รวม 23 ร้านอาหารเกียวโต ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินตลอดทั้งทริป ไม่ว่าจะเป็น ร้านยอดนิยม ร้านเด็ดร้านวิวสวย บรรยากาศดี หรือแม้แต่ร้านอาหารท้องถิ่นโตเกียว เรารวมมาไว้ให้ในบทความนี้แล้ว ครบจบทั้งของคาวของหวาน เตรียมกลืนน้ำลายเพราะนี้คือ บทความที่จะชวนคุณหิวไปกับ 23 ร้านอาหารเกียวโต ที่คุณไม่ควรพลาด!
ตะลุยกิน 23 ร้านอาหารเกียวโต อัปเดต 2025
1. Gyukatsu Kyoto Katsugyu | ย่าน Gion ย่าน Shijo Kawaramachi

ร้าน Gyukatsu Kyoto Katsugyu เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นระดับตำนาน ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของ “กิวคัตสึ (Gyukatsu)” หรือเนื้อวัวชุบเกล็ดขนมปังทอด อันดับ 1 ของญี่ปุ่น ที่จะเสิร์ฟมาเป็นเซ็ตแบบพรีเมี่ยม โดยร้านจะขึ้นชื่อในเรื่องของการคัดสรรเนื้อที่มีคุณภาพตามคอนเซปต์ “Single piece of beef” ร้านจะคัดเลือกเนื้อเฉพาะส่วนที่เหมาะแก่การนำมาทอด เพื่อให้ได้เนื้อที่อร่อย นุ่ม และมีความฉ่ำของไขมันที่กำลังพอดี มาพร้อมกับข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ ชื่อดังจากจังหวัดมิยากิ ที่หุงแล้วเมล็ดข้าวเรียงตัวสวยงาม ซุปอากะดาชิมิโสะ แกงกะหรี่สไตล์เกียวโต วาซาบิสด และสลัด และยังมีเบียร์ชาเขียวให้ลิ้มลองอีกด้วย
จุดเด่นของร้าน Gyukatsu Kyoto Katsugyu คือ มีเครื่องปรุงและซอสจิ้มหลากหลายชนิดที่จะช่วยดึงรสชาติของ กิวคัตสึ ออกมาให้เราได้เพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น ทางร้านจะแนะนำคำแรกด้วยการทานวาซาบิสดคู่กับดาชิโชยุ หลังจากนั้นให้เราสามารถเลือกสรรเครื่องปรุงหรือซอสต่างๆ ได้ตามความต้องการ โดยเครื่องปรุงจะประกอบไปด้วย
1. ดาชิโชยุ (ซอสถั่วเหลือง) รสชาติกลมกล่อม ทานคู่กับวาซาบิสดจะได้รสชาติที่คล้ายกับการทานซูชิ
2. เกลือ พริกไทยซันโซ จะช่วยดึงให้มีรสชาติและกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น
3. กิวคัตสึซอส ซอสสูตรพิเศษของทางร้าน รสชาติจะออกหวานๆ เค็มๆ ตัดเปรี้ยวนิดนึงเหมาะกับการกินของทอด
เคล็ดลับการทานให้อร่อยเหาะ จากคำแนะนำของเชฟ
1. “แกงเนื้อทอด” นำเนื้อวางบนข้าวแล้วราดด้วยแกงกะหรี่เนื้อแล้วทาน
2. “ข้าวใส่ไข่” นำไขออนเซ็นโปะลงบนข้าว ทานคู่กับข้าวร้อนๆ
3. “แกงกะหรี่โอชาซึเกะ” นำแกงกะหรี่ราดบนข้าวแล้วโปะด้วยวาซาบิสดตามความชอบ เป็นการปิดท้ายด้วยความสดชื่น
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 10:30 น. ถึง 22:00 น.
ราคา: เริ่มต้นประมาณ 2,000 – 3,000 เยน (400 – 600 บาท) ขึ้นอยู่กับเซ็ตที่เลือก
พิกัด: ย่าน Gion Yasaka https://maps.app.goo.gl/bYBiSD84kEjjzTZE9
พิกัด: ย่าน Shijo Kawaramachi https://maps.app.goo.gl/nMeMwzW9sZgozpSi9
2. Moritaya – Kiyamachi | ย่าน Gion

ร้าน Moritaya – Kiyamachi เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยเมจิ (1869) โดยร้านนี้จะเชี่ยวชาญด้าน สุกี้ยากี้ สเต็ก และชาบูชาบู โดยเมนูที่คนส่วนใหญ่ต่างก็อยากจะลิ้มลอง สุกี้ยากี้เนื้อวากิวคุณภาพสูง แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นสไตล์คันไซ หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ การรับประทานอาหารที่เต็มไปด้วยบรรยากาศธรรมชาติในเมืองเกียวโต ร้านนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด ร้านตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Kamogawa หากมาใช้บริการในช่วงหน้าหนาว คุณจะเพลิดเพลินไปกับวิวสวยของภูเขาโทชิโนะ และเสียงน้ำไหลเอื่อยๆ ฟิน ได้ซดของร้อนๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ร้านนี้แนะนำให้จองก่อนไปใช้บริการ
จุดเด่นของร้าน Moritaya – Kiyamachi คือ การเสิร์ฟ สุกี้ยากี้และชาบูชาบู ที่ใช้ เนื้อวากิวระดับพรีเมียม และบรรยากาศที่ผสมผสานความหรูหราแบบดั้งเดิมเข้ากับทิวทัศน์ที่สวยงามของเกียวโต ตัวร้านตั้งอยู่ในอาคารแบบเกียวโตโบราณ (Kyoto machiya) และมีห้องส่วนตัวที่มองเห็นวิวแม่น้ำคาโมะ (Kamo River) ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ร้านจะเปิดระเบียงริมน้ำ (Kawadoko) ให้ลูกค้าได้นั่งทานอาหารท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ พร้อมชมวิวแม่น้ำ
เมนูแนะนำของร้าน Moritaya – Kiyamachi
1. สุกี้ยากี้ (Sukiyaki) เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน ที่ใช้เนื้อวัววากิวคุณภาพสูง สไลซ์บาง ๆ แล้วย่างสุกในซอสหวานแบบคันไซ หลายๆ คนแนะนำให้จิ้มซฮสแล้วต่อด้วยการจิ้มไข่ดิบ จะได้รสชาติที่กลมกล่อมสุดๆ
2. ชาบูชาบู (Shabu-Shabu) เนื้อวากิวสไลซ์บางเสิร์ฟพร้อมผักสด สำหรับคนที่ชื่นชอบการจุ่มเนื้อลงในน้ำซุป และได้ซดน้ำร้อนๆ
3. สเต๊ก (Wagyu Steak) เนื้อวากิวหั่นหนา มีลายไขมันสวยงาม ถูกย่างอย่างพิถีพิถัน เสิร์ฟในห้องส่วนตัว ให้รสชาติเนื้อเข้มข้นและนุ่มละมุน
4. ออยล์-ยากิ Oilyaki (Oil-Grilled Beef) เนื้อสไลซ์กรอบนอกนุ่มใน ย่างบนกระทะเหล็ก เสิร์ฟพร้อมหัวไชเท้าฝอยสูตรเฉพาะของร้าน และผงเครื่องเทศเจ็ดชนิดของเกียวโต เพิ่มความหอมและเข้มข้น เป็นเมนูเนื้อติดมันผัดซอสที่คนญี่ปุ่นนิยมทาน
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: วันจันทร์ – ศุกร์ มื้อกลางวัน 11:30 น. ถึง 15:30 น. (สั่งได้ถึง 14.30 น.) มื้อเย็น 17:00 น. ถึง 22:00 น. (สั่งได้ถึง 21.00 น.)
วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เปิดต่อเนื่องตั้งแต่ 11.30 น. ถึง 22.00 น. (สั่งได้ถึง 21.00 น.)
ราคา: ราคาประมาณ 6,600 – 15,400 เยน (ประมาณ 1,500 – 3,500 บาท) ขึ้นอยู่กับเมนูที่เลือก
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/yK2LqHqX4QfaSsbcA
3. Kyoto Yakiniku enen Pontocho สาขาแรก

