาญด้าน ราเมงทงคตสึ (Tonkotsu Ramen) ในสไตล์ ฮากาตะ (Hakata) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีจากน้ำซุปกระดูกหมูที่เข้มข้น หอมมัน และเส้นราเมงแบบบางตรงที่เด้งและเหนียวนุ่ม ร้านนี้ดึงดูดลูกค้าจำนวนมากด้วยการนำเสนอราเมงคุณภาพในราคาประหยัด โดยเฉพาะเมนูราเมงทงคตสึแบบออริจินัลที่มีราคาเริ่มต้นไม่สูงนักเมื่อเทียบกับร้านราเมงอื่น ๆ ในโตเกียว นอกจากนี้ ทางร้านยังมีราเมงทงคตสึรสชาติอื่น ๆ ให้เลือก เช่น ราเมงทงคตสึน้ำมันกระเทียม (Garlic Oil Tonkotsu Ramen) และ ราเมงทงคตสึมิโซะรสเผ็ด (Spicy-miso Tonkotsu Ramen) ที่เพิ่มความจัดจ้านถูกปากสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติที่เข้มข้น
จุดเด่นของร้าน Hakata Furyu Ueno คือ สามารถเติมเส้นฟรีได้ถึง 2 ครั้ง เพียงแค่พูดกับพนักงานว่า KA-E-DA-MA (Noodle Refills) ซึ่งเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการความอิ่มคุ้มค่า และยังสามารถ เลือกระดับความแข็งของเส้น ได้ตามความชอบส่วนตัว เช่น แบบ Barikata ที่มีความแข็งเป็นพิเศษ ร้านนี้ยังถูกยกให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการอาหารมื้อดึกในย่านอุเอโนะ เนื่องจากมีเวลาทำการที่ยาวนาน (เปิดถึงดึกในช่วงวันธรรมดา) และตั้งอยู่ใกล้สถานี JR Ueno ทำให้เดินทางสะดวก แม้จะเป็นร้านที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่ก็มีการจัดการที่ดี และมีเครื่องปรุงรสหลากหลายวางอยู่บนเคาน์เตอร์ให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งรสชาติราเมงได้ตามต้องการ เช่น ขิงดอง ผักดอง และพริก
เมนูแนะนำของร้าน Hakata Furyu Ueno
1. Tonkotsu Ramen
2. Garlic oil Tonkotsu Ramen
3. Spicy-miso Tonkotsu Ramen
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – เสาร์ 11:00 น. ถึง 02:00 น.
วันอาทิตย์ 11:00 น. ถึง 20:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 750 เยน (160 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/VuSQKHoYXE2eVyAy6
49. Nadai Unatoto Ueno | ย่าน Ueno

ร้าน Nadai Unatoto Ueno เป็นร้านข้าวหน้าปลาไหลย่าง (Unadon/Unaju) ตั้งอยู่ในย่านอุเอโนะ (Ueno) กรุงโตเกียว ร้านนี้มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของการนำเสนอเมนูปลาไหลคุณภาพดีในราคาประหยัด ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากสำหรับอาหารปลาไหลในญี่ปุ่นเพราะโดยปกติแล้วมักจะมีราคาสูง ทางร้านใช้เทคนิคการ ย่างปลาไหลด้วยเตาถ่านคลือบด้วยซอส ทำให้ปลาไหลมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ เนื้อปลามีความนุ่มฟูและชุ่มฉ่ำไปด้วยซอสสูตรเฉพาะของร้านที่รสชาติกลมกล่อมไม่หวานโดดจนเกินไป เมนูที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือ Unadon ข้าวหน้าปลาไหลชิ้นเดียว
จุดเด่นของร้าน Nadai Unatoto Ueno คือ การใช้ปลาไหลสดใหม่จากแหล่งที่มีคุณภาพดี พร้อมทั้งเทคนิคการย่างปลาไหลด้วยไฟอ่อนๆ ให้ได้รสชาติที่นุ่มนวลและไม่มีกลิ่นคาว ทำให้ทุกคำที่ทานเข้าไปเต็มไปด้วยความอร่อยฟินจนหยุดไม่อยู่ และที่สำคัญคือ“ราคาที่เข้าถึงได้ง่าย” ทำให้ทุกคนสามารถทานปลาไหลคุณภาพดีในราคาที่ไม่แพงเกินไป โดยทางร้านมีเมนูให้เลือกหลากหลายขนาด ตั้งแต่ชามเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่พิเศษที่ได้ปลาไหลทั้งตัว นอกจากนี้ยังมีเมนูพิเศษ เช่น ข้าวหน้าปลาไหลกับไข่ออนเซ็น และเมนูเครื่องเคียงที่ทำจากปลาไหล เช่น ตับปลาไหลย่าง (Kimo Yaki) หากคุณต้องการลิ้มลองรสชาติปลาไหลย่างในราคาคุ้มค่า Nadai Unatoto Ueno เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด
เมนูแนะนำของร้าน Nadai Unatoto Ueno
1. Eel Bowl = ข้าวหน้าปลาไหลชิ้นเดียว
2. Double Eel Bowl = ข้าวหน้าปลาไหลสองชิ้น
3. Assortment of 5 Kinds of Rana Skewers = ชุดเสียบไม้ 5 ชนิด
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – อาทิตย์ 10:00 น. ถึง 23:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 670 เยน (140 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/1odVEt1cGDAseVgD7
50. ICHIRAN Ueno (Atre) | ย่าน Ueno

Ichiran Ueno (Atre) เป็นร้านราเมง ชื่อดังจากฟุกุโอกะที่ได้รับความนิยมในทั่วโลก โดยเฉพาะในโตเกียวที่มีหลายสาขา สาขานี้ตั้งอยู่ในย่านอุเอโนะ (Ueno) เป็นหนึ่งในสาขาที่ได้รับความนิยมมาก อยู่ในห้าง Atre Ueno ร้านนี้มีความโดดเด่นในการเสิร์ฟราเมงทงคตสึ (tonkotsu ramen) ที่มีรสชาติกลมกล่อมและเข้มข้น ซุปกระดูกหมูที่เคี่ยวจนได้รสชาติที่ลึกซึ้งและเต็มไปด้วยความหอมมัน เส้นราเมงที่นุ่มเหนียวถูกปรุงให้มีความเหมาะสมในการต้มจนได้รสชาติที่ดีที่สุด เมนูที่นิยมมากคือ Ichiran Ramen ที่ปรับความเผ็ดได้ตามต้องการ ซึ่งทุกคนสามารถเลือกความเผ็ดและเครื่องเคียงที่เหมาะสมกับตัวเอง
จุดเด่นของร้าน Ichiran Ueno (Atre) คือ “ความเป็นส่วนตัว” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ราเมงข้อสอบ” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้ โดยลูกค้าแต่ละคนจะได้นั่งในช่องที่แยกจากกันด้วยฉากกั้น เพื่อให้มีสมาธิกับการลิ้มรสราเมงอย่างเต็มที่โดยไม่มีสิ่งรบกวน และลูกค้าสามารถสั่งอาหารได้โดยไม่ต้องพูดคุยกับพนักงานผ่านระบบแท็บเล็ตหรือบัตรสั่งอาหาร นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถ ปรับแต่งรสชาติราเมง ของตัวเองได้อย่างละเอียดผ่าน “ใบสั่งราเมง” ที่สามารถเลือกความเข้มข้นของน้ำซุป ความนุ่มของเส้น ปริมาณกระเทียม ต้นหอม ไปจนถึงระดับความเผ็ดของ “ซอสแดงลับเฉพาะ” (秘伝のたれ) ที่ทำจากเครื่องเทศ 30 ชนิด ตามที่ลูกค้าต้องการ ทำให้มั่นใจได้ว่าราเมงนั้นจะถูกปรับให้เข้ากับความชอบส่วนตัวของแต่ละคนได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
เมนูแนะนำของร้าน ICHIRAN Ueno (Atre)
1. ICHIRAN 5 Selections
2. Classic Tonkotsu Ramen
3. Matcha Almond Pudding with Green Tea Sauce
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,080 เยน (230 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/Kc1fGqwdbxRY3mi7A
51. Nikuya no Daidokoro Ueno | ย่าน Ueno

Nikuya no Daidokoro Ueno (肉屋の台所 上野) เป็นร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่าง (Yakiniku All-You-Can-Eat) ที่มีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวและคนรักเนื้อในย่านอุเอโนะ (Ueno) ด้วยการนำเสนอเนื้อวากิวคุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า ร้านนี้มีจุดเด่นคือการคัดสรร เนื้อวากิวขนดำเกรด A4 และ A5 ซึ่งเป็นเกรดสูงสุดและรองสูงสุดของเนื้อวากิวญี่ปุ่น มาให้บริการแบบไม่อั้นในรูปแบบบุฟเฟต์ เป็นสิ่งที่หาได้ยากสำหรับบุฟเฟต์ปิ้งย่างทั่วไป การที่ร้านสามารถจำหน่ายในราคาย่อมเยาได้ เนื่องจากมีการซื้อเนื้อวากิวทั้งตัว โดยตรงจากฟาร์มที่ทำสัญญากันไว้ ทำให้ได้วัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมในราคาต้นต่ำ เมนูบุฟเฟต์มีให้เลือกหลายระดับราคา โดยคอร์สยอดนิยมจะรวมเนื้อวากิวระดับพรีเมียมส่วนต่างๆ ลิ้นวัว เครื่องใน อาหารทะเล รวมถึงเครื่องเคียงและของหวานที่สั่งได้ไม่จำกัด
จุดเด่นของร้าน Nikuya no Daidokoro Ueno คือ บุฟเฟต์เนื้อวากิวเกรดพรีเมียมที่คุ้มค่า การเลือกใช้เนื้อวัวและเนื้อหมูที่มีคุณภาพจากแหล่งผลิตที่มีชื่อเสียง มีเมนูให้เลือกมากกว่า 112 ชนิด ทานได้ 100 นาที นอกจากนี้ร้านยังมีบริการเสริมที่น่าสนใจ เช่น บุฟเฟต์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหมาะสำหรับโอกาสพิเศษและการเฉลิมฉลอง หรือคนที่ชอบทานเนื้อเป็นอย่างมาก ถือเป็นร้านที่ไม่ควรพลาด
เมนูแนะนำของร้าน Nikuya no Daidokoro Ueno
1. Assorted Wagyu Beef Platter
2. Nikuyano Daidokoro Specialty / Rib / Wild-Cut Skirt Streak / Wagyu Beef Rib
3. Beef Tongue
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – ศุกร์ 12:00 น. ถึง 15:00 น. และ 16:00 น. ถึง 23:00 น. 
วันเสาร์ – อาทิตย์ 12:00 น. ถึง 23:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 6,000 เยน (1,300 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/jcWveVwcCdACBZyF9
52. Miura Misaki Port Ueno | ย่าน Ueno

