เกียวโต (Kyoto) 

,

คันไซ (Kansai)

อามาโนะฮาชิดาเตะ สะพานสู่สวรรค์ 1 ใน 3 ทิวทัศน์ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเกียวโต หลายคนอาจจะนึกวัดคินคาคุจิ หรือวัดทองที่โด่งดัง วัดคิโยมิซุซึ่งคนไทยรู้จักกันในชื่อของวัดน้ำใส ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริที่หลายๆ คนชอบไปถ่ายรูป หรือป่าไผ่อาราชิยาม่าที่โด่งดังกันในโซเชียล เรียกได้ว่าเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย และเป็นหนึ่งในสามจังหวัดในญี่ปุ่นที่คนไทยนิยมไปกันมากที่สุด แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่เรากล่าวไปด้านต้นแล้ว จังหวัดเกียวโตยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือ อามาโนะฮาชิดาเตะ สะพานสู่สวรรค์ 1 ใน 3 ทิวทัศน์ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในญี่ปุ่นนั่นเอง

ทำความรู้จักกับ อามาโนะฮาชิดาเตะ

อามาโนะฮาชิดาเตะ

อามาโนะฮาชิดาเตะ (Amanohashidate) เป็นหาดสันทรายธรรมชาติที่มีความยาวประมาณ 3.6 กิโลเมตร ซึ่งพาดระหว่างกลางอ่าวมิยาซุ ซึ่งสันทรายนี้ก็ไม่ใช่สันทรายเปล่าๆ แต่ทั้งเส้นทางนี้ถูกปกคลุมด้วยต้นสนประมาณ 8,000 ต้น ก่อเกิดเป็นทิวทัศน์ตระการตา จนได้ขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 ทิวทัศน์ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น (日本三景) มาตั้งแต่โบราณ และได้รับการพูดถึงในตำราและบทกวีโบราณของญี่ปุ่นมาอย่างยาวนานต่อเนื่องเกือบหนึ่งพันปี

ซึ่งที่มาของชื่อ Amanohashidate นี้ มีความหมายตามตัวอักษรว่า “สะพานสู่สวรรค์” โดยตามตำนานญี่ปุ่นได้กล่าวไว้ว่า เทพโบราณนามว่า “อิซานางิ” ได้สร้าง “สะพาน” เพื่อเชื่อมระหว่างสวรรค์กับโลกมนุษย์ เพื่อจะลงมาหาเทพี “อิซานามิ” ซึ่งอยู่บนโลก แต่ระหว่างที่เทพอิซานางิกำลังพักผ่อน สะพานนั้นก็พังลงมา และตกลงมายังพื้นโลก กลายเป็นแผ่นดินที่ทอดยาวอยู่กลางทะเล ซึ่งสะพานแห่งนั้นก็คือ Amanohashidate นั่นเอง

อามาโนะฮาชิดาเตะ

ซึ่ง Amanohashidate นั้น ไม่ใช่แค่มองได้สวยๆ  เพียงอย่างเดียว แต่เราสามารถเดินลงไปเดินเล่นและเยี่ยมชมวิวบนเนินทรายแห่งนี้ได้ด้วย ซึ่งกิจกรรมยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวนิยมทำกันก็คือการเช่าจักรยานปั่นเล่นบนเนินทรายแห่งนี้ ซึ่งระหว่างทาง คุณก็จะได้เห็นวิวท้องทะเลสีฟ้าคราม ตัดกับต้นสนสีเขียวซึ่งมีอยู่ตลอดทางเนินทรายแห่งนี้ เป็นทิวทัศน์ที่จะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม

นอกจากกิจกรรมปั่นจักรยานอันนี้ บริเวณ Amanohashidate  แห่งนี้ก็มีกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวให้คุณได้เยี่ยมชมอีกเพียบ จะมีอะไรกันบ้าง เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

Amanohashidate View Land

Amanohashidate View Land

ถ้าคุณเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้าสาย JR สถานี Amanohashidate ในบริเวณใกล้ๆ นั้นคุณก็จะได้พบกับ Amanohashidate View Land จุดชมวิวบนภูเขาและสวนสนุกเล็กๆ ซึ่งสามารถเดินเท้าหรือนั่งเคเบิลคาร์ขึ้นมาได้ สำหรับที่นี่ ถือเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่ดีที่สุดในการรับชมวิวทิวทัศน์ของ Amanohashidate จากมุมสูง 

สำหรับที่นี่ นอกจากการเป็นจุดชมวิวจากมุมสูงที่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เต็มไปหมดแล้ว ที่นี่ยังเป็นสวนสนุกเล็กๆ ที่มีเครื่องเล่นน่ารักๆ อย่างเช่นชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน และรถบั๊มบ์ให้คุณหรือเด็กๆ เล่นอีกด้วย และที่พลาดไม่ได้ก็คือ มุมถ่ายรูปอันเป็นซิกเนเจอร์ที่ให้คุณได้ลองก้มตัวลงมองลอดใต้หว่างขา ซึ่งจากมุมนี้ คุณจะได้เห็น Amanohashidate เป็นภาพราวกับมังกรพุ่งทะยานขึ้นสู่สวรรค์ ถ้าคุณมีโอกาสได้มาที่นี่ ก็อย่าพลาดที่จะถ่ายรูปท่านี้ดูนะ