ร้าน Kyoto Yakiniku enen Pontocho เป็นร้านยากินิกุ (ปิ้งย่างญี่ปุ่น) สไตล์สร้างสรรค์ สุดครีเอทีฟ เป็นร้านยากินิกุ ที่เน้นความพรีเมียม เช่น เนื้อ A5-grade Kuroge Wagyu (เนื้อวัวดำญี่ปุ่นระดับ A5) และเสิร์ฟอาหารที่ใส่ความสร้างสรรค์ในสไตล์ “French touch” เป็นการผสานวัฒนธรรมฝรั่งเศส กับแนวยากินิกุได้อย่างลงตัว บรรยากาศภายในร้านมีเสน่ห์ มีการตกแต่งร้านหลากหลายสไตล์ นอกเหนือจากนั้นอาหารแต่ละจานก็จะถูกผสมผสานความสร้างสรรค์กับความคลาสสิคของย่าน Pontocho เอาไว้ด้วย เมนูที่เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน Wagyu Temari Sushi (ซูชิโบริมน้ำเนื้อวากิว) และ “Taste Comparison Series” เช่น Yukke Donburi, Steak Donburi และ Sukiyaki ที่ได้รับความนิยม
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: วันจันทร์ – ศุกร์ มื้อกลางวัน 11:00 น. ถึง 14:00 น. (สั่งได้ถึง 13:30 น.) มื้อเย็น 17:00 น. ถึง 22:00 น. (สั่งได้ถึง 21:30 น.)
วันเสาร์ – อาทิตย์ เปิดเฉพาะมื้อเย็น 17:00 น. – 22:00 น. (สั่งได้ถึง 21:30 น.)
ราคา: เริ่มต้นประมาณ 1,580 เยน (350 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/7YrF1Jpa8wNRZ3rc6
4. Kyoto Yakiniku enen Shijo Kawaramachi สาขาสอง

ร้าน Kyoto Yakiniku enen Shijo Kawaramachi สาขาสอง เป็นร้านยากินิกุ (ปิ้งย่างญี่ปุ่น) ภายในร้านสาขาสอง จะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในร้านเนื้อย่างสไตล์เกาหลี บรรยากาศแคมปิ้งในร่ม ภายใต้คอนเซปต์ของร้าน “ROOM CAMPING enen” ท่ามกลาง บรรยากาศสบายๆ ด้วยการตกแต่งร้านที่เรียกว่า “Adult campsite” สไตล์ให้ความรู้สึกอบอุ่น แต่เต็มไปด้วยความสนุกเป็นกันเอง แตกต่างจากสาขาแรก ที่จะเน้นความคิดสร้างสรรค์ ทำให้ชวนตื่นเต้นตั้งแต่ก้าวเข้าร้าน เป็นร้านอาหาร A la Carte มีทั้งแบบเนื้อย่าง และเนื้อดิบ พนักงานพูดอังกฤษได้
เมนูแนะนำของร้าน Kyoto Yakiniku enen Shijo Kawaramachi
1. A5 Wagyu (Kuroge Wagyu) เน้นใช้เนื้อวากิวคุณภาพสูง เสิร์ฟในสไตล์ Yakiniku ที่ปรุงเองที่โต๊ะ
2. enen course ประกอบด้วยหลากหลายจานเนื้อนำเสนอความเป็นเนื้อวากิว อย่างสร้างสรรค์ ราคาอยู่ที่ประมาณ 7,700 เยน
3. Wagyu Temari Sushi (ซูชิวากิวลูกบอลญี่ปุ่น) เป็นเมนูหนึ่งในไฮไลท์ เป็นเมนูแปลกใหม่เฉพาะที่นี้
4. Wagyu Hamburger Steak Tasting เมนูมื้อกลางวันที่ให้ลูกค้าสามารถปิ้งหรือปรุงเองได้ตามใจชอบ
5. ช่วงฤดูร้อนถึงฤดูใบไม้ร่วง ร้านมี Roof‑top Beer Garden ให้ได้เพลิดเพลินกับบาร์บีคิวใต้ท้องฟ้า
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: วันจันทร์ – ศุกร์ มื้อกลางวัน 11:00 น. ถึง 14:00 น. (สั่งได้ถึง 13:30 น.) มื้อเย็น 17:00 น. – 22:00 น. (สั่งได้ถึง 21:30 น.)
วันเสาร์ – อาทิตย์ เปิดเฉพาะมื้อเย็น 17:00 น. – 22:00 น. (สั่งได้ถึง 21:30 น.)
ราคา: เริ่มต้นประมาณ 1,580 เยน (350 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/h9Ja5xTWGNFNq5s68
5. Gion Duck Rice Kyoto | ย่าน Gion