Miura Misaki Port Ueno (三崎港) เป็นร้านซูชิสายพาน (Kaiten Sushi) ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในย่านอุเอโนะ (Ueno) โตเกียว ร้านนี้มีจุดเด่นและเป็นที่รู้จักกันในเรื่องของ “ซูชิหน้าล้น” ที่มีปริมาณวัตถุดิบเยอะมากเมื่อเทียบกับราคาที่สมเหตุสมผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลา “มากุโระ” (ปลาทูน่า) ซึ่งเป็นไฮไลต์ของร้าน เนื่องจากร้านเป็นเครือเดียวกับบริษัทค้าส่งปลาทูน่าจากท่าเรือมิอุระ มิซากิ ทำให้สามารถคัดเลือกและนำเข้าปลาทูน่าคุณภาพสูงมาเสิร์ฟได้ในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าร้านอื่น ๆ เมนูเด่นที่หลายคนกล่าวถึงคือซูชิหน้าปลาทูน่าต่างๆ เช่น เนื้อส่วนท้องปลาทูน่า (ชูโทโระ/โอโทโระ) ที่โปะมาอย่างเต็มคำ รวมถึงเมนูเรือรบ (Gunkan) ที่มีไข่ปลาแซลมอนหรือไข่หอยเม่นที่ล้นทะลักออกมาอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
จุดเด่นของร้าน Miura Misaki Port Ueno คือ ซูชิสายพานในราคาสุดคุ้ม ทั้งด้านคุณภาพ และปริมาณที่ได้ แถมวัตถุดิบที่ใช้มีความสดใหม่ ทำให้ลูกค้าสามารถสัมผัสรสชาติของปลาที่เหมือนเพิ่งยกมาจากทะเล อีกหนึ่งจุดเด่นอีกอย่างคือ มีเมนูให้เลือกหลากหลายนอกเหนือจากปลาทูน่า เช่น ปลาแซลมอน กุ้งหวาน และเมนูอื่นๆ รวมถึงเมนูสำหรับเด็ก ที่นั่งในร้านจะเป็นแบบเคาน์เตอร์ติดสายพาน ซึ่งแม้จะมีจำนวนจำกัด แต่ก็ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นเชฟแล่และปรุงซูชิได้อย่างใกล้ชิด ลูกค้าสามารถเลือกหยิบซูชิจากสายพาน สั่งผ่านแท็บเล็ต (มีภาษาอังกฤษรองรับ) เพื่อให้เชฟทำจานใหม่ได้
เมนูแนะนำของร้าน Miura Misaki Port Ueno
1. Special Bigeye Tuna Assortment (3pcs) = เซ็ตปลาทูน่าพิเศษ จำนวน 3 ชิ้น
2. Raw Sea Urchin = ไข่เม่นทะเลสด
3. Salmon Roe = ไข่ปลาแซลมอน
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – อาทิตย์ 10:30 น. ถึง 21:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 360 เยน (80 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/bv28jz2NrLdFTrZy7
53. Izuei Honten Ueno | ย่าน Ueno

ร้าน Izuei Honten Ueno หรือ Izuei Main Branch เป็นร้านปลาไหลชื่อดังที่ตั้งอยู่ในย่าน Ueno กรุงโตเกียว โดยมีต้นกำเนิดจากเมืองโอซาก้า ร้านนี้มีประวัติยาวนานมากกว่า 100 ปี และขึ้นชื่อในเรื่องของ ปลาไหลย่าง (Unagi) ด้วยวิธีการย่างแบบดั้งเดิม ร้านใช้ปลาไหลจากทะเลสาบคาชิวะ ซึ่งเป็นปลาไหลที่มีเนื้อแน่นและหวานเป็นพิเศษ ผ่านการย่างปลาไหลอย่างพิถีพิถันในอุณหภูมิที่เหมาะสมจนได้รสชาติที่กลมกล่อมอย่างลงตัว เนื้อปลานุ่มไม่แห้งหรือแข็งเกินไป เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ร้านนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงจากทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว
จุดเด่นของร้าน Izuei Honten คือ เมนูข้าวหน้าปลาไหลย่าง (Unaju) ที่ปลาไหลชิ้นใหญ่จะถูกย่างจนกรอบนอกนุ่มในแล้วราดด้วยซอสสูตรพิเศษที่มีรสชาติหวานกลมกล่อม นอกจากนี้ยังมีเมนูปลาไหลย่างแบบไม่ราดซอส (Shirayaki) ที่ให้รสชาติของปลาไหลบริสุทธิ์โดยไม่ต้องใช้ซอส ซึ่งเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ชื่นชอบปลาไหลแท้ๆ
เมนูแนะนำของร้าน Izuei Honten Ueno
1. Unaju = ข้าวหน้าปลาไหลย่าง กล่องปิคนิค มีหลายระดับราคาให้เลือก (3,630 เยน / 4,730 เยน / 5,830 เยน)
2. Unadon = ข้าวหน้าปลาไหลย่าง ใส่ถ้วย มีหลายระดับราคาให้เลือก (3,630 เยน / 4,730 เยน / 5,830 เยน)
3. Shirayaki = ปลาไหลย่างแบบไม่ราดซอส มีหลายระดับราคาให้เลือก (3,630 เยน / 4,730 เยน / 5,830 เยน)
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 21:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 3,600 เยน (780 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/SkkDasbpHXTSES5cA
— ย่านนิฮงบาชิ Nihonbashi —
54. Nihonbashi Kaisen Donburi Tsujihan Nihonbashi | ย่าน Nihonbashi

ร้าน Nihonbashi Kaisen Donburi Tsujihan Nihonbashi เป็นร้านข้าวหน้าปลาดิบ หรือดงบุริอาหารทะเล (Kaisen Donburi) ตั้งอยู่ในย่านนิฮงบาชิ (Nihonbashi) ของโตเกียว เป็นร้านที่มีชื่อเสียงในการเสิร์ฟ Kaisen Donburi (ข้าวหน้าอาหารทะเล) ที่มีความสดใหม่และคุณภาพสูง เน้นการใช้วัตถุดิบสดจากทะเล ซึ่งรวมถึงปลาและอาหารทะเลสดที่ได้รับการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน เสิร์ฟพร้อมกับข้าวหอมมะลิร้อนๆ และท็อปปิ้งด้วยอาหารทะเลสดใหม่มากมาย เช่น ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า, หอย, กุ้ง และอื่นๆ ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ทานคู่กับซอสถั่วเหลืองหรือวาซาบิที่เสริมรสชาติได้เป็นอย่างดี
จุดเด่นของร้าน Nihonbashi Kaisen Donburi Tsujihan Nihonbashi คือ การเสิร์ฟเมนู Zeitaku-don (ข้าวหน้าปลาดิบสุดหรู) ที่โปะหน้าด้วยปลาดิบหั่นเต๋าผสมรวมกันหลากหลายชนิด เช่น ทูน่า ไข่ปลาแซลมอน และในคอร์สพรีเมียมจะมีเนื้อปูและไข่หอยเม่นจัดวางอย่างพูนเต็มชาม วิธีการทานมี 2 ขั้นตอน โดยเริ่มต้นจากการทานไคเซ็นด้งตามปกติ จากนั้นเมื่อเหลือข้าวในชาม ลูกค้าสามารถขอให้พนักงานเติม น้ำซุปปลาไท (Sea Bream Broth) ร้อนๆ ลงไปเพื่อเปลี่ยนเป็นเมนู โอชาซึเกะ (ข้าวต้มญี่ปุ่น) ที่มีรสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นยูซุ เป็นการปิดท้ายมื้ออาหารที่สมบูรณ์แบบ
เมนูแนะนำของร้าน Nihonbashi Kaisen Donburi Tsujihan Nihonbashi
1. Ume Course = Salmon Roe, Tuna, Nakaochi
2. Take Course = Ume course + Extra Crab + Extra Salmon Roe
3. Matsu Course = Ume course + Extra Crab + Extra Salmon Roe + Extra Sea Urchin
4. Tokujo (Supreme) Course = Ume course + Extra Crab + Double Salmon Roe + Double Sea Urchin
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – อาทิตย์ 10:00 น. ถึง 22:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,250 เยน (270 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/fNRR9vMCu8SXfhWf6
55. Pokemon Cafe Tokyo Nihonbashi | ย่าน Nihonbashi

ร้าน Pokemon Cafe Tokyo Nihombashi เป็นคาเฟ่ ธีมโปเกมอน ตั้งอยู่ในย่านนิฮงบาชิ (Nihombashi) ของโตเกียว เป็นร้านคาเฟ่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากแฟนๆ โปเกมอน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่หลงรักการ์ตูนโปเกมอน และผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การทานอาหารในธีมโปเกมอนอย่างแท้จริง ร้านนี้มีการตกแต่งที่สดใสและน่ารัก โดยใช้ตัวละครโปเกมอนเป็นแรงบันดาลใจในการตกแต่งทั้งในร้านและเมนูอาหารต่างๆ เมนูของร้านมีหลากหลายทั้งเครื่องดื่มและขนมหวานที่มีการออกแบบเป็นรูปโปเกมอน เช่น Pikachu Pancakes, Eevee Parfait และ Pokeball Burger ซึ่งเป็นเมนูที่จัดจานอย่างสวยงามและน่ารัก จนกลายเป็นที่นิยมในหมู่แฟนๆ โปเกมอน
จุดเด่นของร้าน Pokemon Cafe Tokyo Nihombashi คือ ประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่น รวมถึงเมนูอาหารตามฤดูกาลหรือเทศกาลที่เปลี่ยนไปอย่างสม่ำเสมอ ตามความนิยมของตัวละครในโปเกมอน และสินค้าที่ระลึกสุด Exclusive เฉพาะคาเฟ่เท่านั้น เช่น ตุ๊กตาเชฟพิคาชู หรือชุดจานชามที่มีลายโปเกมอน นอกจากนี้ ภายในร้านยังมีกิจกรรมสุดพิเศษที่เป็นไฮไลต์คือการปรากฏตัวของมาสคอตโปเกมอน ไม่ว่าจะเป็นเชฟพิคาชู หรืออีวุย ที่จะออกมาทักทายและเดินวนรอบ ๆ โต๊ะเพื่อสร้างความสุขและให้แขกได้ถ่ายรูปอย่างใกล้ชิด
เมนูแนะนำของร้าน Pokemon Cafe Tokyo Nihombashi
1. Pikachu and Bulbasaur’s Best Friends Forever Curry Plate
2. Pokemon Cafe’s Pikachu Soufflé Pancake
3. Pokemon Cafe’s Berry Chocolate Parfait
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – อาทิตย์ 10:30 น. ถึง 21:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,500 เยน (325 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/EHeXoJunxHcw8uzE7
56. Tonkatsu Hajime Nihonbashi | ย่าน Nihonbashi