Chionji Temple

Chionji Temple

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญซึ่งตั้งอยู่บริเวณจุดชมวิว Amanohashidate  วัดพุทธแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าของ Amanohashidate สำหรับวัดแห่งนี้ นอกจากสถาปัตยกรรมที่งดงามแล้ว ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องการขอพรให้ฉลาดและการสอบเข้าโรงเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัย ทำให้ทุกครั้งเมื่อคุณมาที่นี่ คุณจะได้พบกับเด็กนักเรียนและครอบครัวจูงมือกันมาขอพรเต็มไปหมด สาเหตุที่เป็นแบบนี้ เพราะวัดแห่งนี้เป็นที่ประทับของพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ เทพแห่งสติปัญญาผู้คุ้มครองคุ้มครองนักปราชญ์ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของหลุมศพของอิซูมิ ชิกิบุ เป็นกวีหญิงผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคเฮอัน อาจจะด้วยสาเหตุนี้เอง ทำให้ที่นี่เป็นที่ที่ฮิตสุดๆ ในหมู่คนที่ต้องการขอพรเรื่องการสอบเข้า ดังนั้นคนไหนที่อยากสมหวังเรื่องการขอพรเรื่องการเรียน บอกเลยว่าอย่าพลาดเป็นอันขาด

Kaisenkyou

Kaisenkyou

แม้ว่า Amanohashidate จะเป็นที่รู้จักในชื่อหาดสันทรายธรรมชาติที่มีความยาวประมาณ 3.6 กิโลเมตร แต่ก็ใช่ว่ามันจะเป็นเส้นทางสันทรายยาวๆ ติดกันไปเลย เพราะบริเวณทางเข้าซึ่งใกล้กับวัด Chionji Temple มีส่วนที่เป็นช่องซึ่งแหว่งเป็นทางให้น้ำทะเลไหลถึงกันได้ ในปี 1923 จะได้มีการสร้างสะพานแห่งหนึ่งเพื่อใช้สัญจรไปมา แต่สะพานแห่งนี้ก็ไม่ใช่สะพานธรรมดา เป็นสะพานแห่งนี้่สามารถหมุนส่วนกลางของสะพานไปด้านข้างได้ถึง 90 องศาเพื่อให้เรือสามารถแล่นผ่านได้ และด้วยสาเหตุนี้เอง ที่ทำให้สะพานแห่งนี้มีชื่อว่า “Kaisenkyou” หรือแปลได้ตรงตามตัวอักษรว่า “สะพานหมุนได้” 

ด้วยความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครอย่างนี้เองทำให้สะพานนี้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของ Amanohashidate และมักเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย ซึ่งความพิเศษก็คือ สะพานแห่งนี้ยังมีการหมุนเปิดสะพานอยู่เรื่อยๆ ตลอดทั้งวัน ดังนั้นถ้าใครโชคดี คุณก็อาจจะได้เห็นสะพานแห่งนี้หมุนได้กับตาก็เป็นได้นะ 

Kasamatsu Park

อามาโนะฮาชิดาเตะ

และสุดท้าย เมื่อคุณเดินมาจนสุดทาง บริเวณด้านเหนือของสันทรายก็จะมีจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Kasamatsu Park สำหรับที่นี่จะถือเป็นจุดชมวิวเก่าแก่ของคนในเมือง โดยคุณสามารถเลือกที่จะขึ้นไปบนจุดชมวิวได้สองวิธีได้แก่เคเบิลคาร์หรือเก้าอี้แบบห้อยขา ซึ่งระหว่างทางขึ้นไปบนจุดชมวิว หากคุณมาที่นี่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง วิวสองข้างทางก็จะเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีไปจนถึงชั้นบน และเมื่อถึงจุดชมวิวแล้ว ความพิเศษของที่นี่คือมุมที่ส่องลงไปยัง Amanohashidate ตัวเนินทรายจะเป็นทำมุมเป็นแนวนอนเหมือนกับตัวอักษรคันจิญี่ปุ่น 一 ที่แปลว่าหนึ่งพอดี เรียกได้ว่าเป็นกิมมิกเท่ๆ อีกอย่างหนึ่งของที่นี่

การเดินทางมายัง อามาโนะฮาชิดาเตะ 

เนื่องจากตั้งอยู่ที่จังหวัดเกียวโตซึ่งเป็นจังหวัดที่คนไทยมักจะนิยมไปกันอยู่แล้ว แม้ที่นี่จะไกลจากโซนท่องเที่ยวหลักไปบ้าง แต่การเดินทางก็ไม่ได้ลำบากอะไร เพียงแค่นั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR สถานี Amanohashidate จากนั้นเดินต่ออีกประมาณไม่ถึง 300 เมตร คุณก็จะถึงเนินทรายสุดมหัศจรรย์แห่งนี้แล้ว 

เพิ่มเติมอีกนิด หากคุณเดินทางจากสถานีเกียวโต คุณก็สามารถนั่งรถด่วน Hashidate Limited Express เพื่อตรงมายังสถานี Amanohashidate ได้ทันทีโดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนอีกด้วย แม้ถ้ามองตามระยะทางอาจจะดูไกลไปสักหน่อย แต่ถ้าเทียบกับความประทับใจแล้ว เรียกได้ว่าคุ้มแสนคุ้มจริงๆ 

ถ้าใครมาเกียวโตแต่เบื่อสถานที่ท่องเที่ยวเดิมๆ อย่าง วัดคินคาคุจิหรือป่าไผ่อาราชิยาม่า ลองมาชมวิวทิวทัศน์ที่ว่ากันว่าสวยที่สุดติดหนึ่งในสามในประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน 

Share :

บทความที่เกี่ยวข้อง

สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

บทความล่าสุด