ร้าน Gion Duck Rice เป็นร้านข้าวหน้าเป็ด ระดับพรีเมี่ยม จากเกียวโต เมนูข้าวเป็ดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมอาหารแบบดั้งเดิม ของย่าน Gion โดยผสมผสานวัตถุดิบคุณภาพสูง เทคนิคการปรุงแบบญี่ปุ่น แบบที่คุณไม่เคยทานที่ไหนมาก่อน เป็นข้าวหน้าเป็ดกึ่งฟิวชั่น เป็ดที่ใช้มักจะเป็นเป็ดญี่ปุ่น ที่มาจาก Kamo หรือ Aigamo ซึ่งจะมีรสชาติเข้มข้น และมันน้อย ผ่านการย่าง หรืออบจนหนังกรอบ แต่เนื้อยังนุ่มชุ่มฉ่ำเด้ง ส่วนข้าวที่ใช้จะเป็นข้าวจากแหล่งปลูกที่มีชื่อเสียง เช่น ข้าว Koshihikari ที่มีความหนึบนุ่ม หอม และเข้ากับเนื้อเป็ดได้อย่างลงตัว Gion Duck Rice ไม่ใช่แค่เมนูอาหาร แต่เป็น “เรื่องราว” ที่สะท้อนถึงศิลปะ วัฒนธรรม และความพิถีพิถันของเกียวโตอย่างแท้จริง
จุดเด่นของร้าน Gion Duck Rice คือ เมนูยอดฮิตอย่าง สึมะบุชิ (Hitsumabushi) ข้าวหน้าเป็ดที่มีวิธีการกินถึง 3 แบบ ทำให้รู้สึกถึง 3 ความอร่อยในชามเดียว โดยร้านจะเสิร์ฟมาพร้อมกับเบนิโตะกับน้ำซุป ที่มาในรูปแบบกาแฟดริป และผักดอง จะทานแบบแห้ง หรือทานเป็นแบบข้าวต้มก็ได้
ความน่ารักของร้านนี้ จะใช้ “อิโมจิ” บ่งบอกรายละเอียดแต่ละเมนู ซึ่งจะมีให้เลือกอยู่ 3 เมนูหลักๆ คือ
1. 🦆 + 🍚 = เนื้ออก/เนื้อสะโพกเป็ด + ข้าว (2,250 เยน)
2. 🦆 + 🍚 + อูนิ + ไข่ปลาแซลมอน = เนื้ออก/เนื้อสะโพกเป็ด + ข้าว + อูนิ +ไข่ปลา (2,850 เยน)
3. 🦆 + 🍚 + 😋 = เนื้ออก + เนื้อสะโพกเป็ด + ข้าว (3,950 เยน)
และยังสามารถเพิ่ม Topping ไม่ว่าจะเป็น อูนิ ไข่ปลาแซลมอนได้อีกด้วยถ้าหากยังฟินไม่มากพอ!
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 10:00 น. ถึง 21.30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,250 เยน (500 บาท) ขึ้นอยู่กับเมนูที่เลือก
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/J9B626phDb7kN6YA8
6. Halal Wagyu Ramen & Yakiniku GYUMON Kyoto Gion | ย่าน Gion

ร้าน Halal Wagyu Ramen & Yakiniku GYUMON Kyoto Gion เป็นร้านอาหารฮาลาล ที่มีการรับรองฮาลาลในทุกขั้นตอน ทั้งวัตถุดิบและวิธีการปรุง โดดเด่นในเรื่องของเนื้อวากิว A5 ฮาลาลคุณภาพสูงที่หาได้ยากในตลาดทั่วไป ที่ร้านจะมีทั้งเมนู Yakiniku (ปิ้งย่าง) และ Ramen (ราเมง) ให้ลิ้มลอง จะเป็นเซ็ตเนื้อกับข้าว หรืออยากทานเซ็ตเนื้่อกับราเมงก็มีให้เลือก เป็นอีกหนึ่งร้านที่มีคะแนนรีวิวสูงมาก ภายในร้านจะมี Prayer Space (ห้องละหมาด) เพื่อรองรับลูกค้าชาวมุสลิม ช่วยให้นักท่องเที่ยวมุสลิมสามารถละหมาดได้สะดวก
จุดเด่นของร้าน Halal Wagyu Ramen & Yakiniku GYUMON Kyoto Gion คือ การใช้เนื้อวากิวญี่ปุ่นคุณภาพสูงระดับ A5 ซึ่งเป็นเนื้อที่หาได้ยากและขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มละลายในปาก Beef Marbling Score 12 ถือเป็นลายหินอ่อนที่สวยงามที่สุด
เมนูแนะนำของร้าน Halal Wagyu Ramen & Yakiniku GYUMON Kyoto Gion
1. Wagyu Ramen & Yakiniku Set เซ็ตเริ่มต้นที่ผสมผสานราเมงกับปิ้งย่าง เนื้อ A5 ฮาลาล คุณภาพสูง ในราคาเข้าถึงได้จึงเป็น เซ็ตยอดนิยม
2. Sirloin Wagyu Ramen & Yakiniku Set ราคาสูงขึ้นมาหน่อย แต่ได้เนื้อสันใน (Sirloin) หอม และมีความนุ่มเด่น สำหรับสายเนื้อระดับพรีเมียม
3. Premium Set และ Special Set เป็นตัวเลือกสุดหรูหรา ภายในเซ็ตจะใช้วัตถุดิบคุณภาพคัดพิเศษ
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 12:00 น. ถึง 23.00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 7,000 เยน (1,500 บาท) ขึ้นอยู่กับเมนูที่เลือก
พิกัด: GYUMON Kyoto https://maps.app.goo.gl/1Lc7qbVgbMDfrNya8
7. Kyoto Tempura Ten no Meshi Gionhonten | ย่าน Gion

ร้าน Kyoto Tempura Ten no Meshi Gionhonten เป็นร้านอาหารเทมปุระสไตล์ญี่ปุ่น ที่ตั้งอยู่ในย่านกิออน (Gion) อันมีชื่อเสียงของเกียวโต เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2024 ด้วยคอนเซ็ปท์ที่น่าสนใจ “Tempura-tainment” หรือการเสิร์ฟประสบการณ์เทมปุระพร้อมความบันเทิงให้กับลูกค้า เปิดเพียงได้ไม่นานแต่ได้รับความนิยมอย่างมาก จุดเด่นของร้าน คือ การทำเทมปุระสดใหม่ตรงหน้าโดยเชฟ ที่เรียกว่า “Omotenashi Masters” ปรุงให้เห็นทุกขั้นตอน ตั้งแต่ทอดจนเสิร์ฟ และข้าวที่หุงด้วยหม้อเหล็ก (Hagama) ช่วยเพิ่มความหอมและรสชาติที่ดียิ่งขึ้น ทำให้เข้ากันอย่างลงตัวกับเทมปุระ
จุดเด่นของร้าน Kyoto Tempura Ten no Meshi Gionhonten คือเมนู “เท็นเมชิ” (Ten no Meshi) ซึ่งเป็นข้าวหน้าเทมปุระสูตรพิเศษที่ราดด้วยซอสหวานเค็มเข้มข้นที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน เทมปุระจะถูกจัดวางอย่างสวยงามบนข้าวที่หุงอย่างดี
เมนูแนะนำของร้าน Kyoto Tempura Ten no Meshi Gionhonten
1. Shrimp Tempura Sushi เมนูกุ้งเทมปุระบนข้าวราดซอสเฉพาะของร้าน
2. Miraculous Sweet Potato เมนูมันหวานเทมปุระที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความหวานและเนื้อสัมผัสที่ละมุน
3. Shrimp Tempura Rice Bowl bound with Egg เมนูเทมปุระกุ้งคลุกไข่ ราดซอสสูตรพิเศษ
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 12:00 น. ถึง 23.00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 3,000 เยน (650 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/AA5iFAydppvAjZe78
8. Ramen Miyako Gion Main Shop | ย่าน Gion