ร้าน Tonkatsu Hajime Nihonbashi เป็นร้านทงคัตสึ และคัตสึด้ง ตั้งอยู่ในย่านนิฮงบาชิ (Nihonbashi) เป็นร้านชื่อดังในกรุงโตเกียว ที่ได้รับการกล่าวขานถึงคุณภาพและความประทับใจในรสชาติอย่างกว้างขวาง ร้านนี้โดดเด่นอย่างชัดเจนด้วยเมนู “ทงคัตสึ”และ”คัตสึด้ง” ที่ไม่เหมือนใครที่ใช้เนื้อหมูทอดชิ้นหนาใหญ่กว่าปกติเกือบสามเท่า ร้านนี้โดดเด่นด้วยการใช้เนื้อหมู Kurobuta (หมูดำ) ซึ่งมีความนุ่มและรสชาติอันยอดเยี่ยม พร้อมการทอดที่กรอบและเป็นสีน้ำตาลทองอย่างลงตัว การใช้เทคนิคการทอดที่พิถีพิถันและการคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี มีรสชาติที่ยอดเยี่ยมและเป็นที่นิยมในหมู่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว
จุดเด่นของร้าน Tonkatsu Hajime Nihonbashi คือการใช้เนื้อหมู Kurobuta คุณภาพสูงที่มีรสชาติอร่อยและเนื้อนุ่ม การทอดจนได้ความกรอบนอกและนุ่มใน ทำให้ได้รสชาติที่ลงตัวและน่าประทับใจ เมนูหลักของร้านคือ คัตสึด้งชิ้นหนา (Atsugiri Katsudon) ที่สามารถเลือกขนาดของเนื้อหมูได้ตามความต้องการ (เช่น 220 กรัม หรือ 350 กรัม) นอกจากคัตสึด้งแล้วยังมีเมนู Teishoku (ชุดอาหารเซ็ต) ที่เสิร์ฟทงคัตสึคู่กับข้าวสวย ซุปมิโซะ และกะหล่ำปลีฝอย (สามารถขอเติมข้าวและกะหล่ำปลีได้ฟรี) พร้อมเครื่องเคียงให้เลือกเพิ่ม อาทิ เมนู Super Large Ebi Katsu (กุ้งทอดชิ้นยักษ์) อีกด้วย
เมนูแนะนำของร้าน Tonkatsu Hajime Nihonbashi
1. Pork Loin Tonkatsu Set Meal
2. Rib eye Katsudon Set Meal
3. Chatuaubriand Katsudon Set Meal
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันอังคาร – ศุกร์ 11:00 น. ถึง 22:00 น.
วันเสาร์ – อาทิตย์ 10:00 ถึง 22:00 น.
วันหยุด: วันจันทร์
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,280 เยน (275 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/SLRpkNEYCjWQZV4E6
57. Hyoki Shabu-shabu Yaesu | ย่าน Nihonbashi

ร้าน Hyoki Shabu-shabu Yaesu เป็นร้านชาบูชาบู ตั้งอยู่ในย่านนิฮงบาชิ (Nihonbashi) ใกล้สถานีโตเกียว มีชื่อเสียงในการเสิร์ฟ Shabu-shabu (ชาบูชาบู) ที่มีคุณภาพสูง ร้านนี้เน้นการใช้เนื้อวากิวเกรดพรีเมียม และใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงโดยเฉพาะเนื้อหมูและเนื้อวัวที่มีความนุ่มและมีไขมันแทรก ทำให้รสชาติของชาบูที่เสิร์ฟมีความละมุนและอร่อยเป็นพิเศษ เมนูที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นที่กล่าวขานที่สุดของร้านคือ “Dashi Shabu” ซึ่งเป็นการนำเนื้อสัตว์และผักมาลวกในน้ำซุปดาชิ (Dashi) หรือน้ำสต็อกปลาแบบดั้งเดิมที่สืบทอดมาจากเกียวโต โดยความพิเศษคือการใช้ดาชิเป็นน้ำซุปสำหรับลวกโดยตรง แทนที่จะเป็นน้ำจิ้มแบบชาบูชาบูทั่วไป ทำให้เนื้อหมูคุณภาพสูง เนื้อวากิวญี่ปุ่น หรือแม้แต่ปูหิมะ (Snow Crab) ที่เสิร์ฟ มีรสชาติหวานนุ่มละมุนลิ้น และซึมซับความหอมของดาชิได้อย่างล้ำลึก
จุดเด่นของร้าน Hyoki Shabu-shabu Yaesu คือ การคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพ เช่น เนื้อวัว โกเบ (Kobe Beef) หรือเนื้อหมูที่มีความนุ่มและมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ น้ำซุปที่ใช้ในร้านนี้ก็มีความกลมกล่อมและทำจากวัตถุดิบสดใหม่ โดยเฉพาะซอส โชยุ และน้ำจิ้มที่ให้รสชาติเป็นเอกลักษณ์ การเสิร์ฟแบบ ชาบูชาบู ช่วยให้ลูกค้าได้สัมผัสรสชาติของเนื้อและผักสดที่ต้มในน้ำซุปอย่างละมุน
เมนูแนะนำของร้าน Hyoki Shabu-shabu Yaesu
1. Dashi Shabu-shabu Kaiseki Course “Miyama Sakura”
2. Dashi Shabu-shabu Kaiseki Course “Suimei” 
3. Dashi Shabu-shabu Kaiseki Course “Miyamazakura”
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – เสาร์ 11:30 น. ถึง 15:00 น. และ 17:00 น. ถึง 22:00 น.
วันอาทิตย์ 11:30 น. ถึง 15:00 น. และ 17:00 น. ถึง 21:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 6,000 เยน (1,300 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/sXBBPszjxZtW8BRt6
58. Tamai Nihonbashi Main Branch | ย่าน Nihonbashi

ร้าน Tamai Nihonbashi Main Branch (玉ゐ 日本橋本店) เป็นร้านปลาไหลทะเล อานาโกะ (Anago) ตั้งอยู่ในย่านนิฮงบาชิ (Nihonbashi) ของโตเกียว เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นเก่าแก่ และมีชื่อเสียงเกี่ยวกับด้านปลาไหลทะเลหรือ “อานาโกะ” (Anago) ซึ่งเป็นปลาไหลน้ำเค็มที่มีรสชาติละเอียดอ่อนและไขมันน้อยกว่าปลาไหลน้ำจืด (Unagi) ร้านนี้ตั้งอยู่ในอาคารไม้แบบดั้งเดิมที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1953 ซึ่งมอบบรรยากาศแบบบ้านญี่ปุ่นโบราณ เมนูอาหารของที่นี่สะท้อนถึงอาหารสไตล์เอโดะ (Edo-style cuisine) ที่เน้นความปราณีตและรสชาติอุมามิของปลาไหลทะเลโดยเฉพาะ
จุดเด่นของร้าน Tamai Nihonbashi Main Branch คือ เมนูซิกเนเจอร์ที่เรียกว่า “Hako-meshi” (ข้าวกล่อง) ซึ่งเป็นการนำปลาไหลทะเลธรรมชาติที่ปรุงสุกอย่างประณีตมาวางบนข้าวที่ปรุงรสเป็นอย่างดี และลูกค้าสามารถเลือกวิธีการปรุงปลาไหลได้ 2 แบบ คือ ปลาไหลตุ๋น กับต้ม ที่ให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มฟูละมุนลิ้น หรือจะเลือกเป็นแบบย่างก็ได้ ที่มีกลิ่นหอมรมควันและเคลือบซอส หรือจะเลือกแบบผสมเพื่อลิ้มรสทั้งสองแบบก็ได้ นอกจากนี้ Hako-meshi ยังมาพร้อมเครื่องเคียงและเครื่องปรุงรสต่างๆ เช่น วาซาบิ ขิง ยูซุ และน้ำซุปดาชิที่ทำจากกระดูกปลาไหล (แนะนำให้ลอง) ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับวิธีการรับประทานปลาไหลทะเลได้ถึงสามวิธีในหนึ่งมื้อ 1.ทานแบบปกติ 2.ทานแบบใส่เครื่องปรุง 3.ทานแบบ Ochazuke คือใส่น้ำซุปดาชิ เป็นข้าวต้มสไตล์ญี่ปุ่น
เมนูแนะนำของร้าน Tamai Nihonbashi Main Branch
1. Anago HAKOMESHI = ข้าวหน้าปลาไหลทะเล
2. Anago Chirashi = ข้าวหน้าอาหารทะเล และอื่นๆ แต่เน้นปลาไหลทะเล (Anago) เป็นหลัก
3. Anago Sushi = ซูชิปลาไหลทะเล
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 14:30 น. และ 17:00 น. ถึง 21:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,200 เยน (470 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/yFsqQSDyjGfa5hcW7
59. Tendon Kanekohannosuke Nihonbashi | ย่าน Nihonbashi

ร้าน Tendon Kanekohannosuke Nihonbashi เป็นร้านเทมปุระ ตั้งอยู่ในย่านนิฮงบาชิ (Nihonbashi) เมืองโตเกียว ร้านนี้เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของ Tendon (เทนด้ง) หรือ ข้าวหน้ากุ้งเทมปุระ ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ ร้านนี้เน้นการเสิร์ฟข้าวหน้ากุ้งเทมปุระที่มีรสชาติยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการใช้กุ้งตัวใหญ่สดใหม่ที่นำไปชุบแป้งและทอดจนกรอบนอกนุ่มใน ซึ่งมีความแตกต่างจากเทมปุระร้านอื่นๆ โดยเทมปุระของร้านนี้มีรสชาติที่กรอบพอดีและไม่มัน ทำให้เข้ากันได้ดีกับข้าวสวยร้อนๆ
จุดเด่นของร้าน Tendon Kanekohannosuke Nihonbashi คือ ซอสสูตรลับ (Hannosuke sauce) ที่สืบทอดมาจากคุณ Kaneko Hannosuke ผู้เป็นปรมาจารย์ด้านเทมปุระและเป็นปู่ของเชฟใหญ่ในปัจจุบัน ซอสนี้มีรสชาติหวานเค็มกลมกล่อมและถูกราดอย่างชุ่มฉ่ำบนเทมปุระที่ทอดด้วยน้ำมันงาคุณภาพสูงจนได้สีทองและกรอบกำลังดี และกุ้งที่ใช้เป็นกุ้งสดขนาดใหญ่ที่มีรสชาติหวานและเนื้อแน่น ซึ่งหลังจากที่ชุบแป้งและทอดจนกรอบแล้วจะให้รสชาติที่ละมุนและไม่มันเกินไป น้ำซอสที่ราดบนข้าวก็ดูแลรักษาความสมดุลระหว่างรสชาติหวานและเค็มได้อย่างลงตัว ไฮไลต์ของร้านคือ Edomae Tendon Premium ที่เสิร์ฟพร้อมกับกุ้งลายเสือ 2 ตัว ปลาไหลทะเล ก้ามปู หอยเชลล์ฮอกไกโด เป็นอีกร้านที่ไม่ควรพลาด
เมนูแนะนำของร้าน Tendon Kanekohannosuke Nihonbashi
1. Edomae Tendon = ปลาไหลทะเล กุ้ง ไข่ลวก ปลาหมึก พริกชิชิโตะ สาหร่าย และข้าว
2. Edomae Tendon Premium = ปลาไหลทะเล กุ้งลายเสือ ก้ามปู ไข่ลวก หอยเชลล์ห่อใบชิโซะ พริกชิชิโตะ สาหร่าย ข้าว ซุปมิโซะ และของหวาน
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 15:00 น. และ 17:00 น. ถึง 20:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,600 เยน (340 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/TRa16tgk2hYPHLZdA
— ตลาดปลา Tsukiji Fish Market —
60. TSUKIJI USHITAKE 築地牛武 | ย่าน Tsukiji Outer Market