ร้าน Ramen Miyako Gion Main Shop (らぁ~めん京 祇園本店) เป็นร้านราเมงยอดนิยมในย่านกิออน จุดเด่นของร้านนี้จะอยู่ที่ซุปไก่เป็นสูตรเข้มข้น มาพร้อมกับเส้นที่ถูกออกแบบมาให้มีความ “Chewy” แบบมีความเหนียวนุ่ม เข้ากับซุปได้ดี เมนูพิเศษเฉพาะ สาขาหลักในกิออน คือ “Rich Char Siu Ramen” ที่ใช้ซอสหมูตุ๋นเพิ่มความเข้มข้น และเนื้อหมูชาชูแบบหนาให้สัมผัสนุ่มลิ้น และยังมีชุดอาหารเสริม ที่ให้จัดมาครบ ทั้ง ข้าวผัด (Fried Rice) ใช้ข้าวคุณภาพสูงจาก “Yayoime Gihei” และ ไก่ทอด (Japanese fried chicken) ที่กรอบนอกนุ่มใน
จุดเด่นของร้าน Ramen Miyako Gion Main Shop คือ เมนูชาชูราเมง (Chashu Ramen) ซึ่งมีเฉพาะที่สาขากิออนเท่านั้น โดยจะใส่เนื้อหมูชาชูชิ้นหนาที่ผ่านการเคี่ยวจนนุ่มละลายในปากอย่างไม่จำกัด ทำให้เป็นที่ถูกใจสำหรับคนรักเนื้อหมูชาชูเป็นอย่างมาก
เมนูแนะนำของร้าน Ramen Miyako Gion Main Shop
1. White Miso Ramen = ราเมงซุปมิโซะขาว
2. Miyako Ramen = ราเมงซุปเข้มข้นของร้าน
3. Fried dumpling and fried chicken set = ชุดเกี๊ยวซ่า กับ ไก่ทอด
4. Rice with roast pork on the top = ข้าวหมูตุ๋น
5. Wagyu Striploin steak ramen = ราเมงสเต็กเนื้อวากิว
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: วันจันทร์, อังคาร, พุธ, พฤหัสบดี และวันอาทิตย์: เปิด 11:00 น. ถึง 22:00 น. (รับออร์เดอร์สุดท้าย เวลา 21:30 น.)
วันศุกร์และวันเสาร์: เปิด 11:00 น. ถึงตี 3 ของอีกวัน (รับออร์เดอร์สุดท้ายเวลา 02:30 น.)
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 เยน (220 บาท) ขึ้นอยู่กับเมนูที่เลือก
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/63PF2TEwEJZuEh218
9. KYOTO ENGINE RAMEN | ย่าน Shinkyogoku

ร้าน KYOTO ENGINE RAMEN ร้านราเมงสไตล์ญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักในด้านราเมง มังสวิรัติและไร้กลูเตน ชื่อร้านมีต้นกำเนิดและแรงบันดาลใจมาจากเมืองเกียวโต โดยคำว่า “Engine” สื่อถึงพลังงาน ความร้อน หรือความดุดันของรสชาติ ที่ใช้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของทางร้าน โดยเสิร์ฟราเมงสูตรเข้มข้น กลิ่นหอมแรง ใช้เทคนิคการปรุงแบบ “ไฟแรงสูง” (Wok-Hei หรือ Fire Ramen Style) ทำให้มีความหอมกลิ่นควันเหมือน “ราเมงย่างไฟ” และใช้ซุปกระดูกหมูเข้มข้น หรือซุปเผ็ดสไตล์ บางสาขามีโชว์การทำราเมงที่มีเปลวไฟพุ่งขึ้นอีกด้วย แสดงให้เห็นถึง ราเมงที่มีสไตล์ดุดัน
เมนูแนะนำของร้าน KYOTO ENGINE RAMEN
1. The Kyoto Zesty Ramen – ราเมงซุปเผ็ดรสจัดที่มีรสชาติเปรี้ยวและเผ็ดร้อนอย่างลงตัว เมนูขายดีอันดับ 1
2. Kyoto BEANing Ramen – ราเมงซุปถั่วเหลืองเข้มข้นที่มีรสชาติกลมกล่อม โดยใช้วัตถุดิบหลักจากถั่วเหลืองและข้าว เพื่อให้ได้รสชาติที่นุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ เมนูขายดีอันดับ 2
3. Zesty Ramen for Vegan – ราเมงมังสวิรัติ ซุปเผ็ดรสจัดที่มีรสชาติเปรี้ยวและเผ็ดร้อนอย่างลงตัว ไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยม และเป็นเมนูขายดีอันดับ 3 ของร้าน
4. Genuine Miso Ramen – ราเมงซุปเข้มข้นแบบมิโสะสไตล์ครีมมี่ ได้รับคำชมว่าเป็นที่สุดของราเมง
ทุกเมนู สามารถเปลี่ยน Ramen เป็น Gluten‑Free Ramen ได้ แต่ต้องจ่ายเพิ่ม 200 เยน เป็นราเมงที่ไม่มีส่วนผสมของกลูเตน (gluten-free) เหมาะสำหรับผู้ที่ทานมังสวิรัติแบบเคร่งครัด
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 12:00 น. ถึง 22.30 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,400 เยน (300 บาท) ขึ้นอยู่กับเมนูที่เลือก
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/QugiHTPekShCkyAY8
10. Ichiran Ramen Kyoto | ย่าน Shijo Kawaramachi

ร้าน Ichiran Ramen Kyoto ร้านราเมงชื่อดังของญี่ปุ่น ที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ หรือที่เรารู้จัก “ราเมงข้อสอบ” ร้านนี้จะเด่นในเรื่องของ ราเมงกระดูกหมูที่เข้มข้น รสชาติเข้มข้นแบบต้นตำรับ และ ราเมงทงคตสึ (Tonkotsu Ramen) สามารถเลือกได้ตามความต้องการ ถ้าหากเป็นคนชอบทานเส้น สามารถสั่งเพิ่มเส้นได้เอาให้จุใจกันไปเลย
จุดเด่นของร้าน Ichiran Ramen Kyoto คือ การทานราเมงที่เน้นความเป็นส่วนตัว สามารถปรับราเมงได้ตามใจชอบ น้ำซุปและซอสสูตรลับเฉพาะของร้าน
เมนูแนะนำของร้าน Ichiran Ramen Kyoto
1. Natural Tonkotsu Ramen (天然とんこつラーメン) – รสชาติเข้มข้นจากน้ำซุปกระดูกหมูธรรมชาติ (ไม่ใส่ผงปรุง)
2. Sekitan no Tare หรือ Red Secret Sauce – ซอสลับสีแดงสูตรพริกกว่า 30 ชนิด เพิ่มได้ถึง 10 เท่า
3. Extra Garlic Ramen – สามารถสั่งกระเทียมเพิ่มได้หากใครชอบทานกระเทียมเยอะๆ
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน วันจันทร์-วันเสาร์ ตั้งแต่ 9:00 น. ถึง 22.00 น.
วันอาทิตย์ 0:00 น. – 22:00 น. (ตั้งแต่เที่ยงคืนวันอาทิตย์ไปจนถึง 4 ทุ่มของวันอาทิตย์)
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,080 เยน (235 บาท) ขึ้นอยู่กับเมนูที่เลือก
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/KFYqyBSmjz7ya1fa7
11. Chao Chao Gyoza | ย่าน Shijo Kawaramachi

ร้าน Chao Chao Gyoza ร้านเกี๊ยวซ่า เป็นร้านอาหารชื่อดังในเกียวโต ที่โดดเด่นในด้านเกี๊ยวซ่าชั้นเลิศสูตรพิเศษ ที่รังสรรค์จากวัตถุดิบคุณภาพสูง มีไส้ทั้งแบบมังสวิรัติและเนื้อสัตว์ มีทั้งแบบเมนูดั้งเดิม และแบบเมนูสร้างสรรค์ อย่างเช่น เกี๊ยวซ่าอุเมะพลัม (เกี๊ยวซ่าไส้บ๊วย) เกี๊ยวซ่าริซอตโต้ เกี๊ยวซ่าหนังไก่กรอบ และเกี๊ยวซ่าช็อคโกแลต ตอบโจทย์ผู้ทานหลากหลาย ทั้งมังสวิรัติและวีแกน เมนูซิกเนเจอร์ของร้านคือ เกี๊ยวซ่าเรียงติดกันเป็นแผ
จุดเด่นของร้าน Chao Chao Gyoza คือ กรรมวิธีการทอดที่เฉพาะตัวของร้าน ซึ่งทำให้เกี๊ยวซ่ามีผิวที่กรอบและมี “ปีก” ที่บางเฉียบสวยงาม ทำให้ได้รสสัมผัสที่แตกต่างจากเกี๊ยวซ่าร้านทั่วไป
เมนูแนะนำของร้าน Chao Chao Gyoza
1. Chao Chao Pork Gyoza – เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน เกี๊ยวสูตรพิเศษ สามารถสั่ง 16 ชิ้น หรือ 8 ชิ้นได้
2. Ume Plum Gyoza – เกี๊ยวซ่าอุเมะพลัม หรือเรียกว่า “เกี๊ยวซ่าไส้บ๊วย”
3. Chicken Mozzarella Cheese Gyoza – เกี๊ยวซ่าไก่มอสซาเรลล่าชีส
4. The Mushroom Risotto Gyoza – เกี๊ยวซ่าริซอตโต้เห็ด
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 14:00 น. ถึง 23.00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 เยน (220 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/ZoATUxZYQHhvW7jK8
12. Gyoza-dokoro Sukemasa – Takatsuji Main Shop ย่าน Shinkyogoku

ร้าน Gyoza-dokoro Sukemasa – Takatsuji Main Shop ร้านเกี๊ยวซ่า แบบดั้งเดิม ใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นเกียวโต เช่น กะหล่ำปลีจากฟุชิมิ หอม “Kujo scallion” และหมูโมจิ “Kyono-miyako Mochi-buta” โดยร้านนี้จะเน้นเมนูแบบดั้งเดิม เป็น Gyoza Set ที่มาพร้อมข้าว ซุปมิโสะ และเครื่องเคียง กับเกี๊ยวซ่านึ่งในน้ำซุปสูตรพิเศษ เหมาะสำหรับคนที่อยากทานเกี๊ยวซ่าสไตล์ดั้งเดิมของญี่ปุ่น
จุดเด่นของร้าน Gyoza-dokoro Sukemasa คือ รสชาติที่คงที่และเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานในหมู่คนท้องถิ่น ทำให้คุณได้สัมผัสกับรสชาติเกี๊ยวซ่าแบบต้นตำรับที่ไม่ปรุงแต่งมากจนเกินไป นอกจากนี้ น้ำจิ้มสูตรพิเศษของร้านก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับเกี๊ยวซ่าได้อย่างลงตัว
เมนูแนะนำของร้าน Gyoza-dokoro Sukemasa – Takatsuji Main Shop
1. Sukemasa Gyoza – เกี๊ยวซ่าทอด / นึ่ง ที่สุดของความพิเศษของร้าน มีทั้งแบบทอดกรอบๆ และนึ่งแบบนุ่มๆ
2. Gyoza Set A – เซ็ตเกี๊ยวซ่า 12 ชิ้น พร้อมข้าว และซุปมิโสะ
3. Gyoza Set B – เซ็ตเกี๊ยวซ่า 6 ชิ้น พร้อมข้าว และซุปมิโสะ
และยังมีเมนู ข้าวผัด (Chahan) ไก่ทอดคาราอาเกะ (Tori Karaage) ที่ลูกค้าส่วนใหญ่ต่างก็อยากให้ลิ้มลอง
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน มื้อเช้า-มื้อกลางวัน ตั้งแต่ 8:00 น. – 16:30 น. และมื้อเย็น 17:30 น. – 22:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000 เยน (440 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/54waUJDhQKt1fX5H9
13. Kacto | ย่าน Gion

ร้าน Kacto (カクト) คือ คาเฟ่ ร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นอเมริกัน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำคาโมะ (Kamo River) มีพื้นที่ให้นั่งทั้งแบบในร้านและระเบียงกลางแจ้งริมแม่น้ำ ที่ร้านจะเน้นเป็นอาหารอเมริกันสไตล์คลาสสิก ที่ผสมผสานสองวัฒนธรรม อย่างเช่น Wagyu burger, Uni risotto, Minced Katsu Sandwich, Black Sesame Panna cotta
เมนูแนะนำของร้าน Kacto Gion
1. Wagyu Beef Burger with Teriyaki Sauce and Hash Brown Fries เบอร์เกอร์เนื้อวากิว 100% เสิร์ฟในขนมปังทำจากยีสต์เบียร์ ราดซอสเทอริยากิ พร้อมมันฝรั่งทอดแบบ Hash Brown เป็นเมนูยอดนิยมของร้าน
2. Signature Buttermilk Pancakes เมนูแพนเค้กสไตล์อเมริกันที่ปรุงอย่างพิถีพิถันโดยใช้ บัตเตอร์มิลค์ ที่ทำให้แป้งมีความนุ่มฟูกว่าแพนเค้กทั่วไป
3. Smoked Salmon & Avocado Tartine with Tofu Mascarpone Cream ขนมปังปิ้งหน้าสโมคแซลมอนกับอะโวคาโด ราดด้วยครีมที่ทำจากเต้าหู้และมาสคาร์โปนชีส
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน มื้อเช้า-มื้อกลางวัน ตั้งแต่ 8:00 น. – 16:30 น. และมื้อเย็น 17:30 น. – 22:00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000 เยน (440 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/S7HLPgBpCimhvz379
14. Kameyamaya | ย่าน Arashiyama