ร้าน TSUKIJI USHITAKE 築地牛武 เป็นร้านเนื้อย่างสไตล์เสียบไม้ ชื่อดังตั้งอยู่ในย่านซึกิจิ (Tsukiji Outer Market) กรุงโตเกียว หรือที่เรียกว่าย่านตลาดปลาซึกิจิ ซึ่งเป็นแหล่งรวมอาหารทะเลและวัตถุดิบสดใหม่จากทั่วญี่ปุ่น ร้านนี้มีชื่อเสียงจากการใช้เนื้อวากิวเกรดพรีเมียม โดยเฉพาะเนื้อ A5 ที่มีลายไขมันสวยงาม ให้รสสัมผัสที่นุ่มละลายในปาก เมนูหลักของร้านคือ “เนื้อวากิวเสียบไม้ย่าง” ที่ย่างสดใหม่ต่อไม้แบบชิ้นต่อชิ้น ให้กลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้น ตัวร้านมีลักษณะเป็นซุ้มเล็กๆ เน้นบริการแบบซื้อกลับหรือยืนทาน ทำให้สะดวกต่อผู้ที่มาเดินเที่ยวตลาดและต้องการลองชิมอะไรอร่อยๆ ระหว่างทาง
จุดเด่นของร้าน TSUKIJI USHITAKE 築地牛武 คือ การคัดสรรเนื้อวัวชั้นยอดที่ผ่านการเลือกอย่างพิถีพิถัน โดยลูกค้าจะได้ลิ้มลองเนื้อวากิวแท้ในราคาที่จับต้องได้ และในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการลองหลายเมนูแบบสตรีทฟู้ด อีกทั้งการย่างด้วยเตาถ่านทำให้ได้รสชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่เพิ่มมิติให้กับเนื้อย่าง ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือแม้แต่คนญี่ปุ่น ต่างยกให้ร้านนี้เป็นหนึ่งในร้านที่ “ต้องแวะ” เมื่อมาเดินตลาด Tsukiji โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบเนื้อวัวคุณภาพสูงแต่ไม่อยากนั่งทานในร้านใหญ่หรือจ่ายแพงเกินจำเป็น
เมนูแนะนำของร้าน TSUKIJI USHITAKE 築地牛武
1. Wagyu Beef Skewer = เนื้อวากิวเสียบไม้ย่าง
2. Wagyu Beef Steak =  เนื้อวากิวสเต็ก
3. Wagyu Beef Sushi = ซูชิเนื้อวากิว
4. Wagyu Beef Burger = เบอร์เกอร์เนื้อวากิว
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์  6:30 น. ถึง 15:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 เยน (220 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/Es1HntmSXGijW8Em8
61. Tsukiji Unitora Nakadori | ย่าน Tsukiji Outer Market

ร้าน Tsukiji Unitora Nakadori เป็นร้านซูชิ ชื่อดังตั้งอยู่ในย่านซึกิจิ (Tsukiji Outer Market) กรุงโตเกียว ร้านนี้เชี่ยวชาญเป็นพิเศษในเมนูที่ทำจาก “อูนิ” หรือหอยเม่นทะเล ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสดใหม่ รสชาติเข้มข้น หวานมัน และเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มเหมือนครีม ทางร้านให้ความสำคัญกับการคัดสรรอูนิคุณภาพเยี่ยมจากแหล่งต่างๆ ทั่วญี่ปุ่น โดยบางช่วงเวลาสามารถจัดหาอูนิมาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองมากถึง 15 สายพันธุ์เลยทีเดียว ทำให้ที่นี่เป็นเสมือน “แหล่งศึกษาข้อมูลอูนิ” สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้และเปรียบเทียบความแตกต่างของรสชาติอูนิแต่ละชนิดอย่างแท้จริง
จุดเด่นของร้าน Unitora Nakadori คือ เมนูข้าวหน้าอูนิ (Uni Donburi) ต่างๆ ที่เสิร์ฟมาอย่างพูนชามเต็มๆ และเมนู “Selected Sea Urchin Taste of 5 Varieties” ซึ่งเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ชิมอูนิ 5 ชนิดที่คัดเลือกมาอย่างดีจากตลาดปลาโทโยสุ โดยแต่ละชนิดจะมีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีเมนูที่ผสมผสานอูนิเข้ากับวัตถุดิบพรีเมียมอื่น ๆ เช่น ข้าวหน้าปลาดิบรวมชุดพิเศษที่มีอูนิ (Kaisen Hitsumabushi) ชุดซูชิที่รวมอูนิหายาก (Top – Ultimate Sushi Set) หรือจะเป็นข้าวหน้าปลาทูน่าครีบน้ำเงิน (Bluefin Tuna) คู่กับอูนิก็มีให้ทาน
เมนูแนะนำของร้าน Tsukiji Unitora Nakadori
1. Specialty 5 Varieties Sea Urchin Taste Comparison Don = ข้าวหน้าอูนิ 5 สายพันธุ์
2. Specialty 5 Varieties Sea Urchin (130g) Bluefin Tuna, Salmon Roe = ข้าวหน้าอูนิ 5 สายพันธุ์ พร้อมทูน่าและไข่ปลาแซลมอน
3. Specialty 3 Varieties Sea Urchin, Salmon Roe & Chopped Tuna taste Comparison don (Kanade)
4. Specialty Sea Uchin, Fatty Tuna, Medium Tuna, Scallop, Salmon, Botan Shrimp, Conger Eel, Crab, Salmon Roe = ข้าวรวมอาหารทะเล
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์  7:00 น. ถึง 21:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 3,600 เยน (770 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/N7YQC78VbF8AVEnM7
62. Grilled Wagyu Beef Tsukiji | ย่าน Tsukiji Outer Market

ร้าน Grilled Wagyu Beef Tsukiji เป็นร้านสตรีทฟู้ด ภายในตลาดซึกิจิ ตั้งอยู่ในย่านซึกิจิ (Tsukiji Outer Market) กรุงโตเกียว ที่เน้นการนำเสนอเมนูเนื้อวากิวคุณภาพสูงในรูปแบบที่เข้าถึงง่ายและรวดเร็ว โดยเฉพาะเมนู เนื้อวากิวเสียบไม้ย่าง (Wagyu Skewers) ซึ่งเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นร้านที่ใช้เนื้อวากิวเกรดสูงสุดคือ A5 ซึ่งเป็นมาตรฐานการจัดเกรดเนื้อวัวของญี่ปุ่นที่บ่งบอกถึงคุณภาพไขมันแทรก (Marbling) สีเนื้อ ความแน่น และความละเอียดของเนื้อที่ดีที่สุด ทางร้านจะคัดสรรเนื้อวากิวชั้นดีไม่จำกัดแค่แบรนด์ดังอย่างโกเบหรือมัตสึซากะ แต่เน้นที่คุณภาพของเนื้อในแต่ละวัน เพื่อให้ได้เนื้อที่รสชาติดีที่สุด เนื้อจะถูกตัดด้วยมือและย่างอย่างพิถีพิถันบนเตา ทำให้ได้เนื้อที่นุ่ม ฉ่ำ มีกลิ่นหอม และละลายในปาก
จุดเด่นของร้าน Grilled Wagyu Beef Tsukiji คือ นอกเหนือจากคุณภาพของเนื้อวากิว A5 ที่สำคัญคือ เนื้อไม่ได้ผ่านการแช่แข็ง และทางร้านสามารถนำเนื้อวากิวมาทำได้หลากหลายเมนูให้เลือกชิม เช่น สเต็กวากิว เนื้อวากิวเสียบไม้ย่าง และเมนูฟิวชั่นสุดหรูอย่าง เนื้อวากิว A5 เสิร์ฟท็อปด้วยอูนิ (ไข่หอยเม่น) ซึ่งเป็นการรวมเอาวัตถุดิบระดับพรีเมียมจากทั้งบนบกและในทะเลมาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
เมนูแนะนำของร้าน Grilled Wagyu Beef Tsukiji
1. Wagyu Skewer & Sea Urchin = เนื้อวากิวเสียบไม้ย่างโปะด้วยไข่หอยเม่น
2. A5 Wagyu Sashimi = ข้าวหน้าเนื้อวากิวแบบดิบ
3. Wagyu Jyu = ข้าวหน้าเนื้อวากิว
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์  7:00 น. ถึง 21:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 3,600 เยน (770 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/ejipMQPZzskqkv3P6
63. Tsukiji Sushi Dai Honkan | ย่าน Tsukiji Outer Market

ร้าน Tsukiji Sushidai Honkan เป็นร้านซูชิ ชื่อดังตั้งอยู่ในย่านซึกิจิ (Tsukiji Outer Market) กรุงโตเกียว ร้านนี้เป็นที่รู้จักกันดีในการนำเสนอซูชิแบบเอโดะมาเอะ (Edomae Sushi) ที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่คุณภาพสูง ร้านนี้ได้รับความนิยมจากการเสิร์ฟซูชิที่ทำจากวัตถุดิบสดใหม่ที่ได้มาจากตลาด Tsukiji ซึ่งเป็นตลาดปลาเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยความพิถีพิถันในการคัดสรรปลาและอาหารทะเลที่มีคุณภาพสูง ซูชิที่ร้าน Tsukiji Sushi Dai Honkan มีรสชาติที่กลมกล่อมและสัมผัสได้ถึงความสดใหม่จากทะเลญี่ปุ่น โดยมีเมนูที่หลากหลายตั้งแต่ซูชิที่ทำจากปลาทูน่าชิ้นใหญ่ ไปจนถึงซูชิที่ทำจากปลาหายาก เช่น ซูชิปลาไหลญี่ปุ่น หรือปลาโอ ซึ่งเป็นเมนูยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
จุดเด่นของร้าน Tsukiji Sushi Dai Honkan คือ Omakase (ตามใจเชฟ) ที่ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับสุดยอดวัตถุดิบตามฤดูกาลที่เชฟคัดสรรมาเป็นอย่างดี ชุด Omakase ยอดนิยมมักจะประกอบด้วยนิกิริซูชิประมาณ 11 ชิ้น, มากิโรล 1 ชิ้น, ซุปมิโสะ และซูชิพิเศษที่สามารถเลือกได้เอง 1 ชิ้น ซึ่งเป็นที่กล่าวขานถึงความคุ้มค่าอย่างยิ่ง นอกจากคุณภาพของวัตถุดิบแล้ว การได้นั่งที่เคาน์เตอร์บาร์ในร้านยังเป็นประสบการณ์พิเศษ ที่ลูกค้าจะได้ชมฝีมือของเชฟซูชิอย่างใกล้ชิด และได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับที่มาของปลาแต่ละชนิดด้วย
เมนูแนะนำของร้าน Tsukiji Sushi Dai Honkan
1. Omakase 9 pieces and 1 roll (Set A)
2. Kachi Doki 8 pieces and 1 roll (Set B)
3. Tsukiji 7 pieces and 1 roll
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์  10:30 น. ถึง 21:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 3,600 เยน (770 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/WQ5QcWcpJV5UytUn6
64. Tsukiji Yamachō | ย่าน Tsukiji Outer Market

ร้าน Tsukiji Yamachō เป็นร้านเก่าแก่ที่เชี่ยวชาญด้านการทำไข่ม้วนญี่ปุ่น (Tamagoyaki) ตั้งอยู่ในย่านซึกิจิ (Tsukiji Outer Market) กรุงโตเกียว ร้านนี้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1955 และยังคงสืบทอดสูตรและวิธีการทำแบบดั้งเดิมไว้ ทำให้ไข่ม้วนของร้านมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และครองใจนักท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน จุดเด่นของ Yamachō คือการนำเสนอไข่ม้วนในรูปแบบ “คุชิ-ทามะ” (Kushi-tama) หรือที่เรียกว่า ไข่หวานเสียบไม้ สำหรับทานขณะเดินเที่ยว ซึ่งได้รับความนิยมสูงเพราะสะดวกและมีราคาไม่แพง
จุดเด่นของร้าน Tsukiji Yamachō คือ ไข่ม้วนที่ทำเสร็จใหม่ๆ ร้อนๆ ที่มีความนุ่มฟูและชุ่มฉ่ำ รสชาติของไข่หวานมักจะมีความหวานนำ ตามด้วยรสอูมามิที่กลมกล่อมจากน้ำซุปดาชิ (Dashi) ที่เป็นสูตรเฉพาะของร้าน ไข่ม้วนจะถูกม้วนอย่างพิถีพิถันในกระทะสี่เหลี่ยมทรงสูง ทำให้ได้รูปทรงที่สวยงามและเนื้อสัมผัสที่เนียนละเอียด ผู้เยี่ยมชมสามารถยืนชมกระบวนการทำไข่ม้วนของช่างฝีมือได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ของการมาเที่ยวตลาด
เมนูแนะนำของร้าน Tsukiji Yamachō
1. Japanese Omelette = ไข่หวานเสียบไม้
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์  6:50 น. ถึง 15:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 200 เยน (45 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/LMCeVtp62UbWQi3G7
65. Marutake Tsukiji | ย่าน Tsukiji Outer Market

ร้าน Marutake Tsukiji เป็นอีกหนึ่งร้านตำนานไข่ม้วนญี่ปุ่น (Tamagoyaki) ตั้งอยู่ในย่านซึกิจิ (Tsukiji Outer Market) กรุงโตเกียว ที่มีประวัติยาวนานกว่า 80 ปี ร้านนี้เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายไข่ม้วนรายใหญ่ที่โด่งดังในตลาด และเป็นที่รู้จักดีในเรื่องสูตรไข่ม้วนที่มีรสชาติหวานอร่อยเป็นพิเศษ จนเป็นที่กล่าวขานว่าเป็นรสชาติแบบดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคไทโช (Taisho Period) นอกจากนี้ ร้าน Marutake ยังมีชื่อเสียงที่เชื่อมโยงกับครอบครัวของ เทอร์รี่ อิโตะ (Terry Itō) นักวิจารณ์และพิธีกรโทรทัศน์ชื่อดังของญี่ปุ่น ทำให้ร้านเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
จุดเด่นของร้าน Marutake Tsukiji คือ เมนูสตรีทฟู้ดที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ ไข่ม้วนเสียบไม้ (Tamagoyaki Skewers) ที่ขายในราคาที่เข้าถึงง่าย ซึ่งเป็นไข่ม้วนย่างร้อนๆ ที่มีความนุ่มฟูและมีรสหวานนำ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของไข่หวานแบบโตเกียว ขึ้นชื่อเรื่องรสสัมผัสที่นุ่มละเอียดแทบจะละลายในปาก โดยใช้ไข่สดใหม่จากฟาร์มที่ทำสัญญาโดยตรง และปรุงรสด้วยดาชิ (Dashi – น้ำซุปปลาโบนิโตะ) สูตรลับเฉพาะของร้าน
เมนูแนะนำของร้าน Marutake Tsukiji
1. Japanese Style Omelette = ไข่หวานเสียบไม้
2. Eel & Egg Skewers = ปลาไหลและไข่หวานเสียบไม้
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – เสาร์  4:00 น. ถึง 14:00 น.
วันอาทิตย์ 8:00 น. ถึง 14:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 150 เยน (30 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/UDAo4pTfvHM9J65R6
66. Sushizanmai Tsukiji | ย่าน Tsukiji Outer Market

ร้าน Sushizanmai เป็นร้านซูชิ ชื่อดังที่มีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่น สาขา Tsukuji ตั้งอยู่ในย่านซึกิจิ (Tsukiji Outer Market) กรุงโตเกียว ร้านนี้โดดเด่นด้วยการเสิร์ฟซูชิที่ทำจากวัตถุดิบสดใหม่และคุณภาพสูง ซึ่งเน้นความสดและรสชาติของเนื้อปลาที่คัดสรรอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่ซูชิที่ใช้ปลาดิบจนถึงซูชิที่มีรสชาติสดใหม่และกลมกล่อม ที่ Sushizanmai คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การทานซูชิที่มีความสดใหม่และการทำงานที่มีความใส่ใจในทุกรายละเอียด
จุดเด่นของร้าน Sushizanmai คือ เป็นร้านซูชิที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่หายากสำหรับร้านซูชิคุณภาพ ทำให้ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่ต้องการลิ้มรสซูชิสดๆ เป็นมื้อเช้าตรู่ หรือผู้ที่อยากทานดึกดื่นก็สามารถแวะมาได้ตลอดเวลา เมนูของร้านมีความหลากหลายกว่า 150 รายการ และสามารถสั่งซูชิเป็นคำ (Ala Carte) ได้ตั้งแต่ 1 ชิ้น ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกทานเฉพาะสิ่งที่ชอบได้ตามใจปรารถนา ไฮไลต์ ที่ห้ามพลาดคือเมนูที่เกี่ยวกับปลาทูน่า เช่น Maguro Zanmai Special ที่รวมเอาซูชิปลาทูน่าเนื้อส่วนต่างๆ ทั้งโอโทโร่ (Otoro – ส่วนท้องที่มีไขมันมากที่สุด), ชูโทโร่ (Chutoro – ส่วนท้องไขมันปานกลาง) และอะคามิ (Akami – เนื้อแดง) มาไว้ในเซ็ตเดียว การันตีความสด ความนุ่ม และความอร่อยจนละลายในปาก ในแท็บเล็ตจะมีเมนู Today’s Recommendation จากทางร้านด้วย
เมนูแนะนำของร้าน Sushizanmai Tsukiji
1. Today’s Recommendation 
2. Tsukijimori (Deluxe Assorted Raw Fish Platter for 3 portions)
3. Premium Magurozanmai
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 350 เยน (75 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/vsDYbEUpTKc1QRaB6
67. WAGYU SUKIYAKI 極〜GOKU〜 東銀座築地 HigashiGinza Tsukiji

ร้าน WAGYU SUKIYAKI 極〜GOKU〜 東銀座築地 HigashiGinza Tsukiji เป็นร้านสุกี้ยากี้เนื้อวากิว ระดับพรีเมียม ตั้งอยู่ในย่านซึกิจิ (Tsukiji Outer Market) กรุงโตเกียว เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นเฉพาะทางที่โดดเด่นด้วยเมนูสุกี้ยากี้เนื้อวากิวที่คัดสรรมาอย่างดี มานำเสนอในรูปแบบ “สุกียากี้แบบหม้อส่วนตัว” ทำให้ลูกค้าแต่ละท่านสามารถปรุงและเพลิดเพลินกับรสชาติสุกี้ยากี้ได้ตามความชอบส่วนตัว ร้านมีที่นั่งแบบเคาน์เตอร์เพียง 8-9 ที่นั่ง บรรยากาศจึงมีความเป็นกันเองและเน้นประสบการณ์การทานอาหารคุณภาพสูงแบบไม่เร่งรีบ
จุดเด่นของร้าน WAGYU SUKIYAKI 極〜GOKU〜 東銀座築地 คือ เป็นร้านสุกียากี้ที่เปิดให้บริการแต่เช้าตรู่ ทำให้สามารถแวะมาทานสุกียากี้วากิวเป็นอาหารเช้า หรือเป็นมื้อกลางวันได้ ชุดเมนูสุกี้ยากี้ของร้านจะมาพร้อมกับเนื้อวากิว A5 ในปริมาณต่างๆ เสิร์ฟพร้อมกับ ข้าว ซุปมิโซะ และไข่ (ที่สามารถเติมได้ไม่จำกัด) แต่สิ่งที่พิเศษสุดและเป็นที่พูดถึงคือการปิดท้ายมื้อด้วย ข้าวไข่ทรัฟเฟิล (Truffle Tamago Kake Gohan) ที่เสิร์ฟพร้อมไข่ดิบคุณภาพเยี่ยม และน้ำมันทรัฟเฟิลที่ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมหรูหรา เพื่อให้ลูกค้าอิ่มอร่อยได้อย่างเต็มที่
เมนูแนะนำของร้าน WAGYU SUKIYAKI 極〜GOKU〜 東銀座築地 HigashiGinza Tsukiji
1. A5 Wagyu Sukiyaki Set 100g
2. A5 Wagyu Sukiyaki Set 150g
3. A5 Wagyu Sukiyaki Set 300g
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์  7:00 น. ถึง 22:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 4,600 เยน (1,000 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/qS581pYLtxhr8rB57
68. Tsukiji Ihachi honten/ A5 Wagyu Steak | ย่าน Tsukiji Outer Market

ร้าน Tsukiji Ihachi honten/ A5 Wagyu Steak เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ตั้งอยู่ในย่านซึกิจิ (Tsukiji Outer Market) กรุงโตเกียว เป็นร้านอาหารที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการเสิร์ฟ A5 Wagyu Steak ที่มีคุณภาพเยี่ยม ร้านนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและชาวท้องถิ่นเนื่องจากการนำเสนอเนื้อวากิวที่มีความนุ่มและรสชาติที่หอมหวานอย่างลงตัว โดยเนื้อ A5 Wagyu ที่ใช้ในร้านนี้คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันจากแหล่งที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ทำให้ทุกคำที่ทานรู้สึกถึงความละมุนและความหอมของไขมันที่แทรกซึมในเนื้ออย่างลงตัว นอกจากเมนูเนื้อที่ร้านยังมีเมนูปลาดิบ และอาหารทะเลให้เลือกมากมาย
จุดเด่นของร้าน Tsukiji Ihachi honten/ A5 Wagyu Steak คือ สเต็กเนื้อวากิวเซอร์ลอยน์ A5 (A5 Wagyu Sirloin Steak) ที่ใช้เนื้อเกรดพรีเมียมไม่ผ่านการแช่แข็ง เพื่อคงคุณภาพและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของเนื้อวากิวญี่ปุ่นเอาไว้อย่างเต็มที่ ทำให้เนื้อมีความนุ่มและฉ่ำละลายในปาก นอกจากนี้ ทางร้านยังมักจะเสิร์ฟเมนู A5 Wagyu ในรูปแบบสตรีทฟู้ด เช่น เนื้อวากิวเสียบไม้ย่างบนเตาเทปปัน ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเพิ่ม อูนิ (Uni) หรือไข่หอยเม่นสดๆ วางไว้ด้านบน ทำให้เป็นเมนูฟิวชั่นที่อร่อยลงตัวและน่าถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง นอกจากร้านยังมีเมนู Seafood Steamed in Sake & Butter และอาหารทะเลย่าง เช่น หอยรางลม หอยเชลล์ หอยตลับ รวมไปถึงข้าวหน้าปลาดิบต่างๆ
เมนูแนะนำของร้าน Tsukiji Ihachi honten/ A5 Wagyu Steak
1. Sea Urchin Wagyu Skewer
2. Wagyu Beef Skewer
3. King Crab & 1/2 Pound Wagyu
4. Wagyu Steak
5. Wagyu Shabu / Grill Wagyu
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,500 เยน (320 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/vh1heAnxWkMNwgC27
69. Maguroya Kurogin | ย่าน Tsukiji Outer Market