ร้าน Kameyamaya เป็นร้านอาหารอิซากายะ สไตล์เรียบง่ายที่ตั้งอยู่ในย่านอาราชิยามะ เมืองเกียวโต ร้านอาหารพื้นบ้านที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Katsura (大堰川) ใกล้กับสะพาน Togetsukyo ที่นักท่องเที่ยวต่างก็มาถ่ายรูปกัน บรรยากาศของร้านค่อนข้างเรียบง่าย เหมือนบ้านโบราณ มีที่นั่งบนชั้นสองเป็นสไตล์ ทาทามิ (เสื่อญี่ปุ่น) และบางโซนเป็น ระเบียง semi‑outdoor ที่สามารถชมวิวแม่น้ำได้
เมนูแนะนำของร้าน Kameyamaya Arashiyama
1. Nishin Teishoku เมนูชุดปลา herring ปลาเนื้อนุ่ม รสเข้มข้น จนสามารถกินทั้งกระดูกได้เลย
2. Curry Udon / Tempura Soba เมนูแกงกะหรี่อุด้ง และเมนูเทมปุระโซบะ
3. Yudofu, Gyudon, Bento Sets เมนูพื้นบ้านอย่าง เต้าหู้ต้มในน้ำซุป (Yudofu) และ ข้าวหน้าเนื้อ (Gyudon) รสกลมกล่อม และชุดข้าวกล่องเบนโตะที่จัดมาอย่างน่ารับประทาน
4. Tanin Donburi เมนูข้าวหน้าเนื้อ + ไข่ ที่มาพร้อมน้ำซอสสูตรพิเศษของทางร้าน
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: วันจันทร์, อังคาร, พฤหัสบดี, ศุกร์, เสาร์ และอาทิตย์ เปิด 11:30 น. ถึง 14:30 น.
วันหยุด: ปิดทุกวันพุธ
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 เยน (220 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/iFN17K8atWnGEy8j6
15. Taisho HANANA | ย่าน Arashiyama

Taisho HANANA เป็นร้านอาหารขึ้นชื่อในย่านอาราชิยามะ เมืองเกียวโต โดดเด่นในเมนู “Tai Chazuke” หรือ “ข้าวราดชาปลากะพงแดง” เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน โดยร้านจะใช้ปลากะพงแดงสดใหม่ ที่ส่งตรงจากตลาดปลาในเกียวโต ไม่ใช่แค่การน้ำชามาราดลงบนข้าว แต่จริงๆ แล้วมีวิธีการกิน 3 ขั้นตอน
1. กินแบบปลาดิบ (sashimi) กับน้ำจิ้มงา (sesame sauce)
2. วางปลาลงบนข้าว แล้วกินแบบ “ดงบุริ”
3. ราดชาเขียวร้อนลงบนข้าว กลายเป็น “Ochazuke”
เมนูแนะนำของร้าน Taisho HANANA Arashiyama
1. Tai Chazuke Gozen (鯛茶漬け御膳) เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน ข้าวราดชาปลากะพงแดง
2. Hanana Gozen (はなな御膳) ชุดปลากะพงแดงหลากหลายสไตล์ในเซ็ตเดียว เช่น 1. ปลากะพงย่าง 2. ปลากะพงหมักซอส 3. ปลากะพงซาชิมิ 4.ปลากะพงทอดเสิร์ฟพร้อมกับ ซุปใส/มิโสะ ที่ต้มจากหัวปลา
3. ของหวานตามฤดูกาล เช่น วาราบิโมจิ (わらび餅) พุดดิ้งถั่วแดง และชาเขียวมัทฉะเย็นหรือร้อน
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 11:00 น. ถึง 15.30 น.
ราคา: เริ่มต้นประมาณ 2,000 – 3,000 เยน (430 – 650 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/XkiJFnpQsug6V4Bz7
16. Unagi Hirokawa | ย่าน Arashiyama

ร้าน Unagi Hirokawa (うなぎ屋 廣川) ร้านข้าวหน้าปลาไหล เป็นร้านอาหารชื่อดังที่เชี่ยวชาญเรื่อง ปลาไหลญี่ปุ่น (Unagi) ตั้งอยู่ในย่าน Arashiyama เมืองเกียวโต ถือเป็นหนึ่งในร้าน Unagi ระดับพรีเมียม ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งจากคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยร้านนี้จะใช้วิธีการย่างปลาไหลแบบดั้งเดิมสไตล์คันไซ (Kansai Style) คือ การย่างปลาไหลทั้งตัวแบบไม่นึ่ง จะได้กลิ่นหอมจากถ่านและผิวที่กรอบ พร้อมกับทาซอส “Tare” ที่ทางร้านเคี่ยวเองแบบโฮมเมด ผ่านกรรมวิธีเฉพาะตัว ไม่ข้น หรือเค็มจนกลบรสชาติของเนื้อปลา ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม
เมนูแนะนำของร้าน Unagi Hirokawa Arashiyama
1. Unaju (うな重): ข้าวหน้าปลาไหลย่างในกล่อง Japanese Lacquered Box (เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน)
2. Kabayaki (蒲焼き): ปลาไหลย่างด้วยซอสหวานสูตรเฉพาะ
3. Shirayaki (白焼き): ปลาไหลย่างแบบไม่ราดซอส (เน้นรสของปลา)
4. ตับปลาไหล และของทานเล่นอื่นๆ
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดวันอังคาร – อาทิตย์ มื้อกลางวัน 11:00 น. – 14:30 น. และมื้อเย็น 17:00 น. – 20:00 น.
วันหยุด: ปิดทุกวันจันทร์
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 3,100 เยน (700 บาท) ขึ้นอยู่กับเมนูที่เลือก
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/QgCKVY58nq8iMhtD9
17. Sushi Naritaya | ย่าน Arashiyama

ร้าน Sushi Naritaya (すし 成田屋) เป็นร้านซูชิขนาดเล็ก ที่ตั้งอยู่ในย่านอาราชิยามะ (Arashiyama) เมืองเกียวโต ร้านนี้มีชื่อเสียงด้านซูชิคุณภาพสูงที่ทำจากวัตถุดิบสดใหม่ของท้องถิ่น และการบริการที่เอาใจใส่ หากใครกำลังมองหาร้านซูชิคุณภาพสูง ร้านนี้ถือเป็นอีกตัวเลือกที่ดี
เมนูแนะนำของร้าน Sushi Naritaya Arashiyama
1. Naritaya Best – เซ็ตซูชิที่ประกอบไปด้วย ปลาทูน่าที่มีไขมันแทรกมาก แซลมอน ไข่หอยเม่นทะเล และไข่ปลาแซลมอน และอื่นๆ ตามฤดูกาล รวมประมาณ 8 คำ
2. Naritaya Special – เซ็ตซูชิที่ประกอบไปด้วย ปลาทูน่าที่มีไขมันแทรกปานกลาง แซลมอน และกุ้ง รวมประมาณ 8 คำ เป็นเมนูที่เชฟแนะนำ
3. Medium‑Fatty Tuna – ซูชิปลาทูน่าที่มีไขมันแทรกปานกลาง
4. Fatty Tuna – ซูชิปลาทูน่าที่มีไขมันแทรกมาก
5. Eel / Unagi – ซูชิปลาไหลที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในเมนูที่ไม่ควรพลาด รสชาติกลมกล่อม
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: วันจันทร์, อังคาร, ศุกร์, เสาร์ และวันอาทิตย์ เปิด 11:00 น. ถึง 15:00 น.
วันหยุด: ปิดวันพุธ และวันพฤหัสบดี
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000 เยน (440 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/F8BVnLnTboQftVDy6
18. Saryo Tsujiri Tea House, Gion Main Store | ย่าน Gion