ร้าน Maguroya Kurogin เป็นร้านซูชิ และดงบุริ ชื่อดังในตั้งอยู่ในย่านซึกิจิ (Tsukiji Outer Market) กรุงโตเกียว เป็นร้านที่ขึ้นชื่อในเรื่องทูน่าคุณภาพสูง โดยเฉพาะทูน่าบลูฟิน (Bluefin Tuna) ที่สดใหม่ แล่กันแบบสดๆ โชว์กันที่หน้าร้าน ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นเต้น สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว ร้านเปิดให้บริการตั้งแต่เช้าตรู่ และมักจะมีคิวยาว โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดหรือฤดูท่องเที่ยว ด้วยความสดของวัตถุดิบและความพิถีพิถันในการจัดจาน ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายที่คนรักทูน่าห้ามพลาด
จุดเด่นของร้าน Maguroya Kurogin คือ เมนูรวมทูน่า เช่น โอโทโร่ ชูโทโร่ และคามะโทโร่ ซึ่งให้รสสัมผัสและระดับไขมันที่แตกต่างกันในแต่ละคำ เมนูยอดนิยมคือ “ซาชิมิสามสี” ที่รวมทุกคัดแต่ส่วนที่เป็นไฮไลต์เอาไว้ในจานเดียว ให้คุณได้ลิ้มลองความหลากหลายของทูน่าคุณภาพระดับพรีเมียมในราคาสมเหตุสมผล นอกจากนี้ ทางร้านยังมีซอสโชยุสูตรเฉพาะที่ช่วยดึงรสชาติของเนื้อปลาออกมาได้อย่างกลมกล่อมโดยไม่กลบรสของทูน่า เหมาะสำหรับทั้งคนที่ชื่นชอบซูชิ และผู้ที่อยากลองทูน่าญี่ปุ่นคุณภาพสูงในบรรยากาศตลาดดั้งเดิมของโตเกียว
– คามะโทโร่ (Kamatoro) = เนื้อปลาทูน่าส่วน “คาง” ที่มีไขมันแทรกอยู่มากแต่ไม่เท่าโอโทโร่
– โอโทโร่ (Otoro) = เนื้อปลาส่วนท้องปลาทูน่าที่มีไขมันเยอะที่สุด
– ชูโทโร่ (Chutoro) = เนื้อปลาส่วนท้องมันแทรกปานกลาง
– อากามิ (Akami) = เนื้อส่วนกลางลำตัว หรือที่เรียกว่า เนื้อแดงของทูน่า มีไขมันน้อยมาก หรือแทบไม่มีเลย
เมนูแนะนำของร้าน Maguroya Kurogin
1. Three Toro Bowl = ข้าวหน้าทูน่า 3 ชนิด คามะโทโร่ + โอโทโร่ + ชูโทโร่ 3,300 เยน
2. Three Colors Bowl = ข้าวหน้าทูน่า 3 สี  โอโทโร่ + ชูโทโร่ + อากามิ 2,800 เยน
3. Special Three kinds of Toto Nigiri = ซูชิ 3 แบบ 
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์, อังคาร, ศุกร์, เสาร์, อาทิตย์ 8:00 น. ถึง 13:00 น.
วันพุธ – พฤหัสบดี 8:30 น. ถึง 13:00 น
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 300 เยน (65 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/UJDunXRGHA7Q4hMH9
70. Sushikuni (鮨國) | ย่าน Tsukiji Outer Market

ร้าน Sushikuni (鮨國) เป็นร้านซูชิ และดงบุริอาหารทะเล ชื่อดังที่ตั้งอยู่ในย่านซึกิจิ (Tsukiji Outer Market) กรุงโตเกียว ร้านนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเย็น และเป็นที่รู้จักในหมู่นักชิมทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยทำเลที่ใกล้แหล่งวัตถุดิบทะเลสดใหม่ทุกวัน Sushikuni จึงสามารถนำเสนอซูชิและข้าวหน้าทะเลคุณภาพเยี่ยมในราคาสมเหตุสมผล ภายในร้านตกแต่งเรียบง่ายในสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม บรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง มีทั้งที่นั่งแบบเคาน์เตอร์และโต๊ะเล็กๆ เหมาะสำหรับการแวะรับประทานมื้อกลางวันแบบรวดเร็วหรือมื้อเย็นแบบสบายๆ
จุดเด่นของร้าน Sushikuni (鮨國) คือ เมนูซิกเนเจอร์ของร้านคือ “ข้าวหน้าอูนิแบบล้นชาม” (Ganso Kobore Uni Don) ซึ่งเป็นเมนูที่ร้านนี้เป็นต้นตำรับ อูนิ (ไข่หอยเม่น) ที่นำมาเสิร์ฟนั้นจะถูกคัดเลือกมาอย่างดีจากตลาดสึคิจิในทุกๆ วัน ทำให้มีความสด หวาน มัน และมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุนลิ้นราวกับครีม โดยปริมาณของอูนิที่โปะลงบนข้าวซ้อนทับกันจนล้นออกมาจากชามตามชื่อเมนู ทำให้ลูกค้าได้อิ่มเอมกับรสชาติอูนิคุณภาพสูงอย่างเต็มที่ นอกจากเมนูข้าวหน้าอูนิแล้ว ทางร้านยังมีเมนูข้าวหน้าทะเลอื่นๆ (Kaisendon) เช่น ข้าวหน้าอูนิและไข่ปลาแซลมอน รวมถึงซูชิ และซาชิมิที่ทำจากวัตถุดิบตามฤดูกาลที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันจากแหล่งที่ดีที่สุด ที่ร้านยังมีระบบแจกบัตรคิว ทำให้ลูกค้าสามารถเดินชมตลาดระหว่างรอได้โดยไม่ต้องต่อแถวนาน
เมนูแนะนำของร้าน Sushikuni (鮨國)
1. Sea Urchin & Salmon Roe Rice Bowl = ข้าวหน้าไข่หอยเม่นกับไข่ปลาแซลมอน
2. Original Overflowing Salmon Roe Rice Bowl = ข้าวหน้าไข่ปลาแซลมอนแบบล้นชาม
3. Sea Urchin, Scallop & Salmon Roe Rice Bowl = ข้าวหน้าไข่หอยเม่น หอยเชลล์และไข่ปลาแซลมอน
4. Original Overflowing Sea Urchin Rice Bowl = ข้าวหน้าไข่หอยเม่นแบบล้นชาม
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อังคาร และวันพฤหัส – อาทิตย์  9:00 น. ถึง 13:30 น. และ 17:00 น. ถึง 20:30 น.
วันหยุด: วันพุธ
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 500 เยน (110 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/j4JabWXEjbtfs5HG8
— ร้านอื่นๆ ที่น่าสนใจ —
71. Rokurinsha | ย่าน Marunouchi

ร้าน Rokurinsha เป็นร้านราเมง ชื่อดังที่ตั้งอยู่ใน “Ramen Street” ย่านมารูโนอูจิ (Marunouchi) ภายในสถานีโตเกียว เป็นร้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในโตเกียว และได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้บุกเบิกและยกระดับสึเคเมน (Tsukemen) ราเมงสไตล์น้ำซุปข้นเป็น “ราเมงแบบจุ่ม” จนเป็นที่นิยมไปทั่วประเทศญี่ปุ่น จุดเด่นที่สุดของร้านคือ น้ำซุปที่เข้มข้น ซึ่งเกิดจากการเคี่ยวกระดูกหมู (Tonkotsu) และส่วนผสมอื่นๆ เป็นเวลานานมาก จนได้ซุปที่มีรสชาติกลมกล่อม นัว และมีความเหนียวข้นคล้ายซอสที่สามารถเคลือบเส้นได้เป็นอย่างดี รสชาติของซุปมีความซับซ้อน โดยมีกลิ่นอายของปลาแห้ง ที่ช่วยเพิ่มมิติของรสชาติอูมามิ ทำให้การจุ่มเส้นแล้วยกซดได้รสชาติที่จัดจ้านและเต็มคำ นอกจากนี้ จุดเด่นยังอยู่ที่ เส้นราเม็ง ที่มีขนาดใหญ่ หนา และหยัก มีเนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่มหนึบ ซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้เข้ากันได้อย่างลงตัวกับน้ำซุปข้น
จุดเด่นของร้าน Rokurinsha คือ ราเมงแบบจุ่ม “Tsukemen” ที่ให้ประสบการณ์การทานที่แตกต่างจากการทานราเมงแบบทั่วไป โดยจะเสิร์ฟเส้นราเมงแยกจากน้ำซุปให้ลูกค้าจุ่มเอง น้ำซุปของที่นี่ทำจากกระดูกหมูต้มยาวนานจนกลายเป็นซุปข้นหวาน และอุดมไปด้วยรสชาติ ท็อปปิ้งต่างๆ เช่น หมูชาชูหนานุ่ม และไข่ต้ม เมนูเครื่องเคียงที่จะช่วยเสริมรสชาติให้อร่อยมากยิ่งขึ้น
เมนูแนะนำของร้าน Rokurinsha
1. Tsukemen (Regular)
2. Nama-Shichimi Tsukemen (Regular)
3. Tokusei Tsukemen (Regular)
4. Chuka Soba (Regular)
5. Tokusei Chuka Soba (Regular)
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์  7:30 น. ถึง 9:30 น. และ 10:00 น. ถึง 23:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 850 เยน (180 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/PdRqqYUqxrnRNLSK8
72. KOBE BEEF DAIA TOKYO STATION GRANSTA YAESU | ย่าน Marunouchi

KOBE BEEF DAIA TOKYO STATION GRANSTA YAESU เป็นร้านเนื้อโกเบ ระดับพรีเมียม ตั้งอยู่ในทำเลสะดวกสบายภายใน Gransta Yaesu (B1F) ของสถานีรถไฟโตเกียว (Tokyo Station) ในย่านมารุโนะอุจิ (Marunouchi) ร้านนี้เป็นที่รู้จักในฐานะร้านที่เชี่ยวชาญด้านเนื้อโกเบโดยเฉพาะ และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่จัดการปริมาณเนื้อโกเบมากที่สุดในโลก ทำให้มั่นใจได้ว่าเนื้อที่นำมาเสิร์ฟเป็น “เนื้อโกเบแท้ 100%” ซึ่งได้รับการคัดสรรตามมาตรฐานที่เข้มงวดและปรุงโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ลูกค้าได้สัมผัสกับรสชาติที่ “หวานหอม” “กลิ่นหอม” และ “รสสัมผัสที่ค้างอยู่ในปาก” อันเป็นเอกลักษณ์ของเนื้อโกเบอย่างแท้จริง
จุดเด่นของร้าน KOBE BEEF DAIA TOKYO STATION GRANSTA YAESU คือ การเสิร์ฟเนื้อ Kobe Beef ที่มีคุณภาพสูงและรสชาติที่อร่อยไม่เหมือนใคร การเสิร์ฟเนื้อโกเบจะเน้นความสดใหม่และการปรุงที่ไม่ซับซ้อนเพื่อให้รสชาติของเนื้อโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นสเต็กเนื้อโกเบ ชุดอาหารกลางวันราคาคุ้มค่า ไปจนถึงเมนูพิเศษอื่นๆ เช่น Kobe Beef Steak Ju (ข้าวหน้าสเต็กเนื้อโกเบ) ที่ให้คุณได้ลิ้มรสเนื้อโกเบในบรรยากาศสบายๆ และเมนูสร้างสรรค์อย่าง Kobe Beef Steak Sushi อีกด้วย
เมนูแนะนำของร้าน KOBE BEEF DAIA TOKYO STATION GRANSTA YAESU
1. Kobe Beef Steak
2. Kobe Beef Steak Sushi
3. Kobe Beef Sashimi
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 22:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,380 เยน (300 บาท)
พิกัด: KOBE BEEF DAIA TOKYO STATION GRANSTA YAESU https://maps.app.goo.gl/8MkLdjUcuJQdwcXR9
Kobebeef Daia tokyo station store https://maps.app.goo.gl/9uuTfddeiT8Xe5qKA
73. Tsukishima Monja Moheji Honten | ย่าน Tsukishima