ร้าน Saryo Tsujiri Tea House, Gion Main Store ร้านชา ระดับพรีเมียมจากญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงในเรื่องของชาเขียวคุณภาพสูง โดยเฉพาะชาเขียวมัทฉะ นำเสนอในรูปแบบต่างๆ รวมถึงของหวานที่ทำจากชาเขียวมัทฉะ เช่น เค้กมัทฉะ ไอศกรีมมัทฉะ หรือ มัทฉะพาร์เฟต์ และยังมีเมนูมัทฉะโซบะ เส้นที่ทำจากชาเขียวให้ลิ้มลองอีกด้วย
เมนูแนะนำของร้าน Saryo Tsujiri Tea House, Gion Main Store
1. Shiratama Parfait – มัทฉะพาร์เฟต์ เมนูที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนที่ชื่นชอบการผสมผสานรสชาติของชาเขียวกับขนมหวานต่างๆ พาร์เฟต์นี้มักจะมี ไอศกรีมมัทฉะ เค้กมัทฉะ ถั่วแดง ครีม และคุกกี้ ทับกันเป็นชั้นๆ
2. Matcha Soft Serve Ice Cream – ไอศกรีมมัทฉะของร้านนี้มีความเข้มข้นและรสชาติชาเขียวที่เข้มข้นลงตัว ซึ่งถือเป็นเมนูยอดนิยมของร้าน
3. Matcha Cake – เค้กมัทฉะเนื้อเนียนนุ่ม และมีรสชาติชาเขียวอย่างแท้จริง
4. Matcha – ชาเขียวมัทฉะ จะได้ดื่มด่ำกับชาติของชาเขียวแท้ๆ
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 8:00 น. ถึง 18.00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 เยน (220 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/qXkPNvrajGJ6zzce6
19. Blue Bottle Coffee – Kyoto Kiyamachi Cafe | ย่าน Kiyamachi

ร้าน Blue Bottle Coffee – Kyoto Kiyamachi Cafe ร้านกาแฟ สาขาสอง เป็นที่รู้จักในวงการกาแฟสำหรับ การคัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพ และกระบวนการคั่วที่ละเอียดถี่ถ้วนร้านนี้มีการเสิร์ฟกาแฟสดๆ และเมนูต่างๆ ที่คัดสรรมาอย่างดี นอกจากนี้ยังมีการออกแบบตกแต่งที่เรียบง่ายแต่มีความสวยงาม มีการใช้วัสดุธรรมชาติและเน้นการใช้แสงธรรมชาติเพื่อให้บรรยากาศดูโปร่งและสบายตา
เมนูแนะนำของร้าน Blue Bottle Coffee – Kyoto Kiyamachi Cafe
1. Lavender Latte – กาแฟลาเต้ ที่ผสมผสานความหอมของลาเวนเดอร์
2. New Orleans Iced Coffee – กาแฟเย็นที่มีความพิเศษตรงที่มีรสชาติหวานนิดๆ จากการผสมกับนมข้นหวาน และมีความหอมจากการใช้น้ำตาลที่ผสมกับกาแฟ
3. Drip Coffee (Pour-Over) – กาแฟที่ถูกชงด้วยความพิธีพิถัน เพื่อให้ได้กาแฟที่มีรสชาติที่ดีที่สุด
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 9:00 น. ถึง 19.00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 เยน (220 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/dh5MRa1zFFVjCyXu7
20. Söt Coffee Kyoto Shichijo | ย่าน Shichijo

ร้าน Söt Coffee Kyoto Shichijo ร้านกาแฟในเกียวโต ร้านนี้มีความพิเศษในเรื่องของการเสิร์ฟกาแฟคุณภาพสูงในบรรยากาศที่อบอุ่นและสบาย เหมาะแก่การพักผ่อนและนั่งทำงาน หรือพูดคุยกับเพื่อนๆ คำว่า “Söt” ในชื่อร้านกาแฟนั้นมาจากภาษาสวีเดนที่แปลว่า “หวาน” หรือ “น่ารัก” ซึ่งสะท้อนถึงบรรยากาศอบอุ่นและการใส่ใจในทุกรายละเอียดของการบริการกาแฟในร้านนี้
เมนูแนะนำของร้าน Söt Coffee Kyoto Shichijo
1. Ice Coffee Cold Brew – เป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน กาแฟเย็นที่ผ่านการสกัดอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้รสชาติที่นุ่มนวลและไม่มีรสขมที่มากเกินไป
2. Matcha Latte – ใช้ มัทฉะ คุณภาพดี ซึ่งจะทำให้รสชาติไม่ขมเกินไปและมีความกลมกล่อม หอมสดชื่น และไม่หวานจนเกินไป โดยการผสมผสานระหว่างมัทฉะกับนมสดให้รสชาติที่ลงตัว
3. Ginger Latte – ของ Söt Coffee เป็นเมนูที่มีรสชาติเผ็ดร้อนจากขิงและความหวานจากนม เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างรสชาติเข้มข้นของกาแฟและขิงสด
ยังมีเมนูตามฤดูกาลที่มีความแตกต่างกันไป เช่น Pumpkin Spice Latte ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง หรือ Iced Matcha Lemonade ในช่วงหน้าร้อน
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 8:00 น. ถึง 18.00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 เยน (220 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/4o7t27BVpDhV1AocA
21. Kyo Yakiniku Shin Pontocho | ย่าน Pontocho