ร้าน Tsukishima Monja Moheji Honten เป็นร้านมอนจายากิ ชื่อดังที่ตั้งอยู่ในย่านสึกิชิมะ (Tsukishima) เมืองโตเกียว ซึ่งถือเป็นแหล่งกำเนิดของมอนจายากิ อาหารพื้นเมืองสไตล์โตเกียวที่คล้ายโอโคโนมิยากิแต่มีเนื้อสัมผัสที่เหลวกว่า ร้าน Moheji โดดเด่นด้วยการใช้วัตถุดิบคุณภาพและน้ำซุปสูตรพิเศษที่กลมกล่อมจากการเคี่ยวน้ำสต็อกไก่และอาหารทะเล ทำให้รสชาติของมอนจายากิที่นี่เข้มข้นและมีเอกลักษณ์ ภายในร้านตกแต่งแบบเรียบง่าย อบอุ่น และเป็นกันเอง เหมาะสำหรับการมารับประทานอาหารกับเพื่อนหรือครอบครัว โดยพนักงานจะช่วยปรุงมอนจายากิให้ที่โต๊ะ เพิ่มประสบการณ์ที่ทั้งสนุกและน่าประทับใจ
จุดเด่นของร้าน Tsukishima Monja Moheji Honten คือ มีเมนูหลากหลาย และรสชาติที่กลมกล่อมไม่เหมือนใคร เช่น มอนจายากิเมนไทโกะผสมโมจิและชีส ซึ่งให้สัมผัสทั้งความหนึบ ความมัน และรสเผ็ดเค็มในคำเดียว อีกหนึ่งเมนูยอดนิยมคือ มอนจายากิหมึกหมึกดำ ที่มีรสชาติทะเลเข้มข้นคล้ายริซอตโต้ นอกจากนี้ ทางร้านยังมีบริการที่ใส่ใจในรายละเอียด เช่น การช่วยปรุงให้ถึงโต๊ะและบริการสเปรย์ดับกลิ่นเสื้อผ้าให้ลูกค้าก่อนกลับ จุดที่ตั้งของร้านอยู่บน “Monja Street” ถนนสายมอนจายากิที่รวมร้านชื่อดังไว้มากมาย ใกล้สถานี Tsukishima เดินเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ทำให้ร้านนี้เป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของนักชิมเมื่อมาเยือนโตเกียว
เมนูแนะนำของร้าน Tsukishima Monja Moheji Honten
1. Monja Spicy Pollock Roe & Mochi = 1,848 เยน
2. Monja Spicy Pollock Roe with Shiso Leaf & Butter = 1,848 เยน
3. Monja Squid Ink = 1,958 เยน
4. Monja Seafood Curry = 2,068 เยน
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 10:30 น. ถึง 22:30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 580 เยน (120 บาท)
พิกัด: Tsukishima Monja Moheji Honten https://maps.app.goo.gl/i1JpXMeT5nb2Cz1EA
Tsukishima Monja Moheji Flagship https://maps.app.goo.gl/y92h2KJhRCm5FM9GA
74. Yakiniku Jumbo Shirokane | ย่าน Shirokane

ร้าน Yakiniku Jumbo Shirokane เป็นร้านยากินิกุ (เนื้อย่าง) ระดับพรีเมียมที่โด่งดังอย่างมาก ตั้งอยู่ในย่านชิโรคาเนะ (Shirokane) ได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งจากคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องการใช้เนื้อวากิวคุโระเกะเกรด A5 ที่มีความนุ่มละมุนและรสชาติกลมกล่อม โดยเฉพาะเนื้อส่วนพิเศษอย่าง Zabuton, Misuji และ Chateaubriand ที่หาทานได้ยากในร้านทั่วไป โดยร้านจะคัดสรรเนื้อวัวดำวากิวญี่ปุ่น (Kuroge Wagyu) ชั้นเลิศจากทั่วประเทศอย่างพิถีพิถัน โดยผู้เชี่ยวชาญจะประเมินเนื้อแต่ละส่วนจากหลายปัจจัย เช่น สายพันธุ์ อายุ และคุณภาพของไขมัน เพื่อให้มั่นใจว่าเนื้อที่นำมาเสิร์ฟมีรสชาติและสัมผัสที่ยอดเยี่ยมที่สุด
จุดเด่นของร้าน Yakiniku Jumbo Shirokane คือ เมนูซิกเนเจอร์ อย่างเช่น “โนฮารายากิ” (Nohara-yaki) ซึ่งเป็นเนื้อวากิวแผ่นบางถูกย่างด้วยพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญ และพนักงานจะคอยแนะนำวิธีการย่างเนื้อเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด เสิร์ฟพร้อมไข่ดิบเพื่อใช้จุ่มก่อนรับประทาน เพิ่มรสชาติที่เข้มข้น หอมนุ่ม และละมุนลิ้น นอกจากนี้ยังมีเมนูที่แนะนำอื่น ๆ เช่น ยุกเกะ (Yukke) เนื้อดิบปรุงรสกับไข่ดิบ ยากินิกุซูชิ (Wagyu sushi) และเนื้อส่วนหายากอย่าง มิสุจิ (Misuji) หรือ ชาโตบริยองด์ (Chateaubriand) นอกจากนี้ทางร้านยังขึ้นชื่อเรื่องน้ำจิ้มรสชาติเยี่ยมที่ได้รับการกล่าวขานว่า “ดีที่สุดในญี่ปุ่น” ช่วยเสริมรสชาติของเนื้อให้อร่อยมากยิ่งขึ้นไปอีก
เมนูแนะนำของร้าน Yakiniku Jumbo Shirokane
1. Sirloin Nohara-yaki
2. Zabuton
3. Misuji
4. Kamenoko
5. Hokkaido milk soft serve ice cream
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันจันทร์ – ศุกร์ 17:00 น. ถึง 23:00 น.
วันเสาร์ – อาทิตย์ 11:30 น. ถึง 14:30 น. และ 17:00 น. ถึง 23:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 3,000 เยน (650 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/n1kAgAFZKUecC3c29
75. Iroha Toyosu (海鮮バイキング いろは 豊洲千客万来) | ย่าน Toyosu

ร้าน Iroha Toyosu (海鮮バイキング いろは 豊洲千客万来) หรือที่เรียกว่า Seafood Buffet Iroha Toyosu เป็นร้านซีฟู้ดบุฟเฟ่ต์ บุฟเฟ่ต์อาหารทะเลชื่อดัง ตั้งอยู่ในย่านโทโยสุ (Toyosu) ภายในโครงการ Toyosu Senkyakubanrai ที่รวบรวมวัตถุดิบสดใหม่ส่งตรงจากตลาดปลาโทโยสุ
จุดเด่นของร้าน Seafood Buffet Iroha Toyosu คือ การรวมความสดใหม่ของวัตถุดิบจากตลาดปลาโทโยสุเข้ากับรูปแบบบุฟเฟ่ต์ ที่ลูกค้าสามารถลิ้มรสอาหารทะเลคุณภาพสูงได้แบบไม่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นมากุโระสด ซาชิมิ ปลาย่าง ปลาต้ม หรือของหวานต่าง ๆ อีกทั้งยังมี การโชว์แล่ปลามากุโระสด (Maguro Kaitai Show) ซึ่งเพิ่มความสนุกและประสบการณ์ให้แก่ผู้มาเยือน เหมาะทั้งสำหรับครอบครัว นักท่องเที่ยว และกลุ่มใหญ่ที่อยากสัมผัสรสชาติอาหารทะเลสดจากญี่ปุ่นแบบเต็มที่ในบรรยากาศที่สดใสและเข้าถึงง่าย จุดนี้ทำให้ร้านแตกต่างจากบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลทั่วไปที่มักใช้วัตถุดิบแช่แข็งหรือมีเมนูจำกัด และยังสร้างความพิเศษด้วยการได้ชมเทคนิคแล่ปลาสดจากเชฟมืออาชีพแบบใกล้ชิด
เมนูแนะนำของร้าน Iroha Toyosu (海鮮バイキング いろは 豊洲千客万来)
1. Japanese Fresh Tuna & Snow Crab about 70 types = 6,800 เยน
2. Japanese Fresh Tuna & Snow Crab about 50 types = 5,980 เยน
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:30 น. ถึง 22:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 6,000 เยน (1,300 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/MZa5gpjV2JVyw5wU6
76. Midori Sushi Akasaka| ย่าน Akasaka

ร้าน Midori Sushi เป็นร้านซูชิ ยอดนิยมในโตเกียวที่เริ่มต้นจากสาขา Umegaoka ก่อนจะขยายสาขาไปยังหลายจุดทั่วเมือง เช่น Ginza, Shibuya และ Akasaka เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น ร้านนี้ได้ชื่อว่า “ร้านซูชิ คำโต คุณภาพดี ราคาจับต้องได้” ด้วยวัตถุดิบสดใหม่ เช่น ปลาทูน่า แซลมอน หรือวัตถุดิบตามฤดูกาลที่นำมาปรุงอย่างตั้งใจ พร้อมข้าวซูชิสูตรพิเศษ และสาหร่ายคุณภาพสูง ทำให้ทุกคำสัมผัสถึงความพิถีพิถันและรสชาติที่เต็มคำ ส่วนบรรยากาศในร้านก็เรียบง่ายแต่มีชีวิตชีวา มีเคาน์เตอร์ให้นั่งชมเชฟปั้นซูชิสด ๆ ตรงหน้า เป็นประสบการณ์ที่สนุกทั้งการรับประทานและชมการทำงานของร้าน
จุดเด่นของร้าน Midori Sushi คือ คุณภาพ ปริมาณ และราคา ที่สมเหตุสมผลมาก ทำให้ลูกค้าหลายคนต่างชมว่าเป็นหนึ่งในร้านซูชิที่ “คุ้มที่สุด” ในโตเกียว ถึงแม้ว่าจะต้องรอคิวยาวในบางสาขา แต่ก็ถือว่ารอคุ้มค่าแก่การรอคอย เพราะเมนูราคาเริ่มต้นกลางๆ ก็ได้ชิ้นซูชิขนาดใหญ่และสดใหม่ อีกจุดคือความหลากหลายของเมนูที่ทั้งซูชิแบบธรรมดาและแบบย่างไฟ (aburi) ซึ่งให้สัมผัสรสชาติและกลิ่นหอมอย่างชัดเจน ทำให้ร้านนี้ได้รับการแนะนำอย่างกว้างขวางจากสายกินทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ หากคุณอยู่โตเกียวและอยากลองซูชิดีๆ ร้าน Midori Sushi ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
เมนูแนะนำของร้าน Midori Sushi
1. Parade of Specialty Products
2. Hanamidori
3. Seasonal Nigiri
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 21:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 50 เยน (15 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/vYWx4uFRJNAY2E8ZA
77. Kisaburō Nōjō | ย่าน Sengoku


ร้าน Kisaburō Nōjō เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีความโดดเด่น และเชี่ยวชาญด้านเมนู“ไข่”เป็นพิเศษ ตั้งอยู่ในย่านเซ็นโกคุ (Sengoku) เมืองโตเกียว โดยเน้นการนำเสนอ “ไข่ไก่สดจากฟาร์มคุณภาพเยี่ยม” จากหลายจังหวัดในประเทศญี่ปุ่นเอามารวมไว้ที่ร้านแห่งนี้ เมนูหลักของร้านคือการจับคู่ไข่พรีเมียมเหล่านี้กับข้าวสวยญี่ปุ่นหุงร้อนๆ ซุปมิโสะ และเครื่องเคียงดั้งเดิม เพื่อมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่เรียบง่ายแต่เป็นเอกลักษณ์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบไข่โดยเฉพาะ ร้านตั้งอยู่ใกล้กับ สถานีเซ็นโกกุ (Sengoku Station) โดยสามารถเดินจากทางออก A2 ของสถานีไปถึงร้านได้ภายในเวลาประมาณ 1 นาที
จุดเด่นของร้าน Kisaburō Nōjō คือ บุฟเฟต์ข้าวและไข่ (Tamago Kake Gohan Buffet) ที่ให้ลูกค้าสามารถเติมข้าวสวยและเลือกไข่ดิบหลากหลายชนิดได้แบบไม่อั้น ซึ่งไข่แต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกันทั้งในด้านรสชาติ สี และเนื้อสัมผัส รวมถึง “ไข่รสส้มยูซุ” ที่โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมและรสเปรี้ยวอมหวานของส้มยูซุที่มาช่วยเสริมรสชาติมันๆ ของไข่ได้อย่างลงตัว นอกจากไข่แล้วยังมีเครื่องเคียงให้เลือกได้ 1 รายการ เช่น หมูย่าง ไก่ทอด ยากิโทริ 5ไม้ หมูตุ๋น อื่นๆ และมีของหวานปิดท้ายให้อีกด้วย รวมไปถึงที่ร้านยังมี ซาชิมิเนื้อม้าให้ลิ้มลอง
เมนูแนะนำของร้าน Kisaburō Nōjō
1. Tamago Kake Gohan Buffet = บุฟเฟ่ต์ข้าวและไข่
2. Oyakodon = ข้าวหน้าไก่และไข่
3. Jidori Grilled Chicken Rice Bowl Bento = ข้าวหน้าไก่ย่าง
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – ศุกร์ 11:00 น. ถึง 14:30 น. และ 17:00 น. ถึง 21:00 น.
วันเสาร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 16:00 น. และ 17:00 น. ถึง 21:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 400 เยน (85 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/wYMw2AuCndp7STSo8
78. Izumo Ikebukuro | ย่าน Ikebukuro

ร้าน Izumo Ikebukuro เป็นร้านอิซากายะ (Izakaya) ตั้งอยู่ในย่านอิเกบูกูโระ (Ikebukuro) เมืองโตเกียว อยู่ใกล้กับสถานีอิเคะบุคุโระฝั่งตะวันตก โดดเด่นด้วยการนำเสนอเมนูเน้นพลังงานและบำรุงกำลัง โดยมี “ปลาไหล” (Unagi) เป็นพระเอกหลักเสิร์ฟในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ไฮไลต์สำคัญ คือ “อุนะคุชิ” หรือปลาไหลเสียบไม้ย่างถ่าน ที่มีให้เลือกหลากหลายส่วน รวมถึงเมนูซิกเนเจอร์ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจอย่าง “อูนางิทามาดง” (Unagi Tama Don) ข้าวหน้าปลาไหลกับไข่หวานกองโต ที่มาพร้อมกับความท้าทายของขนาดเสิร์ฟปริมาณมาก นอกจากนี้ ทางร้านยังมีเมนูที่มาในธีมบำรุงกำลังอื่นๆ อาทิ ลิ้นวัว เนื้อย่างเสียบไม้ ซาชิมิเนื้อม้า และ “โอเด้งบำรุงความงาม”
จุดเด่นของร้าน Izumo Ikebukuro คือ การนำเสนอเมนูปลาไหลที่ไม่ได้จำกัดแค่ข้าวหน้าปลาไหลต้องราคาแพง แต่ทำให้เป็นเมนูที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย และยังขยายขอบเขตไปสู่เมนูที่หลากหลาย แต่ยังคงราคาเป็นมิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุนะคุชิ ซึ่งเป็นปลาไหลเสียบไม้ย่างถ่านหอมๆ และเมนูที่ต้องพูดถึงคือ “อูนางิทามาดง” ที่เสิร์ฟปลาไหลย่างและไข่หวานชิ้นหนาใหญ่จนดูเหมือนภูเขาไฟ พร้อมข้าวที่หุงด้วยซอสปลาไหล สามารถเพิ่มปริมาณได้ฟรีถึง 700 กรัม (หรือรวมน้ำหนักกว่า 1.1 กิโลกรัม) ซึ่งดึงดูดทั้งนักชิมชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาลิ้มลองความอลังการนี้
เมนูแนะนำของร้าน Izumo Ikebukuro
1. Towering Eel and Egg Rice Bowl = ข้าวหน้าปลาไหลและไข่ยักษ์
2. Overflowing Eel and Beef Bowl = ข้าวหน้าปลาไหลเนื้อล้น
3. Extreme Unaju = ข้าวหน้าปลาไหลกับไข่หวาน
4. Extra Large Eel = ข้าวหน้าปลาไหลขาดใหญ่พิเศษ
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:30 น. ถึง 23:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,720 เยน (370 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/igp6jaJhcpCjMz4x8
79. Unagi Yoshikawa (Ikebukuro) | ย่าน Ikebukuro

ร้าน Unagi Yoshikawa (Ikebukuro) เป็นร้านข้าวหน้าปลาไหล (Unagi) ตั้งอยู่ในย่านอิเกบูกูโระ (Ikebukuro) เมืองโตเกียว อยู่ไม่ไกลจากสถานีอิเคะบุคุโระเพียงไม่กี่นาที เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญด้านปลาไหลย่าง ซึ่งโดดเด่นในเรื่องของรสชาติที่อร่อยและราคาที่สมเหตุสมผล ทำให้เป็นตัวเลือกที่เข้าถึงง่ายสำหรับผู้ที่ต้องการลิ้มลองข้าวหน้าปลาไหลคุณภาพดี เมนูปลาไหลของร้านที่ขึ้นชื่อว่ามีขนาดใหญ่กว่าปกติถึง 1.5 เท่า ทำให้ได้สัมผัสกับเนื้อปลาไหลที่หนา นุ่ม และชุ่มฉ่ำเต็มคำ
จุดเด่นของร้าน Unagi Yoshikawa (Ikebukuro) คือ เมนูที่ถูกกล่าวถึงและได้รับความนิยมอย่างสูง อย่างเมนู “อูนากามา-จู” (Unatama Juu) ซึ่งเป็นข้าวหน้าปลาไหลที่เสิร์ฟพร้อมไข่ม้วนดาชิ (Dashi Omelet) ฟู ๆ โดยใช้ไข่ถึง 4 ฟอง และมีปลาไหล 1/2 ตัววางอยู่ด้านบนอย่างสวยงาม ปลาไหลย่างอย่างพิถีพิถันจนมีเนื้อที่นุ่ม ชุ่มชื้น และมีไขมันกำลังดี ผสานกับซอสสูตรเฉพาะที่ผสานความหวานของน้ำซุปปลาโบนิโตและน้ำตาลทรายแดง ทำให้รสชาติกลมกล่อม ไม่หนักจนเกินไป และเข้ากันได้ดีกับไข่ม้วนที่มีรสหวานอ่อน ๆ อย่างลงตัว คุ้มค่ากับราคาเมื่อเทียบกับคุณภาพและปริมาณของปลาไหลที่ได้รับ
เมนูแนะนำของร้าน Unagi Yoshikawa (Ikebukuro)
1. Unaju (Grilled eel on rice) [Matsu]
2. Unaju (Grilled eel on rice) [Take]
3. Unaju (plum)
4. Unatamaju (1 eel)
5. Fuji Unadon
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 11:00 น. ถึง 00:00 น. (เที่ยงคืน)
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,600 เยน (340 บาท)
พิกัด: Unagi Yoshikawa (Ikebukuro) https://maps.app.goo.gl/GeyVVxTkXXT2mPyKA
Unagi Yoshikawa Shibuya branch https://maps.app.goo.gl/vXbTj1yKi5o4K11H6
80. WAGYU BURGER HIROKIYA | ย่าน Roppongi

ร้าน WAGYU BURGER HIROKIYA เป็นร้านเบอร์เกอร์วากิว พรีเมียมในย่านรปปงงิ (Roppongi) ของโตเกียว เป็นร้านเบอร์เกอร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเน้นวัตถุดิบคุณภาพสูงสุด อย่างเนื้อวากิวญี่ปุ่นที่คัดสรรมาอย่างดี ที่ร้านใช้เนื้อวากิวญี่ปุ่นระดับ A5 100% ในการทำแพตตี้เบอร์เกอร์โดยเฉพาะ โดยเนื้อจะถูกนำมาบดในตอนเช้า และไม่ใส่สารปรุงแต่งใดๆ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสรสชาติ เนื้อสัมผัส ความหอม และความชุ่มฉ่ำของเนื้อวากิวแท้ ๆ อย่างเต็มที่ ซึ่งจะแตกต่างจากเบอร์เกอร์เนื้อบดทั่วๆไป เมนูซิกเนเจอร์ที่ได้รับความนิยมคือ THE HIROKIYA BURGER ที่เน้นความอร่อยบริสุทธิ์ของเนื้อวากิว
จุดเด่นของ WAGYU BURGER HIROKIYA คือ การยกระดับเบอร์เกอร์ให้กลายเป็นอาหารระดับพรีเมียมด้วยการใช้เนื้อวากิว A5 คุณภาพสูงสุด เนื้อแพตตี้ (Patty) ถูกปรุงด้วยเทคนิคที่เน้นการ ล็อคความฉ่ำและรสชาติ ไว้ภายในตัวเนื้อ ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่แน่นแต่นุ่มละมุนลิ้นราวกับกำลังทานสเต็กคุณภาพเยี่ยม ตัวเบอร์เกอร์ซิกเนเจอร์อย่าง “THE HIROKIYA BURGER” ที่ดึงรสชาติเนื้อวากิวออกมาได้อย่างสุดๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูไฮไลต์อื่นๆ เช่น “CHEESE BOMB BURGER” ที่เยิ้มไปด้วยชีส หรือ “THE UMAMI TARTAR TERIYAKI” ที่มีซอสเทริยากิสูตรพิเศษและทาร์ทาร์ซอสที่เข้ากันอย่างลงตัว การันตีได้ว่าเบอร์เกอร์ของที่นี่เป็นการผสมผสานระหว่างแก่นแท้ของยากินิกุเข้ากับความลงตัวของเบอร์เกอร์ ได้อย่างลงตัว
เมนูแนะนำของร้าน WAGYU BURGER HIROKIYA
1. THE HIROKIYA BURGER (Signature)
2. THE UMAMI TARTAR TERIYAKI
3. CHEESE BOMB BURGER
4. THE HIROKIYA AVOCADO BURGER
5. THE UMAMI TARTAR AVOCADO TERIYAKI
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 12:00 น. ถึง 21:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,200 เยน (470 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/DYh97coGm1u5ZCrq7
บทความที่เกี่ยวข้อง
ตะลุยกิน 23 ร้านอาหารเกียวโต ร้านเด็ดร้านดัง บรรยากาศดี วิวสวย ที่ไม่ควรพลาด
รวม 35 ร้านอาหารโอซาก้า อาหารญี่ปุ่น ปิ้งย่าง ชาบู ซูชิ ห้ามพลาด