ร้าน Kyo Yakiniku Shin (京焼肉 新) หรือ Kyo Yakiniku Shin Sentochoten ร้านยากินิกุ (ปิ้งย่างญี่ปุ่น) ระดับพรีเมียม ตั้งอยู่ในย่าน Pontocho ใกล้แม่น้ำคาโมะ (Kamo River) ร้านนี้เชี่ยวชาญในการเสิร์ฟ Omi Beef ที่ได้รับการรับรองคุณภาพสูง A4–A5 จากจังหวัดชิงะ (Shiga) โดยเฉพาะเนื้อที่มีลายหินอ่อนและรสเข้มข้น เป็นหนึ่งในสามสุดยอดเนื้อวากิวของญี่ปุ่น (ร่วมกับ Kobe Beef และ Matsusaka Beef)
เมนูแนะนำของร้าน Kyo Yakiniku Shin Pontocho
1. Omi Beef Rare Hitsumabushi Set – เมนูเนื้อ Omi หั่นบางเสิร์ฟกับข้าว สามารถทานเปล่า จะจิ้มเครื่องปรุง หรือราดน้ำดาชิเป็นข้าวต้มก็ได้
2. Omi Beef Special Hits – เมนูเนื้อ Omi ระดับ Special หั่นบางเสิร์ฟกับข้าว สามารถทานเปล่า จะจิ้มเครื่องปรุง หรือราดน้ำดาชิเป็นข้าวต้มก็ได้
3. Yukhoe – หรือที่เราเรียกกันว่า ยุกเกะ เมนูเนื้อดิบที่ตกแต่งด้วยท็อปปิ้งพิเศษ อูนิ (Uni) ไข่ปลาแซลมอน (ikura) และ ทรัฟเฟิล (truffle) เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่ให้รสสัมผัสหรูหรา ทั้งกลิ่นอูนิ หรือความเค็มละมุนของ ikura และกลิ่นทรัฟเฟิล
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: วันจันทร์ – ศุกร์ เปิดเฉพาะและมื้อเย็น 17.00 น. – 23.00 น.
วันเสาร์ – อาทิตย์ มื้อกลางวัน 11.30 น. – 15.00 น. และมื้อเย็น 17.00 น. – 23.00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 3,000 เยน (670 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/nTocntpnx1oJWhef8
22. Wagyu Ryotei Bungo Gion | ย่าน Gion

ร้าน Wagyu Ryotei Bungo Gion ร้านเนื้อวากิวหรู ระดับพรีเมียม โดยร้านนี้จะเน้นใช้ Oita Wagyu วากิวคุณภาพสูงจากจังหวัดโออิตะ (OITA) เป็นที่รู้จักด้วย คอร์สวากิว Oita คุณภาพสูง บริการ “grill‑by‑staff” ก็คือจะมีคนมาคอยย่างให้เราโดยที่เราไม่ต้องย่างเอง ทำให้คุณสามารถทานเนื้อวากิวได้อย่างมีคุณภาพสูงสุด ได้รสชาติที่สมบูรณ์ เพราะถูกควบคุมการปรุงให้ออกมาอย่างดีที่สุด
เมนูแนะนำของร้าน Wagyu Ryotei Bungo Gion
1. Gion Premium Highest Grade Wagyu Chateaubriand & Sirloin – คอร์ส 11-12 จาน แต่เป็นวากิวระดับพรีเมียมที่เสิร์ฟเนื้อวากิวเกรดสูงสุดของร้าน Sirloin + Chateaubriand (เกรดสูงสุด)
2. Gion Special Wagyu Course – คอร์ส 11 จาน เนื้อจะใช้เป็น Sirloin + Chateaubriand (ระดับพรีเมียม)
3. Gion Advance Highest Grade Wagyu Sirloin – คอร์ส 10 จาน เนื้อหลักจะใช้เป็น Sirloin (เกรดสูง) คอร์สนี้จะไม่มี Roast Beef Chazuke กับ Chateaubriand 
อาหารในคอรส์ต่างๆ จะประกอบไปด้วย 1. สลัดผักกับชีส (เช่น Burrata หรือ Camembert) 2. ซาชิมิเนื้อวากิว (Oita Wagyu) 3.ซุปหางวัว 4. ลิ้นวากิวกับผักวาซาบิ 5.เนื้อดิบคลุกซอสทรัฟเฟิล (Truffle Yukhoe) 6. ชาบูชาบูเนื้อวากิวแบบ “ดอกไม้” 7. Sukiyaki เนื้อวากิว Sirloin 8. ข้าวเงินหม้อดินเผา (Donabe Silver Rice) 9. สเต๊ก Chateaubriand 10. ข้าวราดน้ำชากับเนื้อ (Roast Beef Chazuke) 11. ของหวาน *บางซีซั่นหรือวันพิเศษอาจเพิ่มจานเล็ก ๆ อีก 1 เมนู
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 17.00 น. ถึง 23.00 น.
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 10,000 เยน (2,150 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/b1vBvKqZKJeWQoc46
23. Hikiniku to Come (Kyoto) | ย่าน Gion

ร้าน Hikiniku to Come (Kyoto) ร้านแฮมเบิร์กสเต็ก สไตล์ญี่ปุ่น เป็นร้านอาหารที่โดดเด่นด้วยเมนูที่เรียบง่ายแต่พิถีพิถัน คอนเซปต์ คือ “บดใหม่ ย่างใหม่ หุงใหม่ ทุกคำ” และเสิร์ฟแบบทันทีทำให้ได้ความสดใหม่ เสิร์ฟคู่กับข้าวญี่ปุ่นหุงใหม่ในหม้อ “ฮากามะ” คุณภาพสูง เป็นข้าวจากจังหวัดอิวาเตะ วิธีการรับประทาน มีอยู่ 3 ขั้นตอน 1. ทานแฮมเบิร์กเปล่า 2. ทานคู่กับหัวไชเท้าขูด + ยูซุพอนสึ 3. ทานคู่กับไข่ดิบ (ทามาโกะ คาเกะ โกฮัง)
สามารถซื้อ “Advance Priority Ticket” ราคา 1,000 เยนต่อที่นั่ง เพื่อการันตีที่นั่งล่วงหน้า (จองได้ตั้งแต่ 8 วันถึง 2 เดือนล่วงหน้า)
เมนูแนะนำของร้าน Hikiniku to Come (Kyoto) Gion
1. Hikiniku to Come Set – เซ็ตแฮมเบิร์ก 3 ชิ้น (เสิร์ฟทีละชิ้น) เสิร์ฟพร้อมข้าวที่หุงจากหม้อฮากามะ (เติมฟรีไม่อั้น) ซุปมิโสะ และไข่ไก่สด
**** ที่ร้านจะขายแค่เมนูเดียว ****
วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: วันจันทร์, อังคาร, พฤหัสบดี, ศุกร์ รอบแรก 11.00 น. – 14.15 น. รอบสอง 17.00 น. – 20.20 น. (เปิด 2 รอบ)
วันเสาร์ – อาทิตย์ รอบแรก 8.00 น. – 10.00 น. รอบสอง 11.00 น. – 14.15 น. รอบสาม 17.00 น. – 20.20 น. (เปิด 3 รอบ)
วันหยุด: ปิดทุกวันพุธ
ราคา: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,800 เยน (400 บาท)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/fKF5KirowWMQsLFE9
บทความที่เกี่ยวข้อง
รวม 80 ร้านอาหารโตเกียว ร้านดัง ร้านอร่อย พร้อมเมนูแนะนำ
รวม 35 ร้านอาหารโอซาก้า อาหารญี่ปุ่น ปิ้งย่าง ชาบู ซูชิ ห้ามพลาด















